เปลี่ยนฟีลมาท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรมกันบ้าง รับรองว่าถูกใจคนรักผลไม้แน่นอน เพราะเราจะพาไปเที่ยว ฟาร์มเมล่อน ทั้งใกล้และไกลกรุงเทพฯ ได้เดินชมฟาร์ม ชิมเมล่อนหวานๆ อาหารที่ทำจากเมล่อน แล้วยังมีกิจกรรมสนุกๆ มุมถ่ายรูปเด็ดๆ กับบรรยากาศดีๆ แถมบางแห่งยังได้ความรู้เรื่องการทำเกษตรอินทรีย์อีกด้วย
ฟินเวอร์! 8 ฟาร์มเมล่อน ในไทย
ชิมเมล่อนลูกโต สดๆ จากสวน
1. Coro Field จ.ราชบุรี
ฟาร์มเมล่อนสไตล์ญี่ปุ่น ตกแต่งแบบมินิมอล คือเรียบง่ายแต่มากด้วยประโยชน์การใช้งาน เป็นจุดแวะพักที่คุณสามารถอยู่ได้ทั้งวันโดยไม่เบื่อ เพราะ Coro Field มีกิจกรรมให้ลงมือทำมากมาย ทั้งการปลูกผัก เก็บผลมะเขือเทศ ตกแต่งต้นไม้ และยังมีมุมถ่ายรูป มุมพักผ่อนที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ รวมถึงร้านอาหารที่ใช้ชื่อว่า Coro Cafe อิ่มอร่อยไปกับอาหารและเครื่องดื่มสูตรพิเศษเฉพาะตัว พร้อมจับจ่ายซื้อสินค้าทางการเกษตรมากมาย
เวลาทำการ : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น. และ วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00 – 21.00 น.
ที่ตั้ง : อำเภอ สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนเพชรเกษมผ่านจังหวัดนครปฐมไปทางจังหวัดราชบุรี เมื่อถึงจังหวัดราชบุรีให้เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 3087 ตรงตามทางไปประมาณ 40 กิโลเมตร จะพบ Coro Field อยู่ทางด้านซ้ายมือ
2. อินทร์โตฟาร์ม จ.อ่างทอง
ฟาร์มเมล่อนที่มีโรงเรือนขนาดใหญ่กว่า 40 หลัง และปลูกเมล่อนกว่า 10 สายพันธุ์ ซึ่งที่นี่เราสามารถเข้าไปตัดผลเมล่อนเองได้ด้วยนะ ใครสนใจสามารถแจ้งทางฟาร์มล่วงหน้าไว้เลย นอกจากเมล่อนลูกโต รสชาติหวาน กรอบ อร่อยแล้ว ยังมีเมนูอาหารคาวหวานสารพันที่นำเมล่อนไปเป็นส่วนผสม ไม่ว่าจะเป็นเมล่อนปั่น ไอศกรีมเมล่อน บิงซูเมล่อน บัวลอยเมล่อน วาฟเฟิลเมล่อน โอ้โหหหเยอะขนาดนี้ ต้องไปลองให้รู้ซะหน่อย
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.
ที่ตั้ง : ตำบล ศรีพราน อำเภอ แสวงหา อ่างทอง
3. สวนวาสนาเมล่อน จ.อยุธยา
สวนวาสนา เมล่อน เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ผลิตและจำหน่ายเมล่อน-แคนตาลูป 8 สายพันธ์ุ บนพื้นที่กว่า 170 ไร่!! ซึ่งเราอาจเคยได้กินเมล่อนของเขาแล้วก็ได้ เพราะเขาส่งขายให้กับห้างสรรพสินค้าดังๆ อย่าง ท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ต, กูร์เมต์ มาร์เก็ต, โกลเด้นท์ เพลส เป็นต้น ภายในสวนเราจะได้เรียนรู้วิธีการปลูก เทคนิคขั้นตอนต่างๆ รวมถึงได้เลือกซื้อผลผลิตสดๆ จากสวนเองเลยด้วย ลูกเมล่อนโตๆ กับเนื้อหวานอร่อยแบบนี้ จะไม่ซื้อกลับไปเป็นของฝากก็จะใจร้ายเกินไปแล้ว
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 16.00 น.
