มาตามสัญญา กับ การรีวิว Sanrio Hello Kitty Town เมืองยะโฮร์ บาห์รู ประเทศ มาเลเซีย หลังจากที่คราวที่แล้ว ผมได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของมาเลเซีย โดยภาพรวม สำหรับทริป 4 วัน 3 คืน ว่าจะน่าเที่ยวอะไรกันบ้าง คราวนี้ผมขอยกเอา Sanrio Hello Kitty Town มาแนะนำแบบเจาะลึก ชมภาพสวยๆ กันแบบอิ่มเอมกันเลยทีเดียวครับ
Hello Kitty Town จะอยู่ภายในตึกนี้ ต้องสังเกตกันหน่อยครับ ภายในนี้ชั้นล่างสุดจะมี Lat’s Place ซึ่งเป็นร้านอาหาร ที่เก๋ไก๋ดี มีการแสดงให้ชมระหว่างทานอาหารด้วยแฮะ, ชั้น 1, 2, 3 ก็จะเป็นที่อยู่ของ Kitty Town, The Little Big Club และ Thomas and Friends ตามลำดับ
Sanrio Hello Kitty Town ตั้งอยู่ในอาคาร Puteri Harbour Family Theme Park ซึ่งที่นี่จะมี 3 ชั้น แยกกันระหว่าง Kitty, The Little Big Club และ Thomas and Friends และค่าตั๋วเข้าชมก็จะแยกกัน หรือใครจะเหมารวมก็ได้ จะได้ราคาถูกกว่า ราวๆ 110 RM หรือประมาณ 1,150 บาท เอาละ ตามมาเลยครับ ไปชมข้างใดกันว่า สวยแค่ไหน
เริ่มต้นกันที่ชั้นแรกก่อน ชั้นนี้ เป็น พอขึ้นไปก็จะเห็นบรรยากาศที่หวานแหวน สีชมพู ตั้งแต่ประตูทางเข้ากันเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้จะมีพนักงานต้อนรับ คอยแนะนำว่า ตรงไหนมีอะไรน่าสนใจบ้าง หรือจะไปดูที่บอร์ด Information เอาเองก็ได้
ทางเข้า Sanrio Hello Kitty Town หวานแหวว สวยงาม
ทางขวามือจะมีบอร์ด Information และตารางกิจกรรมต่างๆ ตามเวลาที่กำหนดไว้
ชั้นนี้เป็นแหล่งรวมของพวกเขาเหล่านี้แหละ ทั้ง Kitty, Sanrio, Badte-maru และตัวอื่นๆ เพียบ
เข้าซุ้มแรกก่อนก็จะเป็นบ้านคิตตี้แสนสวย
รูปปั้นคิตตี้ตัวเบ้อเริ่มยืนทักทายพร้อมถือคฑารูปหัวใจ เหมาะกับการถ่ายรูปคู่ยิ่งนัก
มุมนี้แหละ รายไหนรายนั้น เป็นต้องแชะ เอาไปอวดเพื่อนๆ กัน ไม่เว้นแม้แต่ทีมงานจาก แอร์เอเชียทั้งสอง
มุมถ่ายจากด้านหลัง มีโซฟาให้นั่งถ่ายรูปได้เหมือนกัน
เดินเข้าไปอีกหน่อย จะเป็นห้องคอมพิวเตอร์ โต๊ะเล่นเปียเนีย อันสวยงาม
ชั้นวางของใช้ต่างๆ ทั้งกระเป่า ตุ๊กตา พวงกุญแจก็ดูน่ารักดี
อันนี้เป็นโซนครัว ก็ออกแบบได้สวยงานเช่นกัน
อ่างอาบน้ำ สำหรับคิตตี้ ใครจะหามาใช้ที่บ้านก็ต้องเสาะหากันยากหน่อยแหละ
ห้องนอนและเตียงนอนอันสุดสวย ของคิตตี้
มุมนี้ก็สวยพร้อมตุ๊กตาคิดตี้ตัวใหญ่ น่ารัก
ออกจากบ้านคิตตี้แบบน่ารักสดใส ก็จะเป็นแนวมืดบ้าง เป็นอีกมุมหนึ่งของ Kitty นั่นคือ Hello Kitty Black Wonder มีอะไรน่าสนใจ และชวนสงสัยเหมือนกันนะ
คิตตี้ในแบบที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยๆ
