ได้ยินมาว่า บนเกาะรัตนโกสินทร์มีพิพิธภัณฑ์เปิดใหม่ ชื่อว่า พิพิธบางลำพู แล้วคนกรุงอย่างผมจะพลาดได้ไงล่ะงานนี้
ออกเดินทางสู่ย่านบางลำพู ย่านการค้าเก่าแก่ทรงเสน่ห์ ย่านของกินสารพัด มีความหลากหลายของวัฒนธรรมและผู้คนมายาวนาน ปัจจุบันบางลำพูยังขึ้นชื่อว่าเป็นย่านที่พัก แหล่งท่องเที่ยวและแหล่งบันเทิงที่นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้จักกันดี
เที่ยวบางลำพู เพลินพิพิธแสนสนุก ตามหาขุมทรัพย์บางลำพู
อันที่จริงผมเองก็มาบางลำพูบ่อยอยู่นะ เพราะร้านอร่อย ร้านโปรด อยู่ที่นี่เพียบ เวียนมากินได้ไม่เบื่อ แต่ครั้งนี้จุดประสงค์ผมเปลี่ยน ผมเลยกลายเป็นคนหลงทิศอยู่พักใหญ่ เพราะเดินตรอกซอกไหน ก็ไม่มีวี่แววของ พิพิธบางลำพู ว่าแต่ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ไปตั้งอยู่ตรงไหนละเนี่ย
แล้วก็ถึงบางอ้อ เมื่อผมเลี้ยวออกจากบางลำพู มาสู่ถนนพระอาทิตย์ ใกล้ๆกับป้อมพระสุเมรุ ผมเจอกับอาคารปูนสีขาว ตรงกลางมีทางเข้า ติดป้ายอยู่ชัดเจนว่า ที่นี่ “พิพิธบางลำพู”
ที่ตรงนี้จริงๆแล้วเป็นอาคารโรงพิมพ์คุรุสภา โดยกรมธนารักษ์ดำเนินการบูรณะซ่อมแซม เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ และศูนย์การเรียนรู้เชิงการศึกษาวัฒนธรรมชุมชน
ว่ากันว่าชาวบ้าน ต้องต่อสู้กันเสียนานกว่าจะได้มาเป็นพิพิธบางลำพูแห่งนี้ ที่จะเก็บสินทรัพย์อันล้ำค่าของชาวบางลำพูไว้ให้คนรุ่นหลังได้มาดู มาเห็นความงามของท้องถิ่นเดิม
จะเข้าชมพิพิธบางลำพู ที่นี่จะเปิดเป็นรอบๆ ทุกๆ 30 นาที ก่อนจะเข้าไปชมภายในพิพิธภัณฑ์ ก็จะพอมีเวลาให้เดินชมนิทรรศการหมุนเวียนอย่างอิสระ
ในช่วงที่ผมมานี้ มีนิทรรศการ “เอกบรมองค์ราชินี” จัดแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคล 82 พรรษา ที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสมเด็จพระราชินีนาถก็เนื่องจากอาคารหลังนี้ก่อสร้างขึ้นในปี 2475 ซึ่งเป็นปีประสูติของพระองค์นั่นเอง
และห้องนิทรรศการถัดมา คือ “ป้อมเขตขัณฑ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์” ที่ทำให้เห็นความเป็นมาของเมื่อแรกเริ่มสร้างกรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี กลางห้องมีแนวกำแพงเก่าที่จำลองขึ้น ทำให้ทราบเรื่องราวของ “กำแพงป้องธานี” เกี่ยวกับการสร้างกำแพงพระนครและเกร็ดความรู้เรื่องการหล่ออิฐด้วยเทคนิคช่างโบราณ มีกำแพงเมืองแล้วก็ต้องมี “คูคลองล่องลำนำ” คูเมืองรอบพระนคร และคลองสำคัญต่างๆ ในกรุงรัตนโกสินทร์ ที่ทำให้เกิดย่านชุมชนย่านการค้าต่างๆ ขึ้น
“ประตูคู่วิถี” บทบาทของประตูเมืองที่มีส่วนสำคัญกับความเป็นอยู่ของผู้คนในอดีต มีทั้งประวัติความเป็นมา ชื่อและตำแหน่งประตูเมือง ทั้งประตูวังหน้าและประตูวังหลวง อีกทั้งยังมี “ป้อมปกนครา” ซึ่งเป็นเรื่องของป้อมเก่าแก่ทั้ง 14 ป้อมรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ที่ปัจจุบันเหลือเพียง 2 ป้อมเท่านั้น และหนึ่งในนั้นก็คือ “ป้อมพระสุเมรุ” คู่ย่านบางลำพูนั่นเอง
