คู่มือไหว้พระ ๙ วัด วันสงกรานต์ ดับร้อน ไทยร่มเย็น
จากเหตุการณ์ล่าสุดการ ปะทะ กันระหว่าง ตำรวจทหาร และ กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง อาจจะทำให้ภาพลักษณ์ และสภาวะการณ์ต่างๆตึงเครียดได้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จึงสร้างแคมเปญ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” ขึ้น (Songkran Splendours)
โดยหนึ่งในแคมเปญดังกล่าวคือ ไหว้พระเสริมสิริมงคล ๙ พระอารามหลวง (๑๐ – ๑๘ เมษายน ๒๕๕๓) ครับ
* คุณจะสงสัยว่า ผมใช้ ตัวเลขแบบไทยๆ เพราะนี่คือ เทศกาลปีใหม่ไทย อยากจะอนุรักษ์ความเป็นไทยๆไว้ครับ
ณ วันที่ทำข่าวนี้ เรามีผู้ร่วมเดินทาง คือ คุณสุรพล เศวตเศรณี ผู้ว่าการ ททท. อ.คฑา ชิณบัญชร น้องนุ่น เพื่อนสนิท (นุ่น ศิรพันธ์) เจมส์ แม้กกี้ และ วีเจเติ้ง (สามคนหลังจาก ภาพยนตร์เรื่อง ๙ วัด ซึ่งน้องนุ่นบอกว่า เกี่ยวกับเรื่องบาปบุญ น่าไปชมครับ)
“นุ่น ศิรพันธ์เองค่ะ มาร่วมทำบุญ ๙ วัดกับทุกท่าน แล้วไปดู หนังเรื่อง ๙ วัด ด้วยนะคะ”
เอาล่ะ เรามาเริ่มกันที่แต่ละวัดกันครับ พร้อมกับประวัติ และความมงคลของแต่ละวัดโดยย่อ (อยากอ่านเพิ่ม ผมจะมาโพสท์อีกทีครับ)
๑. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)
คติ “เพื่อจิตใจสะอาด ดุจรัตนตรัย”
เครื่องสักการะ ธูป ๓ ดอก เทียน ๑ เล่ม ดอกไม้
วัดพระแก้ว เป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง กรุงเทพฯ ตั้งแต่สมัย รัชกาลที่ ๑ เป็นวัดในมหาราชวัง โดยที่เป็นที่ประดิษฐานของ พระแก้วมรกต ด้วย
เดิม พระแก้วมรกต ถูกค้นพบทางภาคเหนือ (ตำนานเล่าว่า จ. เชียงราย) ตั้งแต่สมัยเป็นที่ อาณาจักรล้านนา ต่อมา ได้รับการอัญเชิญไปยังอาณาจักรล้านช้าง (ลาว) ก่อนที่จะได้รับอัญเชิญมายังกรุงเทพในสมัยรัชการที่ ๑
ความ แปลกของ พระแก้วมรกต คือ เนื้อแก้วมรกต (หยก) เป็นการแกะสลักที่ปราณีต และยากมาก เพราะใช้โลหะแกะสลักไม่ได้ จะต้องใช้ไม้ไผ่ฝนน้ำเท่านั้น จึงเชื่อว่า ฝีมือของช่างแกะสลักช่างวิเศษนัก และทำด้วยแรงศรัทธามากๆ
และฐานของ พระแก้วมรกตไม่เรียบ จึงไม่สามารถตั้งบนที่ราบได้ และนั่นเป็นตำนานที่บอกว่า พระแก้วมรกต ต้องประดิษฐานบนบุษบกเท่านั้น
แม้จะมีการบูรณะเรื่อยๆ แต่วัดพระแก้ว ก็ยังคงสวยงามตลอดเวลา
คุณสุรพล ผู้ว่าการ ททท. ร่วมกับ อาจารย์ คฑา ชิณบัญชร และนักแสดงนำเรื่อง ๙ วัด กล่าวเปิดแคมเปญไหว้พระ ๙ วัด
