เที่ยวแพร่

เที่ยวแพร่กับฝน แคมเปญบาทเดียว

Home / ข่าวท่องเที่ยว / เที่ยวแพร่กับฝน แคมเปญบาทเดียว

ต้อนรับฤดูกาลแห่งความโรแมนติก ท่ามกลางบรรยากาศเย็นชุ่มฉ่ำ ด้วยกิจกรรมครั้งแรกในเมืองไทย “เที่ยวแพร่กับฝน” โดยจังหวัดแพร่ หน่วยงานและชุมชนต่างๆ ในจ.แพร่ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) … เริ่มด้วยนั่งรถรางเที่ยวในตัวเมืองแพร่ ตามรอยเส้นทางเมืองเก่า แวะจุดหมายแรกที่ วัดจอมสวรรค์ สร้างขึ้นสมัย ร.5 จากแรงศรัทธาของชาวไทยใหญ่

เที่ยวแพร่กับฝน แคมเปญบาทเดียว

ชมอาคารไม้สักที่ใช้เป็นทั้งโบสถ์ วิหารและกุฏิ รูปทรงโดดเด่นด้วยหลังคาซ้อนลดหลั่นกันเป็นชั้น ตามแบบสถาปัตยกรรมพม่า เสาและเพดานตกแต่งด้วยไม้ฉลุลาย ประดับประดาด้วยกระจกสีเป็นรูปสัตว์หิมพานต์หลายชนิด

ภายในประดิษ ฐานพระพุทธรูปทำจากไม้ไผ่ ชื่อ “หลวงพ่อสาน” พระพุทธรูปงาช้าง รวมทั้งคัมภีร์ปาติโมกข์ทำจากงาช้างบดละเอียด ลงรักสีแดงและจารึกเป็นภาษาพม่า

เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เสรีไทย บนถนนยันตรกิจโกศล ก่อตั้งโดย นายภุชงค์ กันทาธรรม บุตรชาย นายทอง กันทาธรรม หนึ่งในขบวนการเสรีไทย สาย จ.แพร่ ซึ่งตั้งใจรวบรวมประวัติ ภาพถ่าย และเรื่องราวความเป็นมาของขบวนการเสรีไทย และการใช้ชีวิตในป่าของแนวร่วมเสรีไทยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ ของใช้โบราณทั้งของชาวบ้านคนไทย ทหารอเมริกัน และทหารญี่ปุ่นไว้มากมาย เพื่อเป็นอนุสรณ์เชิดชูความกล้าหาญของบรรพบุรุษชาวแพร่ให้ลูกหลานได้เรียนรู้

วัดพระบาทมิ่งเมือง ไหว้พระพุทธโกสัยศิริชัยมหาศากยมุนี พระคู่เมืองจังหวัดแพร่ สักการะรอยพระพุทธบาท 4 รอยซ้อน และชมพิพิธภัณฑ์พระวิหารมิ่งเมือง หรือ “หอมิ่ง” เดิมเป็นสถานที่สำหรับเจ้าเมืองใช้ทำพิธีทางศาสนา ต่อมาพัฒนาเป็นที่เก็บโบราณวัตถุ พระพุทธรูปสมัยเชียงแสน หอพระธรรมเก่าแก่ คัมภีร์ใบลานอายุ 150 ปี ภาพเขียนสีธรรมชาติ และเครื่องใช้ส่วนตัวของเจ้าหลวงเมืองแพร่ เช่น พัดยศกษัตริย์โบราณ หรือของที่ใช้ในพิธีออกศึก

ส่วนใครชอบเรื่องราวลี้ลับ ต้องไม่พลาดชม “คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่” สร้างขึ้นในพ.ศ.2435 โดยเจ้าหลวงพิริยะเทพวงศ์ เจ้าผู้ครองเมืองแพร่องค์สุดท้าย เป็นอาคารสีเขียวอ่อน สถาปัตยกรรมไทยผสมยุโรป ก่อด้วยอิฐฉาบปูน หลังคาทรงปั้นหยา เชิงชายประดับด้วยไม้แกะสลักสวยงาม โดยเฉพาะโครงสร้างอาคารพิเศษตรงที่ไม่มีเสาเข็ม ใช้เพียงไม้ซุงเนื้อแข็งรองรับฐานเสาทั้งหลัง ส่วนใต้ถุนเป็นคุกใต้ดินลึก 2.30 เมตร สำหรับขังทาสและนักโทษ

