ไหว้พระรับปีใหม่ไทยกับ Mthai ปี 56 – ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่
เทศกาลสงกรานต์ กำลังจะมาแล้ว ใครหลายคนยังไม่รู้จะเที่ยวไหน หรือทำกิจกรรมอะไร ในช่วงเทศกาลหยุดยาวเช่นนี้ดี แนะนำให้ไปทริปสั้นๆ ง่ายๆ เหมือนที่ Travel MThai ใจดี พาสมาชิก อิ่มบุญ อิ่มใจ ต้อนรับ ปี 56 ด้วยการ” ไหว้พระ 5 วัด บวกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัด สุพรรณบุรี “เอาฤกษ์เอาชัย เริ่มต้นปีใหม่ในฉบับคนไทยอย่างมีความสุข ว่าแล้วขอพาสมาชิกมิตรรักผู้อ่านทุกท่านบุกสุพรรณบุรี สักการะพระพุทธรูปสำคัญ และสถานอันศักดิ์สิทธิ์ กันเลยครับ
สำหรับกิจกรรม “ต้อนรับปี 56 ไหว้พระ 5 วัด บวกหนึ่งสถานศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัด สุพรรณบุรี กับเอ็มไทย” เว็บไซต์ Mthai ร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่แสนดีจาก โออิชิ และ LG นำทุกท่านไปทำบุญไหว้พระ ที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยเราจะไปไหว้พระกันทั้งหมด 5 วัดดังของที่นี ซึ่งจะเริ่มจาก ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สุพรรณบุรี, วัดพระศรีรัตนม-หาธาตุ, วัดแค, วัดพระนอน, วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร และปิดท้ายที่ วัดไผ่โรงวัว
ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
สถานที่แรกของทริปไหว้พระขอพร เราจะมาสักการะ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สุพรรณบุรี นั่นเอง ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เป็นประติมากรรมสลักหินแบบนูนต่ำ เป็นศิลปะแบบขอม อายุประมาณ 1300-1400 ปี มีพระนามว่า พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือ พระนารายณ์สี่กร มีหน้าที่ช่วยเหลือมนุษย์ และเหล่าสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ ประสพแต่ความสุขความเจริญ เช่นเดียวกับพระโพธิสัตว์ เจ้าแม่กวนอิม ตามคำบอกเล่าต่อๆ กันมา เมื่อประมาณ 150 ปีมาแล้ว มีผู้พบพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร จมโคลนอยู่ตรงริมศาลเจ้าพ่อ ชาวบ้านจึงช่วยกันอัญเชิญขึ้นข้างบน พร้อมกับสร้างศาลใหม่ให้เป็นที่ประทับ มีคนจีนชื่อ เฮียกง เป็นผู้ดูแลรักษาเรื่อยมา และมีความเชื่อกันว่า หากได้มากราบไหว้แล้ว จะนำมาซึ่งโชคลาภ ความร่ำรวย ความสำเร็จ และความสุข มาให้
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
หลังจากสักการ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สุพรรณบุรี เอาฤกษ์เอาชัยแล้ว เรามาเริ่มทัวร์ 5 วัด ในจังหวัดสุพรรณ์บุรี กันเลย เริ่มจากที่แรก วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เป็นวัดที่สำคัญตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำสุพรรณบุรี ในสมัยก่อนเป็นศูนย์กลางของเมืองสุพรรณ เป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง มีอายุไม่ต่ำกว่า 600 ปี พระปรางค์องค์ประธาน เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ แต่ได้ถูกชาวบ้านลักลอบขุดค้นหาทรัพย์สินจนทรุดโทรมไปมาก นักโบราณคดีหลายท่าน ให้ความเห็นว่าน่าจะเป็นศิลปะการก่อสร้างในสมัยอู่ทองสุพรรณภูมิ เพราะหลักฐานการก่อสร้าง เป็นการก่ออิฐไม่ถือปูน ซึ่งเป็นวิธีการเก่าแก่ก่อนสมัยอยุธยา
วัดแค
ชมวัดเก่าแก่ก่อนสมัยอยุธยาไปแล้ว มาไหว้พระขอพรวัดที่ 2 กัน คือ วัดแค วัดแห่งนี้มีประวัติมายาวนานมาก ชื่อ วัดแค เคยปรากฏอยู่ในวรรณคดีขุนช้างขุนแผน ซึ่งกล่าวถึงวัดแคอยู่หลายตอน ด้วยเป็นวัดที่ขุนแผนได้มาเรียนวิชาเสกใบมะขามเป็นตัวต่อ ตัวแตน กับ สมภารคง เพราะที่วัดแคมี ต้นมะขามยักษ์ ขนาดใหญ่ ๙ คนโอบ อายุนับร้อยปี เชื่อกันว่า เป็นต้นเดียวกันที่สมภารคง ได้ใช้สอนวิชาเสกใบมะขามเป็นตัวต่อตัวแตนให้ สามเณรแก้ว หรือ ขุนแผน เมื่อครั้งมาจำพรรษาอยู่ที่ วัดแค นอกจากนี้ทางจังหวัดได้สร้างเรือนไทยทรงโบราณเรียกว่า “คุ้มขุนแผน” ไว้ใกล้กับต้นมะขามยักษ์นี้อีกด้วย
