อุทยานสวนหินพุหางนาค อารยธรรมเมืองสุพรรณฯ

Home / นักเที่ยวเชี่ยวทาง / อุทยานสวนหินพุหางนาค อารยธรรมเมืองสุพรรณฯ

อำเภออู่ทอง เป็นหนึ่งในอำเภอสำคัญของจังหวัดสุพรรณบุรี ถ้าพูดถึงอู่ทอง คนส่วนใหญ่จะพากันนึกถึง “เมืองโบราณอู่ทอง” ที่เป็นต้นกำเนิดประวัติศาสตร์และอารยธรรมแห่งสุวรรณภูมิ อีกทั้งยังเป็นเมืองท่า เมืองศูนย์กลางการค้าของอาณาจักรทวารวดี รวมไปถึงเป็นจุดที่พระพุทธศาสนาเดินทางเข้าประดิษฐานเป็นแห่งแรกของเมืองไทย

อุทยานสวนหินพุหางนาค อารยธรรมเมืองสุพรรณฯ

อุทยานสวนหินพุหางนาค

สำหรับใครที่อยากรู้จักกับเมืองโบราณอู่ทองอย่างละเอียด อยากรู้ว่าเมืองนี้มีความสำคัญอย่างไร ผมขอแนะนำให้ไปปูพื้นเมืองอู่ทองและอาณาจักทวารวดีกันที่ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง” ที่จัดแสดงเรื่องราวของอารยธรรมทวารวดีและศิลปวัตถุสำคัญๆ มากมาย ด้วยเทคนิคการจัดแสดงสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปโบราณเก่าแก่ รูปปั้น เทวรูป ภาชนะ เครื่องใช้ เหรียญ เครื่องประดับ ตุ๊กตาดินเผาโบราณ รวมไปถึงธรรมจักรศิลาสมัยทวารวดีที่สมบูรณ์ที่สุดในเมืองไทย

นอกเหนือจากร่องรอยประวัติศาสตร์แล้ว ยังมีอีกหนึ่งความน่าสนใจ ของศิลปะ ที่รังสรรค์โดยธรรมชาติ ซึ่งไม่คาดคิดว่า ที่อู่ทองจะมีดินแดนนี้อยู่ด้วย

พุหางนาค

ที่ๆ เราจะพาไปนั้นมีชื่อย่อๆ ว่า พุหางนาค หากจะเรียบเต็มๆ แบบทางการก็คือ อุทยานสวนหินพุทธสถานทวารวดีอู่ทองนิเวศ ซึ่งเป็นสวนหินธรรมชาติ ทีเกิดขึ้นจากการก่อตัวของลาวาของภูเขาไฟ ที่ผ่านการกัดกร่อนจากแสงแดด ลมและน้ำฝน จนกลายเป็นรูปร่างต่างๆเช่น รูปพญานาค ช้างสามเศียร เต่า ปลาวาฬ ฯลฯ แล้วแต่จะจิตนาการ และยังมีต้นจันทน์ผาอายุหลายร้อยปี ต้นสลัดได ต้นพุดป่า ต้นจำปีป่า ต้นกระเจียวและกล้วยไม้ดินซึ่งเรียงรายผลิดอกสวย ตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมด้วย

เริ่มต้นออกเดินทางชมสวนหินอันน่าอัศจรรย์ ด้วยการนำทางของชาวบ้านอู่ทอง ที่พาเราลัดเลาะตามเส้นทางไปชมความงามของสวนหินบนเขาที่สลับซับซ้อน ระยะทางประมาณ 5 กม. เห็นจะได้

พุหางนาค

ตลอดทางเดิน ถูกแวดล้อมด้วยธรรมชาติ และตลอดทางจะพบ ใบเปราะ อยู่ติดดิน ใบเปราะเป็นสมุนไพรอย่างหนึ่ง แต่ชาวบ้านนิยมเอามายำ เป็นอาหารที่อร่อยทีเดียวค่ะ ชาวบ้านค่อนข้างจะรู้จักกันดี แต่ชาวกรุงอย่างเรา ก็อดจะตื่นเต้นไม่ได้

นอกจากใบเปราะแล้ว ก็มีดอกกระเจียวป่า เป็นพืชอีกชนิดที่ขึ้นอยู่ทั่วทั้งป่า เยอะไม่แพ้ทุ่งดอกกระเจียวที่ชัยภูมิเลยล่ะ นี่อดคิดถึงตอนที่ดอกกระเจียวในยามบานพร้อมกัน คงเพิ่มสีสันให้กับป่าแห่งนี้ทีเดียว

ตามเส้นทางเดิน เราก็จะได้พบกับหินที่ซ้อนกันเป็นรูปทรงต่างๆ เป็นรูปพญาคบ้าง บางกลุ่มหินก็เห็นเป็นรูปหน้าลิงบ้าง รูปแม่ปลาวาฬกับลูกน้อยก็มี แล้วแต่จินตนาการ

พุหางนาค

นอกจากสวนหินที่สวยงามโดดเด่นแล้ว ที่นี่ยังมีต้นไม้อายุหลายร้อยปี ที่น่าสนใจอยู่จำนวนมาก และยังรวมถึงศิลปะจากรากไม้ ที่รังสรรค์โดยธรรมชาติ ให้ปรากฏเป็นรากที่โอนเอนไปเกาะตามหิน งดงามมาก

ระหว่างทางจะมีจุดให้นั่งพัก ให้หายเมื่อย เป็นระยะๆ นั่งรับลม ชมวิว มองไปเบื้องล่างก็จะสามารถเห็นภาพเมืองอู่ทองได้อย่างชัดเจน หายเมื่อยแล้วค่อยเดินทางต่อไปชมความน่าอัศจรรย์
ใครจะเดินทางสู่ อ.อู่ทอง นี่ง่ายนิดเดียว จากกรุงเทพฯ ก็วิ่งเส้นบางบัวทอง-สุพรรณบุรี (หมายเลข 340) g,เมื่อถึงสุพรรณบุรี แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนมาลัยแมน (หมายเลข321) ผ่านหอนาฬิกาและสี่แยกไฟแดง ขับตามถนนมาลัยแมนก็จะถึง อ.อู่ทองระยะทางจากสุพรรณฯ ถึง อ.อู่ทอง แค่ประมาณ 40 กม. เท่านั้น

เส้นทางไม่ยาก ไม่ซับซ้อน ก็จะนำพาเราสู่เมืองอารยธรรม และความน่าอัศจรรย์บนขุนเขาของภาคกลาง

 

ที่มา : www.emaginfo.com  ภาพ : nairobroofanclub