ภายในนี้ จะมีห้องลับที่เป็นที่ซ่อนของ Code ลับต่างๆ เพื่อให้ผู้เข้ามาชมเข้าไปเล่นเกม ถ้าสามารถหาโค้ดลับเจอ ทั้งหมด 5 ตัวอักษร ก็จะได้รับใบประกาศนียบัตรด้วย
ใบประกาศนียบัตร Kitty เมื่อหาโค้ดได้ครบทั้ง 5 ตัว
ส่องกันใหญ่ ตรงจุดนี้ จะมีตัวอักษรและภาพแปลกๆ ให้เราดูด้วย
ภาพภายในห้องโถง หลังจากที่เดินออกมาจาก Hello Kitty Black Wonder
กิจกรรมหนึ่งของชั้นนี้ก็คือ การได้ถ่ายรูปคู่กับ Kitty และ Daniel นั่นเอง ภาพนี้ได้คุณปุ๊ แจ๋วพารวย มาช่วยเพิ่มสีสันด้วย เอ้าาาา จุ๊บ แจ๋ววววววว
และอีกหนึ่งกิจกรรม ที่พลาดไม่ได้นั่นคือ การทำคุ๊กกี้ลายคิตตี้สำหรับสาวๆ และ การทำเข็มกลัดลายคิตตี้ สำหรับหนุ่มๆ แต่งานนี้จะสลับกันทำก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด
เอาล่ะ ถ้าจะเสนอกันทุกจุดคงไม่ต้องไปชั้นอื่นพอดี เอาเป็นว่า ยังมีอีกหลายจุด ที่น่าสนใจ นำเสนอไม่หมดแน่ๆ รอไปชมกันเอาเองดีกว่าครับ เรามดูชั้นที่ 2 กันบ้างดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
ขึ้นบันไดเลื่อนไปอีกชั้น จะเป็นศูนย์รวมของ The Little Big Club ของเล่นสารพัดความสนุก รอเด็กๆ อยู่ที่นี่แล้วครับ จะเป็นอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
ทางเข้า The Little Big Club ความสนุกรอน้องๆ อยู่ด้านในนี้แล้ว
เด็กๆ ไม่ควรพลาดกับบ้านและสวนของ Barney มีมุมให้ถ่ายรูปหลายมุมเลยทีเดียว
Pingu มีของเล่นสำหรับน้องๆ หนูๆ ด้านใดด้วย
ห้อง Angelina’s Dance
แต่งตัวสวยๆ แดนซ์ได้ ไม่จำกัดวัยจริงๆ
ไปต่อที่ ชั้น 3 กันเลยดีกว่า ยิ่งสูงยิ่งสนุก ชั้นนี้เป็นชั้นของ Thomas และ เพื่อนๆ เช่น Bob The Builder, Bertie the Bus เป็นต้น
ชั้นที่ 3 Thomas and Friends
เริ่มกันที่ Bertie the Bus วันที่เราไป มีเด็กๆ มาทัศนศึกษากันเพียบ ให้เด็กๆ เล่นไปก่อนนะ
ผู้ใหญ่ก็มาบั๊มกันดีกว่า กับ Bumping Buffer Steamies and Diesels Ride
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายอย่าง ที่ยังไม่ได้ลองเล่นเลย อย่างน้อยต้องอยู่ที่นี่ ราวๆ 3-4 ชั่วโมงจึงจะเล่นได้ครบทุกอย่างครับ
เหนื่อยจากการเล่นของเล่นทั้ง 3 ชั้นแล้ว ก็ลงมาชั้นล่าง หาซื้อของที่ระลึก ของเล่น กระเป๋าคิตตี้ และเพื่อนๆ ได้ที่ชั้นล่างเลยครับ
ของที่ระลึก ของเล่น กระเป๋าต่างๆ ตุ๊กตา ของแท้แน่นอน ต้องแวะซื้อกันได้ที่นี่
สำหรับราคาค่าตั๋วเข้าชม ดูได้ตามตารางด้านล่างนี้เลยครับ สำหรับใครที่พาเด็กๆ ไปด้วย คิดว่าน่าจะใช้เวลาเที่ยวที่ Sanrio Hello Kitty Town แห่งนี้ ราวๆ 2-3 ชั่วโมงนะ ส่วนอีกครึ่งวัน สามารถไปเที่ยวต่อได้ที่ Legoland ซึ่งผมจะนำมารีวิวอีกครั้งนะ ครั้งนี้ขอตัวก่อน แล้วเจอกันที่ Legoland ครับ
สนับสนุนการเดินทางโดย การท่องเที่ยวมาเลเซีย และ สายการบินแอร์เอเชีย