คุณสุึรพล แสดงพาสปอร์ต ไหว้พระเก้าวัด และพระเครื่องพิเศษในโอกาส ๕๐ ปี ททท. ซึ่งจะแจกกับผู้โชคดีที่ลุ้นรางวัล เพื่อประทับตราลงในพาสปอร์ตครบ ๙ วัด (กรุณา ถามหาพาสปอร์ต ที่ซุ้มของการท่องเที่ยวฯ ณ วัดใดวัดหนึ่ง ใน ๙ วัดที่พูดถึงอยู่นี้)
ระหว่างที่ถ่ายทำ มีคณะทัวร์กำลังอธิบายให้นักท่องเที่ยว นำดอกบัว จุ่มน้ำมนต์แล้วพรมหัวตนเองเป็นสิริมงคล เราเห็นว่าเป็นภาพที่น่ารักดี โดยเฉพาะสามี ภรรยาชาวฝรั่ง แลกกับพรมน้ำมนต์แก่กัน
๒. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
คติ “ร่มเย็นเป็นสุข”
เครื่องสักการะ ธูป ๙ ดอก เทียนคู่ ทองคำเปลว ๑๑ แผ่น
วัดโพธิ์ สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๑ เช่นกัน เป็นวัดที่มีความมงคลอย่างสิ่ง เช่น เจดีย์น้อยใหญ่มีทั้งหมด ๙๙ องค์ มีรูปปั้นจีน เครื่องอับเฉา (สำหรับถ่วงเรือสำเภาในสมัยโบราณ) มีรูปปั้นฤาษีดัดตน ซึ่งปัจจุบันมีการแพทย์แผนโบราณภายในวัดโพธิ์ด้วย
และ อีกสิ่งหนึ่งก็คือ พระนอนวัดโพธิ์ ซึ่งมีความยิ่้งใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ ที่พระบาทของพระพุทธรูป มีมงคล ๑๐๘ ประการ และคุณสามารถทำบุญหยอดเหรียญ ๑๐๘ บาตร ด้วยครับ
ทางวัดประชาสัมพันธ์ว่า ตลอดช่วงสงกรานต์ นั้นจะมีการแสดงศิลปะไทย แสง สี เสียงให้ชมด้วยครับ
พระนอน ภายในวัดที่สวยงาม
น้องนุ่น ศึกษา มงคล 108 ประการบนพระบาทของพระนอน
หยอดเหรียญลงบาตร เชื่อว่าเป็นมงคลแก่ชีวิต
๓. วัดสระเกศวรมหาวิหาร (ภูเขาทอง)
คติ “เสริมสร้างความคิดอันเป็นสิริมงคล”
เครื่องสักการะ ธูป ๙ ดอก เทียน ๑ เล่ม ดอกบัว ๓ ดอก
เดิมที เป็นวัดตั้งแต่ก่อนสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ แต่ รัชกาลที่ ๑ ทรงโปรดให้บูรณะ และรัชกาลที่ ๓ ทรงโปรดให้สร้าง บรมบรรพต เป็นมงคลแบบอย่างตามอยุธยา
ทิวทัศน์ที่สวยงามของวัดสระเกศ และภูเขาทอง
๔. วัดสุทัศน์เทพวราราม (ติดกับ เสาชิงช้า)
คติ “วิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่คนทั่วไป”
เครื่องสักการะ ธูป ๓ ดอก เทียน ๑ เล่ม
ที่พระวิหารมี “พระศรีศากยมุนี” เป็นพระประธานซึ่งอัญเชิญมาจากสุโขทัยเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยหล่อด้วย สำริดถอดแบบมาจากพระวิหารพระมงคลบพิตร กรุงศรีอยุธยาบานประตูใหญ่ของพระวิหารสลักไม้สวยงามรอบพระวิหารมีถะ หรือเจดีย์ศิลาแบบจีนตั้งอยู่บนฐานทักษิณ