เมื่อได้เวลา เจ้าหน้าที่ก็จะพาขึ้นไปสู่นิทรรศการชั้นบนกัน เริ่มตั้งแต่ทำความรู้จักกับความเป็นมา และบทบาทหน้าที่ของกรมธนารักษ์ ขั้นตอนการผลิตเหรียญ รวมไปถึงเรื่องราวเกี่ยวกับการจัดสรรดูแลที่ราชพัสดุอีกด้วย
และแล้ว ก็ถึงเวลาออกตามหาขุมทรัพย์บางลำพู ขุมทรัพย์ทั้งหมด ถูกซ่อนอยู่ในอาคารไม้ด้านหลัง
แค่เข้ามาห้องแรกก็ตื่นตาตื่นใจ เพราะเขาจัดเป็นเหมือนห้องหนังสือในบ้านไม้เก่า ฉายภาพยนตร์สั้นๆ “สีสันบางลำพู” บอกเล่าถึงบางลำพูที่คนทั่วไปรู้จัก ไม่ว่าจะเป็นแหล่งของกินอร่อย สวนสาธารณะของชาวพระนคร รวมไปถึงแหล่งบันเทิงยามค่ำคืน ก่อนที่ประตูไม้จะถูกหมุนเปิดอัตโนมัติ ออกไปสู่ห้อง “เบาะแสจากริมคลอง”
ฉากริมคลองสวยงามตระการตา พาย้อนกลับไปยังดงลำพูในอดีตผ่านภาพยนตร์ที่ฉายลงบนผนังและพื้นผิวน้ำที่จำลองเป็นคลองบางลำพู ให้เห็นผู้คนหลากเชื้อชาติที่อาศัยร่วมกันในย่านบางลำพู ทั้งชาวไทย มอญ ลาว เขมร แขกตานี และจีน
แล้วก็นำเรามาเข้าใกล้ขุมทรัพย์มากขึ้น พาเรารื่นเริงไปกับ “พระนครเซ็นเตอร์” ที่มีรถรางสีเหลืองคันใหญ่จอดรอผู้โดยสาร แล้วก็มีบรรดาสื่อบันเทิงสมัยอดีต อย่าง ลิเกคณะหอมหวล ที่ให้เราลองมาแต่งเป็นพระเอกนางเอกลิเก หรือชมหนังกลางแปลงลอดรูสังกะสี หนังโรงจากโรงภาพยนตร์บุศยพรรณ ร้านคาราโอเกะ ที่เป็นตัวแทนของย่านบางลำพูในอดีต แหล่งรวมมหรสพความบันเทิงที่เฟื่องฟูที่สุดในพระนคร
นอกจากนั้นในห้องนี้ยังรวบรวมเอาร้านค้าเก่าแก่ในย่านบางลำพูมาจัดแสดงให้ชมกันด้วย อาทิ ร้านกาแฟโรงเตี๊ยมเล็กๆ ร้านรองเท้าแก้วฟ้า ร้านเสื้อนพรัตน์ รวมไปถึงห้างหุ้นส่วนจำกัดตั้งฮั่วเส็ง ที่มีชื่อเสียงคู่บางลำพูมานาน
แต่การจะเข้าถึงในวิถีชีวิตความเป็นบางลำพูจริงๆ นั้นจะต้องเข้าไปสัมผัสในชุมชนจึงจะดีที่สุด ในห้องจัดแสดง “ย่ำตรอกบอกเรื่องเก่า” จะพาผู้เข้าชมได้ใกล้ชิดและซึมซับกับวิถีชุมชน รู้จักของดีย่านบางลำพูที่ซุกซ่อนอยู่ในตรอกซอกซอยต่างๆ ที่คนภายนอกอาจไม่เคยรู้ เช่น การปักชุดโขนของ “ชุมชนตรอกเขียนนิวาส-ตรอกไก่แจ้”“บ้านดุริยประณีต” บ้านพานถม การตีทองคำเปลวและทำธงของชุมชนวัดบวรรังสี
การแทงหยวกของชุมชนวัดใหม่อมตรส การทำข้าวต้มน้ำวุ้นและใบลานของชุมชนวัดสามพระยา ชุมชนทำแหวนรุ่น ที่บ่มเพาะช่างทองหลวง คนที่ชอบการท่องเที่ยววิถีชีวิตต้องไม่พลาดโซนนี้เด็ดขาด
และสุดท้ายคือ ต้นลำพูร้อยปี ที่เคยอยู่ในสวนสันติชัยปราการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์เก่าแก่และเป็นที่มาของชื่อบางลำพู โดยปัจจุบันต้นได้ถูกโค่นไปแล้ว ซึ่งกิ่งหนึ่งของต้นลำพูจำลองนี้เป็นกิ่งต้นลำพูของจริงจากชิ้นส่วนของต้นลำพูร้อยปีที่ยังคงหลงเหลือไว้ให้เป็นที่ระลึก ทำให้ต้นลำพูได้เกิดใหม่อยู่ภายในพิพิธบางลำพู
ร้อยเรื่องเล่า พันเรื่องราว จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณธ์แห่ง ที่จะทำให้คุณจะได้สัมผัสและรับรู้ว่า “ขุมทรัพย์บางลำพู” มีอยู่จริง
บทความน่าอ่านจาก http://www.emaginfo.com ร่วมกับ travel.mthai.com