เที่ยวจันทบุรี – ระยอง ใน 2 วัน 1 คืน

Home / นักเที่ยวเชี่ยวทาง, เที่ยวทะเล / เที่ยวจันทบุรี – ระยอง ใน 2 วัน 1 คืน

เที่ยวจันทบุรี – ระยอง ใน 2 วัน 1 คืน

 เที่ยวทะเล ที่เที่ยว จังหวัดจันทบุรี – ระยอง

เที่ยวจันทบุรี - ระยอง ใน 2 วัน 1 คืน

วัดเขาสุกิม

สวัสดีครับ ทริปนี้ก็เดินทางไปไม่ไกลจากกรุงเทพ  ที่สำคัญเทศกาลทานผลไม้ก็เริ่มฤดูกาลแล้วครับพี่น้อง ครั้งนี้เราเดินทางมาจ.จันทบุรี และระยองกัน เริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพก่อนนะครับ เราใช้เส้นทางไปจ.ระยอง จันทบุรี ได้  2 เส้นทางนะครับ โดยจะผ่านจ.ชลบุรีก่อน (ศึกษาแผนที่เดินทางดีกว่าเชื่อผมนะคร้าบจะได้ไม่หลง ฮิฮิ)

ทางเลือกที่หนึ่ง มาทางเส้นบางนา – ตราด สามารถขึ้นทางด่วนลอยฟ้าจากบางนาไปลงชลบุรีได้เลยนะครับ คือ ทางพิเศษบูรพาวิถี ทางด่วนสายบางนา-ชลบุรี ระยะทาง 55 กิโลเมตร ซึ่งนับว่าทางด่วนสายนี้เป็นทางยกระดับที่ยาวที่สุดในโลก (อู้ฮู้เพิ่งรู้นะเนี่ย^^) ค่าใช้จ่าย : เก็บเงินตามระยะทาง หรือเลือกจะเดินทางโดยใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข ๗ (กรุงเทพฯ – ชลบุรี) ก็ได้นะครับ ค่าผ่านทาง : ด่านละ 30 บาท จากนั้นเราก็มุ่งหน้าเดินทางไปจันทบุรี ช่วงเดินทางมีฝนตกพร่ำๆ เหมาะกับการนอนหลับ (เอาเปรียบคนขับรถนี่นา) จากนั้นเราก็เดินทางถึงจ.จันทบุรีแล้วครับ มาเที่ยวทั้งทีก็ขอพาเข้าวัดเข้าวา เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวก่อนดีกว่า

 900-attachment

 

วัดเขาสุกิม  ดินแดงอารยธรรม ขุมทรัพย์ธรรมะ ของภาคตะวันออก เขตต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ เป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาคึกคักตลอดปี ทางขึ้นมีรถรางให้บริการนำท่านขึ้นไปสักการะพระพุทธรูป และกราบไหว้สรีระร่าง พระวิสุทธิญาณเถร (หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย) ผู้ก่อตั้งวัดเขาสุกิม ซึ่งได้มรณภาพเมื่อ 18 มิถุนายน 2548

สละเนินวงศ์

จากนั้นแวะชมสินค้าของชาวสวนผลไม้ เช่น สละเนินวงศ์ (ตอนไปราคา 3 กิโลกรัม 100 บาท) เงาะโรงเรียน (กิโลกรัมละ 40-55 บาท) จริงๆ ซื้อกรุงเทพฯก็ได้ จะขนกลับมาทำไม๊ แต่เผื่อเป็นการช่วยชาติ แถมไปทั้งทีต้องซื้อสดจากไร่ ออกจากสวนเลย มีให้เลือกหลากหลายร้านค้า ชอบร้านไหนก็อุดหนุนร้านนั้น ยิ่งแม่ค้าสวยๆ ยิ่งอยากไปช่วยอุดหนุน (ซะงั้น)