ด้านหน้า คือ ศาลากลางกรุงเทพ และ เสาชิงช้า
หลัง จากสักการะในวัดสุทัศน์ฯแล้ว แนะนำให้เดินมาที่เสาชิงช้า เพื่อ สรงน้ำพระพักตร์เทวรูปที่ซุ้ม และข้ามไปที่ศาลากลางเพื่อสรงน้ำ พระพุทธสิหิงค์ ซึ่งปีนี้ย้ายสถานที่จากสนามหลวงเป็นที่หน้าศาลากลาง บริเวณลานคนเมือง
วัดสุทัศน์ฯ ฝากประชาสัมพันธ์ว่า มีการแสดงพื้นบ้านภาคใต้ และเทศนาธรรมด้วยครับ
ภาพของวัดสุทัศน์ ภายในโบสถ์ เสาชิงช้า และพระพักต์เทวรูปให้สรงน้ำได้
๕. วัดบวรนิเวศวิหาร
คติ “พบแต่สิ่งดีงามในชีวิต”
เครื่องสักการะ ธูป ๙ ดอก เทียน ๑ เล่ม ดอกบัว ๓ ดอก
วัดบวรฯ เป็นวัดอารามหลวง ที่มีพระสังฆราชพำนักอยู่หลายพระองค์ด้วยกัน และยังเป็นที่พำนักของพระราชวงค์ที่ผนวช ภายในบริเวณกว้างใหญ่ มีพระประธานที่ศักดิ์สิทธิ์ พระไพรรีพินาศ (ซึ่ง ตามตำนานเล่าว่า รัชกาลที่ 3 ได้รับการถวายประพุทธรูปที่มีศิลปกรรมแบบ มหายาน อินโดนีเซียมา เป็นช่วงที่พระองค์ ได้ขจัดเสี้ยมหนามต่อความมั่นคง จึงทรงตั้งนามของพระพุทธรูปว่า ไำพรรีพินาศ)
ภายในบริเวณ แนะนำให้คุณเดินรอบๆ เพราะทางวัด ได้จัดนิทรรศการวัฒนธรรมของไทยๆ ให้ได้ชม ได้แก่ การก่อเจดีย์ทราย การทำชุด และหัวโขน การประดิษฐ์เครื่องดนตรีไทย ขนมไทย
อ.คฑา ชิณบัญชร บอกความลับด้วยว่า น้ำมนต์ของ วัดบวรฯ ศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะพระสังฆราชจะกล่าวปาติโมกข์น้ำมนต์เป็นประจำครับ
บริเวณตัวงานที่จัดแสดง วัฒนธรรมไทย
เป็นอะไรไม่รู้เ้ข้าวัดแล้ว ร้อน… หาอะไรดับร้อนซะหน่อย ทางใจต้องใฝ่ธรรมะ และทางกายคือกินไอศกรีมครับ แหะๆ
๖. วัดชนะสงคราม
คติ “มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง”
เครื่องสักการะ ธูป ๓ ดอก เทียน ๑ เล่ม ดอกบัว ๑ ดอกสำหรับพระประธานในโบสถ์
ธูป ๕ ดอก เทียน ๑ เล่ม ดอกบัว ๑ ดอกสำหรับรูปเคารพสมเด็จกรมพระราชวัง บวรมหาสุรสิงหนาท
ตามชื่อเลยครับ เป็นมงคลต่อการมีชัยชนะ
และ ก็เป็นวัดที่ ได้รับการคัดเลือกให้ทำน้ำมนต์ให้กับราชสำนักเสมอมาจนถึงปัจจุบัน จึงเชื่อว่า น้ำมนต์แห่งนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก ขอแนะนำให้คุณนำ ขวดน้ำตรงน้ำมนต์ข้างๆ พระประธานเพื่อนำไปประพรม กิน อาบ ให้เกิดสิริมงคล
