เมษานี้จะไปเดินเล่นบนหิมะขาวๆ ที่อินเดีย บอกใครๆ ตามนี้จะมีเครื่องหมายคำถามบนใบหน้าจากผู้คนลอยมาเกือบทุกคน อินเดียนี่นะ???
เลห์ – ลาดักห์ ทิเบตน้อยแห่งเทือกเขาหิมาลัย ตอน 1
อืมช่าย อินเดีย นี่แหล่ะไปทางเหนือๆ หน่อยเห็นในรูปเค้าว่าเป็นสวิสเซอร์แลนด์แห่งเอเชียเชียวน่ะ (บอกหลายคนก็ยังคิดภาพไม่ออกอยู่ดี) จุดหมายครั้งนี้มีพิกัดที่เมืองลาดัก (Ladakh) โดยมี เลห์(Leh) เป็นเมืองเป้าหมายหลัก….
ซื้อคู่มือพาเที่ยว ลาดักห์ มาตั้งนานแล้วไม่ได้มีโอกาสเสียที ชวนใครก็ไม่มีใครไปด้วยกลัวอาบังอินเดียกันทั้งนั้น ทำไงดีทีนี้สงสัยต้องหาทัวร์ไปเสียแล้วเพราะเดินทางคนเดียวที่อินเดียครั้งแรกด้วยข้อมูลที่มีในหัวเพียงเล็กน้อยแต่ใจอยากไปมากๆ คงไม่พอ แล้วอยู่ๆก็มีเพื่อนกดไลค์เพจๆ หนึ่งขึ้นมาโชว์ที่หน้าเฟสเรา เฮ้ยยย+++อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น Leh Crazy มันใช่ที่ๆ เราจะไปเลยนี่นา
เจรจากับแอดมินเพจนี้ประมาณสามชั่วโมงเลยเชื่อใจ เออ.. เราเจอคนที่บ้า ตกหลุมรักเมืองๆหนึ่งโดยไม่มีเหตุผล อธิบายอย่างไรก็คงไม่เข้าใจว่าทำไมแอดมินเพจ Leh Crazy ถึงหลงใหลเมืองนี้อย่างบ้าบอตามชื่อเพจยังไงยังงั้นเลย คงต้องไปโดนมนต์ เมือง เลห์ ด้วยตัวเองสักครั้งละมั้ง ดูสิว่าจะหลงรักไม่เป็นท่าอย่างหลายๆคนที่เป็นหรือเปล่า…
การเดินทางไป เลห์ อินเดียครั้งนี้ไม่ยากซับซ้อนอะไรมาก นั่งเครื่อง Indigo air จากสุวรรณภูมิเที่ยวตี 2.20 น. ไปถึงสนามบินอินทรา คานธี 5.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งช้ากว่าเมืองไทย 1.5 ชม. จากนั้นมาต่อสารการบินในประเทศอีกอาคารหนึ่งเดินทางไปเลห์ ด้วยการการบิน Go Air ด้วยเวลา 1.30 ชม.พร้อมวิวระดับเฟริสคลาสของภูเขาสีน้ำตาลที่มีหิมะขาวโพลนเป็นท๊อปปิ้ง นาทีนี้คนลุ่มต่ำอย่างเรากดชัตเตอร์รัวแบบนอนสต๊อปครึ่งชมก่อนเครื่องแตะพื้นรันเวย์ของสนามบิน เลห์ อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน..เริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองโดนมนต์หิมาลัยเข้าจังๆ ซะแล้ว
เมืองเลห์ (Leh) เป็นเมืองหลวงของแคว้นลาดักห์และเมืองเลห์เองยังเป็นเมืองสำคัญในประวัติศาสตร์ลาดักเพราะเป็นเมืองที่ประทับของราชวงศ์นัมเกล กษัตริย์ผู้มีเชื้อสายลาดักมาหลายร้อยปี เมืองลาดักเองได้เยือนแล้วจะรู้สึกได้เลยว่าเราอยู่สักที่ของทิเบตเพราะด้วยหน้าตาและความเป็นอยู่ของชาวลาดักห์ ออกจะไปทางชาวทิเบตเสียมากกว่าจนใครๆ พากันเรียกดินแดนแถบนี้ว่าเป็น “ทิเบตน้อย”
มาถึง เลห์ นาทีแรกยังไม่รู้สึกว่าเราอยู่บนพื้นที่สูงกว่า 3500 เมตร แต่พอเราเคลื่อนไหวตัวตอนเดินและก้าวขึ้นบันไดเท่านั้นแหล่ะรู้ถึงอาการสามก้าวหอบแฮ่กๆ เป็นอย่างนี้นี่เอง นี่ขนาดกินยา Diamox เพื่อช่วยเรื่องการหายใจที่ทางแอดมิน Leh Crazy แนะนำมาแล้วยังไม่วายรู้สึกถึงอาการผิดปกติของตัวเองบนพื้นที่สูง แต่วันถัดมาร่างกายเราจะปรับตัวได้เองเพียงแต่เราทำกิจกรรมอะไรๆ ให้ช้าลงกว่าที่เคยทำแล้วทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้น(ความรู้สึกนี้เทียบจากสภาพร่างกายของเราเองน่ะเคสบายเคสจ้า)
การเที่ยวเมืองเลห์ครั้งนี้ เรามีท่าน ลามะเจมส์ เป็นไกด์ แรกๆก็รู้สึกเกร็งที่พระพาเที่ยวแต่พอเที่ยวๆ ไปคุ้นเคย เอิ่มมม มากะพระได้อารมณ์การเที่ยวเมืองพุทธอย่างเลห์ ไปอีกแบบเพราะ ลามะเจมส์ ไม่เพียงลึกซึ้งกับสถานที่สำคัญๆที่ท่านคุ้นเคยโดยเฉพาะวัดเก่าเท่านั้น เรื่องนอกเขตวัดท่านก็จัดเต็มพาพวกเราไปซึมซับกับวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ความเป็นอยู่และแนวคิดของชาวเลห์ ที่ยึดมั่นในหลักธรรมทางจิตใจมากกว่าวัตถุนอกกาย
วิถีเลห์ที่เราเจอมาด้วยตัวเองจนอดคิดตามไม่ได้ว่าธรรมชาติที่บริสุทธิ์สวยงามของเลห์กล่อมเกลาชาวเลห์ ให้มีจิตใจบริสุทธ์หรือความสะอาดทางจิตใจของชาวเลห์ กันแน่ที่ทำให้ความเป็นธรรมชาติของที่นี่ดูบริสุทธิ์อย่างที่เห็น แม้บริเวณโดยรอบเมืองจะเต็มไปด้วยแค้มป์ทหารอินเดีย บรรยากาศความเป็นเลห์ก็ยังคงสวยไม่เปลี่ยน…คำตอบหาได้จากความรู้สึกของตัวคุณยามได้สัมผัสเมืองเลห์…ตอน 1 ดูภาพรวมให้ฟินกันไปก่อน.. ตอน 2 จะพาไปดูไฮไลท์สถานที่ๆไม่ควรพลาดกัน รวมทั้ง Exclusive ชีวิตลามะที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน….
วิวมุมสูงของเทือกเขาหิมาลัย อลังการจริงๆ ^__^
อัลบั้มภาพ 36 ภาพ
-.63+
View Larger Map
เรื่อง jasmine rice
บทความโดย Travel MThai