เล่ากันว่าหลังกบฏเงี้ยวเมืองแพร่ พ.ศ.2445 เจ้าหลวงพิริยะเทพวงศ์ลี้ภัยไปอยู่หลวงพระบาง คุ้มจึงถูกทิ้งร้างกลายเป็นที่อยู่ของข้าหลวง และจวนผู้ว่าฯ แต่ความลี้ลับยังคงถูกเล่าขานปากต่อปาก โดยเฉพาะเรื่องเสียงลากโซ่ตรวนที่ดังมาจากชั้นใต้ดินแห่งนี้

มาแพร่ทั้งทีต้องมีผ้าหม้อห้อมติดมือกลับบ้านสักผืน แวะที่หมู่บ้านทุ่งโฮ้ง ต.ทุ่งโฮ้ง อ.เมืองแพร่ ชมกรรมวิธีทำผ้าหม้อห้อมของชาว ไทพวน ที่ย้ายถิ่นฐานมาจากเมืองเชียงขวาง ประเทศลาว สืบทอดภูมิปัญญาการย้อมผ้าหม้อห้อมจากรุ่นสู่รุ่น ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้ทดลองออกแบบลาย และย้อมผ้าหม้อห้อมด้วยตัวเอง โดยมีผู้ให้คำแนะนำอย่างเป็นกันเอง

ออกจากตัวเมืองแพร่ไปทางใต้ราว 40 ก.ม. เข้าสู่ อ.ลอง นมัสการพระธาตุศรีดอนคำ และพระเจ้าพร้าโต้ พระพุทธรูปไม้แก่นจันทน์และไม้สัก อายุ 300-400 ปี

ชมพิพิธภัณฑ์เครื่องใช้ต่างๆ ที่ลูกหลานชาว อ.ลอง ช่วยกับรวบรวมไว้ เช่น เครื่องถ้วย ภาชนะโบราณ เครื่องมือเกษตร ผ้าทอมือ รวมทั้งผ้าพระบฏ ภาพวาดทศชาติชาดกบนผืนผ้าอายุกว่าร้อยปีที่ใช้แขวนในงานพิธีทางศาสนา

ปิดท้ายที่พิพิธภัณฑ์โกมลผ้าโบราณ ดื่มด่ำไปกับมรดกทางวัฒนธรรมการทอผ้าของชาวยวน จ.แพร่ ที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบบล้านนา ลายผ้าขึ้นชื่อ เช่น ผ้าซิ่นตีนจก ผ้าซิ่นตีนแดง ซึ่งลายแต่ละแบบนอกจากละเอียดงดงามแล้ว ยังบ่งบอกถึงฐานะทางสังคมของผู้สวมใส่ด้วย เช่น หากนุ่งซิ่นตีนจก หมายถึงมีฐานะดี ไม่ต้องทำงาน หรือได้อยู่ใกล้ชิดเจ้าเมือง แต่หากนุ่งซิ่นตีนแดง แสดงฐานะของหญิงที่ต้องทำงานหนัก

นอกจากนี้ ที่นี่ยังโชว์ชุดเสื้อผ้าที่ใช้ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เช่น ตำนานสมเด็จพระนเรศวร พระศรีสุริโยทัย มีผ้าที่ผลิตขึ้นเพื่อการตลาดที่พลิกแพลงเทคนิคการใช้สีเพื่อความทันสมัย

รวมทั้งประยุกต์เอาตัวการ์ตูนมาสวมใส่ชุดพื้นเมือง เช่น ตัวละครในหนังอวตารใส่ชุดไทพวน หรือซูเปอร์แมนใส่ชุดไทยใหญ่ จูงใจให้เด็กรุ่นใหม่สนใจและสนุกกับเรียนรู้เครื่องแต่งกายท้องถิ่น

ก่อนจากเมืองแพร่แวะไหว้พระธาตุช่อแฮ ชมวิวสวยๆ ที่พุทธอุทยานดอยผาสวรรค์ ช็อปปิ้ง หรือกินขันโตกสักมื้อ

โดยเฉพาะในช่วงนี้ไปจนถึงเดือน ก.ย. 2557 มีโปรโมชั่น “แพร่ละบาท” เพียงแนะนำว่ามากับคนชื่อ “ฝน” หรือคนที่เกิดในเดือนฤดูฝน กรกฎา-สิงหา-กันยา

อยากรู้ว่าบาทเดียวอย่างไรในแคมเปญนี้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ททท.แพร่ โทร.0-5452-1127

ปรวรรณ วงษ์รวยดี นสพ.ข่าวสด

ภาพจาก www.michaelfreemanphoto.com