น้ำตกกระทิง

จากนั้นเราก็ออกเดินทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ท้องที่อ.มะขาม กิ่งอ.เขาคิชฌกูฏ เป็นอุทยานที่เป็นต้นน้ำสำคัญของแม่น้ำจันทบุรี สภาพป่าในบริเวณนี้มีทั้งป่าดิบชื้น มียอดเขาพระบาทหรือที่เรียกกันว่ายอดเขาคิชฌกูฏ เป็นจุดชมทิวทัศน์ ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพ ชาวบ้านได้เล่ากันว่า สมัยที่ฝรั่งเศสยึดครองจันทบุรี ได้ใช้บริเวณนี้เป็นสถานที่ส่องกล้องดูข้าศึกที่จะเข้ามาทางอ่าวไทย ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า ห้างฝรั่งหรือเขาส่องกล้อง นอกจากจุดชมวิวแล้วบนเขายังมีรอยพระพุทธบาทปรากฏอยู่บนหินก้อนใหญ่ เป็นที่เคารพของพุทธศาสนิกชนทั่วไปและเดินทางไปนมัสการรอบพระพุทธบาทเป็นประจำในช่วงขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 ถึงแรม 15 ค่ำเดือน 4 ของทุกปี (แต่ต้องเดินขึ้นเขานะครับ ส่วนผมขอแวะชมความงามของน้ำตกกระทิงดีกว่า อยู่แค่ชั้น 1-2 สบายมาก) ถ้าเดินทางผ่านหน้าอุทยานฯ สามารถมองเห็นน้ำตกกระทิงที่ไหลเชี่ยวลงมาจากภูเขาได้ด้วยครับเป็นภาพที่สวยงามมากทีเดียว (เหมือนน้ำตกทีลอซูเลย) มีทั้งหมด 13 ชั้นจากนั้นเราแวะเข้าที่ทำการอุทยานเพื่อชมความงามของสายน้ำของน้ำตกกระทิง เสียค่าธรรมเนียมในการเข้าไปอุทยานด้วยนะครับ ในที่ทำการอุทยานมีทั้งน้ำตก คลองช้างเซ (อันนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมช้างเซได้ อยากรู้ต้องไปพิสูจน์เอง) น้ำตกคลองไพบูลย์ และมีอ่างเก็บน้ำให้นั่งพักผ่อน กิจกรรมพายเรือและขี่จักรยานน้ำ บ้านพักและเต้นท์บริการให้เช่า น้ำตกกระทิงชั้นล่างสามารถเล่นน้ำตก รายล้อมไปด้วยหมู่ผีเสื้อ สีสันงดงาม รู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติที่ยังคงอยู่ เต็ดเตร่อยู่สักพัก ก็ออกจากอุทยาน

 

ร้านลาบยโสธร

เริ่มคิดแว๊บๆ ว่ามาทั้งทีจะสรรหาอะไร ทานเป็นมื้อพิเศษดี และก็ผ่านตลาดเล็กๆ มีร้านอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ขายเรียงรายไปตามทาง วนไป เลี้ยวกลับบ้าง เดินหน้าถอยหลัง (ไม่ได้หัดขับรถนะ) จนมาเจอร้านนี้แหละ ใช่เลย !!!! มองแล้วหิวมั๊กๆ (ก็หาซะนานเลือกมากจริงๆ) ร้านลาบยโสธร ร้อนๆ อย่างนี้ต้องแซบหลายๆ ว่าแล้วก็สั่ง ต้มแซบกระดูกหมูอ่อน น้ำตกหมู ส้มตำ ทุกอย่างมาอย่างปกติ แต่ปลาดุกย่างนี่ซิ เห็นแล้ว งง !!!! ครับ ปลาดุกย่าง ทำไมหนังไม่ไหม้หว่า ตั้งแต่กินปลาดุกย่างมาเจอหนังไหม้ถึงไหม้มากๆ มองตอนแรกเมื่อไม่สุก แต่พอลองชิมสุกทั้งตัว (ถามเคล็ดลับมาแล้วแต่ผมไม่บอกอย่างนี้ต้องพิสูจน์เอง) ต่อด้วยน้ำแข็งไสร้านข้างๆ ดับร้อน ร้านอาหารที่ผมไปทานอยู่บริเวณทางไปน้ำตกกระทิง ผ่านวัดกะทิงก่อน สัก 800 เมตร ก็ถึงครับ จุดสังเกตร้านจะอยู่ก่อนป้ายบอก น้ำตกกระทิง 4 กิโลเมตร

 