ขณะที่เราไปนั้น พระสงฆ์ ประจำในโบสถ์ ประพรมน้ำมนต์ให้ทุกท่านเช่นกัน และมอบภาพยันต์ให้ติดตัวเป็นมงคลด้วยครับ
ภายในอุโบสถวัดชนะสงคราม
๗.วัดระฆังโฆสิตาราม
คติ “ชื่อเสียงโด่งดัง คนนิยมชมชอบ”
เครื่องสักการะ ธูป ๓ ดอก เทียนคู่ ทองคำเปลว
วัดระฆังฯ โด่งดัง จาก พระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี พระเถระสมัย รัชกาลที่ ๓-๔ คือ ซึ่งมีพุทธคุณแก่กล้า และเป็นต้นกำเนิดของบทสวด ชิณบัญชร ซึ่งเป็นการกล่าวถึง พระอรหันต์ระดับเอกทัตคะ (ผู้เป็นเลิศในด้านนั้นๆ) ให้มาสถิตตามร่างกายของเรา บังเกิดเป็นมงคล แคล้วคลาดภยันตราย
ดัง นั้น หากสักกาะ ณ วัดระฆังฯ ก็แนะนำให้คุณหยิบบทสวด ชิญบัญชร ที่โต๊ะบริการเครื่องสักการะ และกล่าวบทสวดเป็นสิิริมงคลแก่ตัวท่านเองครับ
มาถึงวัดระฆังก็ต้องตีระฆังให้โด่ง ให้ดัง!
ในบริเวณมีการสาธิตการทำบาตรพระแบบโบราณ คือ การทำโลหะเป็นรูปกากบาทก่อนแล้วจึงขึ้นทรงโค้งจนเป็นบาตร (ปัจจุบัน เป็นแบบหล่อขึ้นทรง จนหลายคนเกรงว่า การทำบาตรแบบโบราณจะสูญหายไป)
๘. วัดอรุณราชวราราม (วัดแจ้ง)
คติ “ชีวิตรุ่งโรจน์ทุกคืนวัน”
เครื่องสักการะ ธูป ๓ ดอก เทียนคู่
เป็น วัดฝั่งธนบุรี (สามารถนั่งเรือข้ามมา) ซึ่ง เป็นวัดสมัย พระเจ้าตากสินมหาราช หลังจากกอบกู้เอกราชแล้ว ซึ่งอธิษฐานว่า หากเดินทางตามน้ำแล้ว “แจ้ง” (เช้าพระอาทิตย์ขึ้น) ณ ที่ใด จะสร้างวัดตรงนั้น และพบกับวัดมะกอก(นอก) [“มะกอกนอก” หมายความว่า ติดกับแม่น้ำ ในสมัยนั้น] จึงบูรณะแล้ว ตั้งชื่อใหม่เป็น “วัดแจ้ง”
ตามตำนานที่เกี่ยวข้อง กล่าวว่า ยักษ์วัดแจ้ง (ยักษ์ทศกัณฑ์ และ สหัสเดชะ เฝ้าโบสถ์จนเมื่อย แล้วเดินทางข้ามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาไปเที่ยว เจอกับ ยักษ์วัดโพธิ์ เจ้าถิ่น จึงตีกันกลายเป็น ตำนานพื้นที่ราบ ที่เรียกว่า ท่าเตียน)
บริเวณ โดยรอบ ทาง วัดอรุณราชวราราม จัดให้มีการสระน้ำพระพุทธรูปจำลองที่สำคัญของไทย เรียกว่า มาที่เีดียวก็บูชาได้หลายที่ รวมทั้งมีกิจกรรม อาหาร เครื่องดื่มไทยๆ การละเล่น บรรเลงดนตรีไทยๆ ด้วยครับ
ภายใน โบสถ์น้อยเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อรุ่ง (สมัยอยุธยา) และรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสิน พระองค์มีพระคุณในการกอบกู้เอกราชไทยจากพม่า
ภาพของวัดอรุณราชวราราม และการจัดงานสงกรานต์โดยรอบ