ที่ตั้ง : ตำบลละโสม อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
4. บ้านเมล่อน จ.ฉะเชิงเทรา
ไหว้พระหลวงพ่อโสธรเสร็จแล้ว ก็แวะไปเที่ยวต่อที่บ้านเมล่อน อยู่ใกล้ ๆ กับศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน เป็นบ้านที่มีฟาร์มเมล่อนอยู่ด้านหลัง เป็นเมล่อนสายพันธุ์ญี่ปุ่นแท้ถึง 8 สายพันธุ์ ซึ่งปลูกหมุนเวียนตลอดทั้งปี ทำให้มั่นใจเลยว่ามีเมล่อนให้ทานกันทุกวันแน่นอน สำหรับใครที่มีเด็กๆ มาด้วย ทางฟาร์มเขาก็มีกิจกรรมให้อาหารแกะ ป้อนนมแกะ แล้วยังมีเป็ดน้อยมาเดินโชว์ความน่ารักอีกด้วย รับรองว่าจะสนุกสนานจนไม่อยากกลับบ้านเลยค่า
ขอบคุณภาพจาก : Baan Melon บ้านเมล่อน
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 11.00-19.00 น.
ที่ตั้ง : ถนน 304 ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
5. พ.ฟาร์ม จ.นครนายก
ขอบคุณภาพจาก : พ.ฟาร์ม
ฟาร์มเมล่อนปลอดสารพิษ ในบรรยากาศดีเวอร์ๆ ล้อมรอบด้วยทิวเขาตัดกับวิวทุ่งนา ที่นี่นอกจากเราจะได้เดินชมเมล่อนลูกโตๆ ในแปลงปลูก ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำอีก ไม่ว่าจะเก็บเมล่อนจากต้น หรือ ทำขนมจากเมล่อน แล้วไปนั่งคาเฟ่ไม้ไผ่ ทานของอร่อยสารพัดเมนูที่มีเมล่อนเป็นส่วนประกอบ เช่น เมล่อนสมูตตี้ ซาลาเปาเมลอน ไอศกรีมเมล่อน พายเมล่อน ส้มตำเมล่อน ฯลฯ งานนี้ฟินกันไปยาว ๆ
เวลาทำการ : 09.00-17.00 น. (หยุดทุกวันพุธ)
ที่ตั้ง : พ.ฟาร์ม หมู่ 8 ต.เขาเพิ่ม อ.บ้านนา จ.นครนายก
6. ตั้งถาวรฟาร์ม จ.สุรินทร์
เมล่อนของที่นี่มีความหอม หวาน กรอบ และสดมากๆ เพราะเขามีโรงเพาะปลูกของตัวเอง แถมยังเอาไปทำเป็นเมนูอาหารสารพัด ทั้งบิงซูเมล่อน เมล่อนสมูตตี้ ส้มตำเมล่อน สลัดเมล่อน รวมถึงมีกาแฟ และชาต่างๆ บริการด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ตั้งถาวรฟาร์ม ยังมีโรงเรือนปลูกผักออแกนิคอีกต่างหาก จึงมั่นใจได้เลยว่า อาหารทุกจาน ของหวานทุกเมนู สะอาดปลอยภัยต่อกระเพาะอาหารชัวร์ๆ
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
ที่ตั้ง : ถนนสตึก-
7. โอโซนฟาร์ม จ.เชียงราย
ขอบคุณภาพจาก : โอโซน ฟาร์ม
เป็นฟาร์มเมล่อนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่กลางทุ่งนา มองเห็นภูเขาโอบล้อม เรียกว่าบรรยากาศดีมากๆ ได้สูดโอโซนเต็มๆ ปอด สมกับชื่อ โอโซนฟาร์ม เลยล่ะค่ะ ด้วยความใส่ใจในทุกขั้นตอนตั้งแต่การเพาะปลูกไปจนถึง
เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมฟรี ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 19.00 น.
ที่ตั้ง : หมู่บ้านแม่เปิน ซอย 9 ต.แม่คำ อ.แม่จัน, เทศบาลนครเชียงรา
8. ฟาร์มเมล่อน บางหว้า
ฟาร์มเมล่อนเล็กๆ ย่านฝั่งธนบุรี ใกล้สถานีบางหว้า แวะมาชิมเมล่อนเนื้อหวาน กรุบกรอบ ที่ตัดสดใหม่จากสวน จากนั้นเดินชมแปลงผักปลอดสารพิษ มะเขือเทศ และฟาร์มไก่ไข่ ถ้าร้อนนักก็พักเหนื่อย ดื่มน้ำเมล่อนเย็นชื่นใจ หรือน้ำเมล่อนปั่น ก็ช่วยดับกระหายได้อย่างดี
เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.
ที่ตั้ง : ถนนราชพฤกษ์ขาออก แขวงบางจาก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