ปลาโลมาแสนรู้

จากนั้นไปชมการแสดงปลาโลมาที่ OASIS SEA WORLD ต.ปากน้ำ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี มีการแสดงรอบ 09.00น. 11.00น., 13.00น, 15.00น, 17.00น. โลมาที่นี่มี 2 สายพันธ์ คือโลมาปากขวดกับโลมาหัวบาตรอิรวดี การแสดงใช้เวลาแป๊ปเดียวครับ จากนั้นจะมีการแสดงการสอนปลาโลมาให้ทำท่าต่างๆ อยู่ในบ่อเลี้ยงปลาโลมาขนาดใหญ่  เสร็จจากการชมโลมาเรียบร้อยแล้ว เราก็เคลื่อนขบวนกลับจันทบุรีกัน โดยลัดเลาะชายหาดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นชายหาดแหลมสิงห์ ที่นี่มีที่พักรีสอร์ทให้เราเลือกมากมายหรือถ้าชอบบรรยายกาศก็กางเต้นท์ได้นะครับ บริเวณนี้มีอาสาสมัครผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มาดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวนะครับ   เดินทางเลียบชายทะเลไปเรื่อย มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคุกขี้ไก่ (ฝรั่งเศสได้สร้างคุกขี้ไก่เพื่อใช้กักขังคนไทยที่ต่อต้านฝรั่งเศส) ตึกแดง (ฝรั่งเศสเข้ายึดเมืองจันทบุรี สร้างตึกแดงขึ้นเพื่อใช้เป็นที่พักและกองบัญชาการทหารฝรั่งเศส) หาดเจ้าหลาวทะเลที่เริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว มีที่พักรีสอร์ทให้เลือกราคาก็หลักพันขึ้นครับ แหลมเสด็จ หาดคุ้งวิมาน เสียดายที่ไม่ได้แวะนำรูปทะเลสวยๆ มาให้ชมกันเนื่องจากฝนตกปรอยๆ แต่จากที่เห็นตอนลงจากเนินเขาที่เราลัดเลาะชายทะเลจากแหลมสิงห์

สะพานแหลมสิงห์

นับว่าเป็นที่เที่ยวที่น่าไปสัมผัสอีกที่นึงนะครับ เราจอดด่านสุดท้ายของชายทะเล เมื่อฝนหยุดตกพอดีที่ อ่าวคุ้งกระเบน ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ เยี่ยมชมศูนย์การพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน และชมสถานแสดงพันธ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา ค่าเข้าชมฟรี แต่มีตู้สำหรับสมทบทุนเพื่อพัฒนานะครับ

 

 

 

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ อ่าวคุ้งกระแบน

สุดท้ายของวันนี้เราก็เข้าไปพักในตัวเมืองจันทบุรีครับ เป็นที่ๆ มีคนแนะนำผมมาครับ อยู่ในตัวเมืองมีปลาเยอะมาก ที่นี่เลยครับ วังปลารีสอร์ท ราคาตั้งแต่ 350 บาท (ห้องตึก) จนถึง VIP คืนละ 500 บาท (หลังเดี่ยว) ที่จอดรถก็ด้านหลังห้องพัก ปลอดภัยชัวร์ มีบริการพายเรือส่งอาหารจากห้องอาหารถึงระเบียงห้องเลยครับ ในบ่อก็มีปลามังกร ปลาสวาย หลังจากเข้าที่พักแล้ว

 

 

 จอดรถข้างที่พักได้ทุกหลัง

เราก็แวะเที่ยวชมยามเย็นของเมืองจันทบุรี ขับไปขับมาหลงมาเจอตลาดน้ำพุ และแล้วก็เดินดูซะหน่อยว่ามีอะไรขายบ้าง มีทั้งอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ขนมทานเล่น สาคูปากหม้อ ขนมหวาน และแล้วก็มาเจอของชอบของเด็กๆ เป็นเหมือนน้ำแข็งไสปั่นละเอียด มีป้ายบอกหน้าร้านว่าจ้ำบ่ะ มีหลากหลายเมนู ก็ลองซื้อมาทานกันดูนะครับมีห่อกลับบ้านด้วย

  

ร้านขายจ้ำบ๊ะ

สุนทรภู่ พระอภัยมณี

 

สินธุ์สมุทร

อนุสาวรีย์สุนทรภู่

เช้าวันที่สอง หลังจากเหนื่อยในการเที่ยวแบบเต็มอิ่มของโปรแกรมเมื่อวานแล้ว เราก็ขอเที่ยวแบบสบายๆ บ้างโดยเริ่มออกจากที่พักหลังจากทานอาหารแล้ว ก็เริ่มเดินทางกลับกรุงเทพฯ ผ่านจ.ระยอง เจออนุสาวรีย์สุนทรภู่ ต.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง เป็นอนุสารีย์ตามเรื่องราวของพระอภัยมณี แวะเล่นน้ำ ทานอาหารกันที่หาดบ้านเพ นั่งรอคนเล่นน้ำทะเล ทานอาหารร้านน้องนุ้ย ร้านนี้อร่อยถูกปากผมครับ ราคาไม่แพง เจอกันทริปต่อไปครับ

 

เที่ยวจันทบุรี – ระยอง ใน 2 วัน 1 คืน