เที่ยวเม็กซิโก สบตาอารยธรรมชนเผ่ามายัน มีชื่อเสียงมากเรื่องของชายหาดสวย น้ำทะเลใสกิ้งยังกับคริสตัลเมื่อต้องแสงอาทิตย์
ประเทศเม็กซิโก หรือสหรัฐเม็กซิโก ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ มีทิศเหนือติดกับประเทศสหรัฐอเมริกา ทิศใต้ติดกัวเตมาลาและเบลิซ ทิศตะวันออกติดอ่าวเม็กซิโกและทะเลแคริบเบียน ทิศตะวันตกติดมหาสมุทรแปซิฟิกและอ่าวแคลิฟอร์เนีย ฟังแค่นี้ก็ต้องร้องโอ้ว…ว้าว แล้ว ลองคิดดูว่าชัยภูมินั้นน่าพิศสมัยมากแค่ไหน ซึ่งก็เป็นอีกประเทศหนึ่งนอกเหนือจากกลุ่มประเทศแถบยุโรปที่เราตกหลุมรัก อาจจะเป็นด้วยการคุ้นชินกับคนยุโรปอย่างชาวสเปน เลยทำให้รู้สึกว่าชาวเม็กซิกันก็ดูไม่ค่อยจะแตกต่างกันสักเท่าไหร่ ที่สำคัญชาวเม็กซิกันพูดภาษาสเปน ซึ่งใช้เป็นภาษาราชการ เนื่องจากประเทศเม็กซิโกเคยตกเป็นประเทศใต้อาณานิคมของสเปนมาก่อน อาจทำให้รับเอาวัฒนธรรมมามากอยู่ ที่สำคัญอาหารเม็กซิกันนั้นโดนใจจริงๆ รสชาติถูกปาก
ในความเผ็ดร้อน อร่อยสุดๆ แถมพริกเค้ายังมีให้เลือกความเผ็ดอีกต่างหาก ตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงขั้นด๊อกเตอร์เลยเชียว ไม่รู้ว่าปลูกกันอย่างไร
เมืองหลวงมีชื่อเดียวกันกับประเทศคือ กรุงเม็กซิโกซิตี้ เม็กซิโกมีภูมิอากาศอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 12-30 องศาเซลเซียส แต่ทางภาคเหนือและภาคตะวันตกจะมีภูมิอากาศแบบทะเลทราย ซึ่งต่างกันแบบสุดขั้ว เนื่องจากเป็นประเทศที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,200 เมตร ประกอบด้วยภูมิประเทศที่มีความหลากหลาย จึงทำให้มีอุณหภูมิที่แตกต่าง และปริมาณอ๊อกซิเจนมีระดับต่ำ หากมาเที่ยวก็ต้องดูแลสุขภาพกันด้วย การเดินเที่ยวในกรุงเม็กซิโกซิตี้ จะเห็นบริการหาบเร่ อย่าง ช่างขัดรองเท้า จำนวนมาก เดินคอยให้บริการขัดรองเท้าซะเงาวับ อย่างกับหนังฝรั่งสมัยก่อน
มาถึงดินแดนที่มีพื้นที่ติดกับทะเลแคริบเบียนทั้งที ก็แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องไปนอนผึ่งแดดกันซะหน่อย ซึ่งเป็นจริงดังคาด เม็กซิโกมีสถานที่ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเรื่องของชายหาดสวย ที่ทอดยาวไปตามแนวทะเลแคริบเบียน และน้ำทะเลนั้นใสกิ้ง ยังกับคริสตัลเมื่อต้องแสงอาทิตย์
เมืองพลาย่า เดล คาเมล หรือชื่อเดิม “Xaman Hu” แปลว่า สายน้ำทางเหนือ ซึ่งยังเป็นเมืองที่หลงเหลือหลักฐานการมีตัวตนของชาวมายา อันที่จริงคำว่า พลาย่า หรือออกเสียงว่า ปราย่า ในภาษาสเปน นั้นแปลว่า ชายทะเล จึงไม่แปลกที่เป็นชื่อของเมืองนี้
ที่นี่เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในการตกปลาเป็นอย่างยิ่ง เพราะเมืองนี้มีประเพณีเกี่ยวกับการตกปลา จะว่าไปบรรยากาศก็คล้ายๆ กับทางลงชายหาดทั่วไป ที่มีร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม มากมาย แต่ชายหาดแห่งนี้ลมแรงมากๆ จึงเหมาะสำหรับการเล่นวินเซิร์ฟ รวมทั้งกิจกรรมการดำน้ำดูปะการัง หรือเล่นเรือคายัค เรียกว่ามาที่เดียวคุ้ม
เมืองพลาย่า เดล คาเมล ยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่รอบเมือง อย่างเช่น
Chichen Itza มีหลักฐานทางอารยธรรมของชนเผ่ามายัน ที่รู้จักกันคือปิรามิด Kukulcan ซึ่งมีความสมบูรณ์ที่สุด มีความสูง 30 เมตร ต้องเดินขึ้นบันไดเพื่อไปชมทัศนียภาพจากด้านบน