เราจะลงไปไหว้องค์พระในโบสถ์กันก่อน คือ สักการะพระพุทธมงคล ตามความเชื่อของชาวบ้านละแวกใกล้เคียงว่า สมัยนั้นการเดินทางต้องใช้แม่น้ำท่าจีน พ่อค้าแม่ค้า หากผ่านหน้าวิหารหลวงพ่อให้อธิษฐานน้ำในแม่น้ำ มาประพรมสินค้าที่จะนำไปขาย เมื่อถึงตลาดของจะขายดีเป็นเทน้ำ เทท่า หรือหากใครมาทำมิดีมิร้าย หรือลบหลู่ บ้างจะเห็นองค์หลวงพ่อโยกซ้ายโยกขวาให้เห็น เป็นต้องเผ่นหนี
วัดพระนอน
เราได้ทราบความเป็นมาของสถานที่จริง ที่อยู่ปรากฏอยู่วรรณคดีไทยอย่าง วัดแค ไปแล้ว มาเริ่มกันต่อในวัดที่ 3 วัดพระนอน โดยวัดนี้สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ ภายในวัดมี อุทยานมัจฉา อยู่บริเวณริมน้ำหน้าวัด มีปลานานาชนิดชุกชุมสวยงาม และยังมีวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์สลักจากหิน มีลักษณะแปลกกว่าที่อื่น คือ เป็นพระพุทธรูปอยู่ในลักษณะนอนหงายขนาดเท่าคนโบราณ ยาวประมาณ 2 เมตร ลักษณะคล้ายกับพระนอนที่ เมืองกุสินารา ประเทศอินเดีย สถานที่ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งใน Unseen Thailand อีกด้วย
วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร
มาไหว้พระขอพรวัดที่4 กันเลย คือ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร วัดนี้เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดวรวิหาร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่ามีอายุราว 1200 ปีชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า วัดป่า ภายในวิหาร เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโต ปางป่าเลไลยก์ ศิลปะสมัยอู่ทอง สุพรรณภูมิ ประทับนั่งห้อยพระบาท มีนักปราชญ์หลายท่านว่าหลวงพ่อโตเดิม คงเป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา สร้างไว้กลางแจ้งเหมือนพระพนัญเชิงในสมัยแรกๆ เพราะมักจะพบว่า พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สร้างในสมัยก่อนอยุธยา และอยุธยาตอนต้น
ส่วนมากนิยมสร้างไว้กลางแจ้ง เพื่อให้สามารถมองเห็นได้แต่ไกล ภายในองค์พระพุทธรูปนี้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้มาจากพระมหาเถรไลยลาย จำนวน 36 องค์ หลวงพ่อโตเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนในจังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ตรงข้ามวิหารวัดมีร้านขายสินค้าที่ระลึกพื้นเมือง หลายร้านให้แวะเลือกซื้อ ด้านหลังวัดมี “คุ้มขุนช้าง” ซึ่งสร้างเป็นเรือนไทยไม้สักหลังใหญ่กว้างขวาง นอกจากนี้ใครที่ชอบเสี่ยงเซียมซี จะบอกว่าที่นี่แม่นมาก ลองเข้าไปเสี่ยงโชคกันในโบสถ์
วัดไผ่โรงวัว
เราก็มาถึงวัดสุดท้ายของ เที่ยวไหว้พระขอพร ที่จังหวัดสุพรรณบุรี กันแล้ว คือ วัดไผ่โรงวัว เชื่อว่าชื่อนี้คุ้นหูสำหรับใครหลายคน อย่างน้อยต้องเคยได้ยินชื่อวัดแห่งนี้แน่นอน เพราะวัดนี้ได้จำลองทั้งนรกและสวรรค์เอาไว้ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสุพรรณบุรี ด้วยสถาปัตยกรรมปูนปั้นสวรรค์ – นรก ที่แสดงภาพบาปบุญคุณโทษให้เห็นได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากรูปปั้นมากมายที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว ภายในวัดยังมี พระพุทธโคดม พระพุทธรูปโลหะสำริดองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศ ที่ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 17 ปี (พ.ศ. 2502-2519) และพระกกุสันโธ พระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาว ปางมารวิชัย สูง 28 วา 2 ศอก หน้าตักกว้าง 20 วา เป็นดั่งสัญลักษณ์ของวัด ที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล
ทีมงาน Travel MThai หวังว่าทริป อิ่มบุญ อิ่มใจ ไหว้พระขอพร ที่จังหวุดสุพรรณบุรี จะเป็นหนึ่งตัวเลือกสำหรับใครหลายคน ที่ยังนึกไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี ในช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ในแบบได้ไปเที่ยวสนุก ทำบุญอิ่มเอมจิตใจ ไปพร้อมๆ กัน ทริปไหว้พระขอพร 5 วัด ที่สุพรรณนี้ สมาชิกมิตรรัก ลองไปเที่ยวกัน
แผนที่ สุพรรณบุรี
สงกรานต์ 56 ปีใหม่ไทย ขอให้ทุกท่านโชคดี สุขภาพแข็งแรง เดินทางปลอดภัยทุกๆ คน แล้วเจอทริปดีๆ เปี่ยมไปด้วยบุญกันใหม่ครั้งหน้า สวัสดีครับ……..
สงกรานต์เที่ยวไหนดี? เรามีคำตอบ!
ขอบคุณข้อมูล : suphan.biz
เรียบเรียงโดย Travel MThai