คณะ การท่องเที่ยว หน่วยงานจัดงานสงกรานต์วัดอรุณ อ.คฑา และดารา หนัง ๙ วัด ถ่ายรูปร่วมกันอย่างเฮฮา
๙. วัดกัลยาณมิตร (หลวงพ่อโต ซำปอกง)
คติ “เดินทางปลอดภัยดี มีมิตรไมตรีที่ดี”
เครื่องสักการะ ธูป ๓ ดอก เทียนแดงคู่ ดอกไม้พวงมาลัย
เ็ป็น วัดที่สร้างโดยคนจีน ดังนั้น การบูชา จึงเป็นแบบจีน คือ ไหว้ธูปกำใหญ่ และเทียนจีน ๒ อัน อธิษฐาน ณ กระถางธูปประตูฟ้าดิน แล้วจึงนำธูปเีทียนไปปัก ตามเทวรูปต่างๆ (ซึ่งบางส่วนเป็นเทวรูปจีน)
หลวงพ่อโต (ซำปอกง) ที่ชาวบ้านเรียกตาม ขนาดใหญ่โตของพระพุทธรูปที่มีทางการว่า พระพุทธไตรรัตนนายก เป็นที่นับถือของทั้งคนไทยและคนจีน เชื่อว่า การบูชาหลวงพ่อโตจะทำให้ มีความก้าวหน้าเป็นใหญ่เป็นโต
ส่วนชื่อวัดก็เป็นมงคล คือ ได้มิตรที่ดี
พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ ซำปอกง หรือ หลวงพ่อโต วัดกัลยาณมิตร
ในตอนเย็นวันนั้น เป็นวันแรกของงานสงกรานต์ ที่วัดโพธิ์ จึงมีตัวอย่าง ของการละเล่น การแสดงต่างๆ
รำวงกันหน่อย รักษาประเพณีไทย
ท่าน ชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คุณวิชัย ศรีขวัญ ประธานกรรมการการท่องเที่ยวฯ แพนเค้ก เขมนิจ คุณสุรพล เศวตเศรณี ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวฯ กล่าวเปิดงานสงกรานต์อย่างเป็นทางการ
สำหรับแผนที่การเดินทางทั้ง ๙ วัด คลิกดูได้ที่นี่ครับ
อ้างอิงข้อมูลจาก 9wat.net และ ไกด์คนเก่ง คุณนภัทยศ ขอบคุณครับ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1672 หรือทางเว็บไซท์ songkran.net ซึ่งมีข้อมูลของเทศกาลสงกรานต์ในจังหวัดต่างๆทั่วประเทศไทย
หลัง จากบูชาครบ ๙ วัดแล้ว ทาง ททท. บอกว่า อย่าลืม ปั๊ม พาสปอร์ต ๙ วัดให้ครบ แล้วลุ้นรับพระเครื่อง ในโอกาส ๕๐ ปี การท่องเที่ยวด้วยครับ
กติกา ก็คือ เมื่อประทับตราครบ ๙ ตรา แล้ว ให้เขียนชื่อ ที่อยู่ และบเอร์โทรศัพท์ หย่อนในกล่องชิงโชค ที่วางอยู่ในแต่ละวัด ลุ้นผลผู้โชคดีจาก songkran.net ตั้งแต่วันท่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๓ เป็นต้ไป จนถึง ๒๗ เมษายน เท่านั้น
ในที่สุดผมก็ประทับตราครบแล้ว ก็หย่อนกล่องชิงโชคพระเครื่องด้วยคน
ขอ ให้คุณได้พบกับความมงคล ในโอกาสสงกรานต์ ปีใหม่ไทย และอย่าลืมอธิษฐานเพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้บ้าน เมืองร่มเย็นด้วยนะครับ ด้วยความปรารถนาดีจาก Mthai.com