Tulum เป็นสถาปัตยกรรมของชนเผ่ามายันที่ตั้งอยู่ใกล้ทะเลแคริบเบียนมากที่สุด เพียงออกจากเมือง พลาย่า เดล คาเมล ไปเพียง 30 นาที ก็จะได้พบกับทัศนียภาพที่สวยงามจับใจ
ระหว่างทางก็จะมีร้านค้าขายของที่ระลึก ซึ่งเป็นงานหัตถกรรมตามแบบเม็กซิกัน แต่ที่สะดุดตาคือร้านขายผลไม้ที่หน้าตาแสนคุ้นเคย อย่างมะละกอ กล้วย ส้ม มันช่างป็นพืชเขตร้อนคล้ายบ้านเราเสียจริง แต่ขนาดมันใหญ่กว่าเหมือนขนาดพลเมือง อย่างไงอย่างนั้น
Cozumel เป็นเกาะแห่งกิจกรรมที่สวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่ง โดยตั้งอยู่ห่างจากเมือง พลาย่า เดล คาเมน ไปประมาณ 18 กิโลเมตร เหมาะสำหรับการฝึกดำน้ำเพื่อเตรียมความพร้อมในการท่องโลกใต้ท้องทะเล เพราะมีกิจกรรมดำน้ำที่ต่างระดับความลึก หากลึกลงไปถึงระดับพันเมตร ก็จะได้ยลโฉมเจ้าฉลามหัวฆ้อน หรือปลาไหลเมอเรย์ เนื่องจากความลึกระดับนี้ จะมีถ้ำอยู่ใต้ท้องทะเล เป็นที่ตื่นตาตื่นใจ และใจเต้นระรัว
ใกล้ๆ กันก็ยังมีสถานที่ฝึกและโชว์ปลาโลมาสร้างความน่ารักน่าเอ็นดูได้ใจผู้ชมไปเต็มๆ ที่เกาะแห่งนี้เหมือนสวรรค์น้อยๆ ของเต่าทะเลจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังมีโชว์การแสดงท้องถิ่นมากมาย หากเดินชมไปรอบๆ ก็จะเห็นนักแสดงแต่งตัวพื้นเมืองแบบต่างๆ ให้ดูกันเพลินตา
Riviera Maya หากใครที่เคยเรียนศิลปะคงคุ้นเคยกับชื่อนี้เป็นอย่างดี ก็คือชื่อของศิลปินชาวเม็กซิกันชื่อก้องสามีของฟริด้า คาร์โล ศิลปินติสแตกขวัญใจเราเอง จะเกี่ยวกันรึเปล่าไม่รู้ แต่ก็น่ามีส่วน สถานที่แห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของชายหาดที่ทอดยาวเป็นระยะทางถึง 125 กิโลเมตร ผ่านหมู่บ้านเล็ก หมู่บ้านน้อยที่เงียบสงบ และยาวไปถึง พลาย่า เดล คาเมน เหมาะแก่การพักผ่อนสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติและความสงบ
Xpu Ha เป็นชายหาดที่อยู่ระหว่าง พลาย่า เดล คาเมน กับ Tulum ซึ่งเป็นชายหาดที่สวยที่สุดในความคิดของเรา และเป็นชายหาดที่สวยที่สุดในเขต Riviera Maya เนื่องจากหาดทรายที่ขาวละเอียด น้ำทะเลสีเทอร์คว์อยใสกิ้ง แถมยังมีกระโจมเล็กๆ รูปทรงเก๋ไก๋ไว้ให้ซ่อนตัวหลบแดดอีกด้วย ที่สำคัญช่างเงียบสงบช่วยผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี อ้อ…และแล้วก็ได้คำตอบ
เกี่ยวกับศิลปินติสแตกของเราว่า มันเกี่ยวข้องกันจริงๆ กับชื่อชายหาด เนื่องจากแอบเห็นของที่ระลึกเกี่ยวกับ ฟริด้า คาโล และ ริเวียร่า สามีสุดเลิฟวางขายอยู่มากมาย เพราะแกทั้งคู่ก็มีบ้านน้อยไว้รังสรรค์งานศิลปะที่งดงามอยู่แถวๆ นี้
ขอปิดท้ายทริปนี้ที่อาหารเม็กซิกันที่เลื่องชื่ออย่าง Guacamole (กวัว คาโมลี) ที่ทำจากอโวคาโด หัวหอม และผักชี เสริฟคู่กับแป้ง Tortillas อาหารจานนี้เป็นที่นิยมไปทั่วโลก เนื่องจากรสชาติที่รุนแรงตามสูตรเม็กซิกัน แต่เรานั้นสุดชอบความมันของอโวคาโด อีกทั้งความหอมฉุนของผักชี เมื่อกินคู่กับแป้งกรอบที่เสริฟมาคู่กันนั้น อืม…สุดยอด
เม็กซิโกยัง คงหลงเหลืออารยธรรมของชนเผ่ามายันไว้ให้คนรุ่นหลัง ได้ศึกษา หากใครชอบประวัติศาสตร์จะรู้ว่าชนเผ่ามายันนั้น เป็นชนเผ่าลึกลับและมีอารยธรรมที่น่าสนใจไม่แพ้ชนเผ่าใดในโลก อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีการรวมกันของความต่างชาติพันธุ์ ที่สืบทอดเชื้อสาย มาจากชาวอินเดียนแดง อยากรู้ อยากลงลึก ต้องไปเยือนถิ่นละตินอย่างเม็กซิโก
เรื่องโดย Omyim
บทความน่าอ่านจาก http://www.emaginfo.com ร่วมกับ travel.mthai.com