ชุมชนบ้านสวาย ตั้งถาวร ฟาร์มเมลอน ที่เที่ยวสุรินทร์ ที่เที่ยวอีสาน ฟาร์มเมล่อน หมู่บ้านช้าง เที่ยวสุรินทร์

เที่ยวสุรินทร์ หน้าฝน ดูช้าง ชมผ้าไหม เก็บไข่ ชิมเมล่อน

Home / ข้อมูล 77 จังหวัด / เที่ยวสุรินทร์ หน้าฝน ดูช้าง ชมผ้าไหม เก็บไข่ ชิมเมล่อน

Travel mthai ชวนเช็คอิน เที่ยวสุรินทร์ หน้าฝน อ๊ะๆ ฟังแค่ชื่อจังหวัดก็คงจะนึกถึงน้องช้างกันแน่นอน แต่สุรินทร์ไม่ได้มีดีแค่นั้น ทริปนี้จะพาไปชมผ้าไหม เก็บไข่ และชิมเมล่อน กันด้วย รับรองว่าได้ประสบการณ์ใหม่เยอะทีเดียว อยากรู้ว่าเป็นยังไงน่ะหรอ ตามเรามาสิ

เที่ยวสุรินทร์ หน้าฝน
ดูช้าง ชมผ้าไหม เก็บไข่ ชิมเมล่อน

หมู่บ้านช้างตากลาง

ที่แรกที่เราจะไปกันก็คือ ศูนย์คชศึกษา หรือ หมู่บ้านช้างตากลาง เป็นหมู่บ้านช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในหมู่บ้านมีช้างอยู่เกือบๆ 200 ตัว ชาวบ้านตากลางหรือชาวกวยเดิม เลี้ยงเอาไว้เหมือนเป็นเพื่อน ไม่ได้เลี้ยงไว้ใช้งาน พร้อมกับฝึกความสามารถต่างๆ ให้ด้วย

ด้านในหมู่บ้านมีอะไรให้เที่ยวเยอะเยอะเลยค่ะ เริ่มจากชมการแสดงช้างแสนรู้ ไม่ว่าจะเป็น วาดรูป เต้นรำ ปาลูกโป่ง เตะฟุตบอล ชู๊ดบาส หรือแม้แต่นวด ช้างที่นี่ก็ทำได้หมด โดยจะเปิดการแสดงทุกวัน วันละ 2 รอบ คือ 10.00 และ 14.00 น.

นักท่องเที่ยวก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงได้ด้วย อย่างการขึ้นไปนั่งบนงวงช้าง (เฉพาะสาวๆ) จากนั้นควาญช้างจะพาเดินวนรอบลานแสดง หรือนอนให้ช้างนวด ก็จะแอบตื่นเต้นเบาๆ (กลัวช้างเหยียบ 55)

ช้างเชือกนี้ ชื่อ พลายทองใบ หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตา เพราะเค้าเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับโฆษณาเบียร์ช้างนั่นเอง มีงายาวมาก ถึง 2.10 เมตรแหนะ

ความน่าสนใจยังไม่หมด ต่อที่เข้าชมพิพิธภัณฑ์ชาวกวย ซึ่งจัดแสดงวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ความผูกพันระหว่างคนกับช้าง วัฒนธรรมและการแต่งกายของชาวกวย

เชือกปะกำ

ชมพิพิธภัณฑ์ช้าง ตื่นตากับโครงกระดูกช้าง ได้รู้วิวัฒนาการของช้าง โรคเกี่ยวกับช้าง อาหารและสมุนไพรของช้าง ที่ทึ่งสุดๆ รู้เปล่าอุปกรณ์คล้องช้างป่าอย่าง เชือกปะกำ 1 เส้นทำจากหนังควายถึง 3 ตัวเชียวล่ะ

ที่เห็นเหมือนกำลังทำพิธีกรรมอยู่นี้ เป็นพิธีเซ่นไหว้ศาลปะกำ โดยหมอช้าง จะทำการเสี่ยงทายก่อนจะออกไปคล้องช้าง ถ้าผลเสี่ยงทายออกมาไม่ดี ต้องยกเลิกการเดินทาง ถ้ายังฝืนเชื่อว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น น่าเสียดายที่พวกเขานั้นเป็นหมอช้างรุ่นสุดท้ายแล้ว โชคดีจริงๆ ที่เรามีโอกาสพบปะ

ที่ตั้ง : ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม


แซตอม ออร์แกนิค ฟาร์ม

ฝากท้องมือเที่ยงไว้กับ แซตอม ออร์แกนิค ฟาร์ม คำว่า แซตอม เป็นภาษาพื้นเมืองของชาวกวย ในจังหวัดสุรินทร์ แปลว่า นาที่ตั้งอยู่ริมห้วย จุดเด่นของที่นี่ก็คือบรรยากาศ ล้อมรอบด้วยนาข้าวเขียวขจี มองดูแล้วสดชื่นสบายตาสุดๆ

มาที่นี่เราได้รู้จักข้าวสายพันธ์ต่างๆ มากมาย ทั้งข้าวหอมมะลิสุรินทร์ มะลิโกเมนสุรินทร์ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวหอมนิล ข้าวไตจัสมิน ฯลฯ ได้ชิมไวน์ที่หมักจากข้าว ชิมลาบปลาอาหารถิ่น ขนมตับควาย และล้างปากด้วยน้ำนมข้าว เอร็ดอร่อยแล้วยังดีต่อสุขภาพอีกต่างหาก

ลาบปลา

นอกจากจะเป็น ออร์แกนิค ฟาร์ม แล้วยังเปิดเป็นโฮมเสตย์พร้อมมีกิจกรรมให้ทำด้วย เพื่อนๆ จะได้ลองดำนา หว่านข้าว ปลูกผักสวนครัว และใช้ชีวิตกินอยู่แบบคนท้องถิ่นจริงๆ

ที่ตั้ง : ตำบลเมืองลีง อำเภอจอมพระ


ชุมชนบ้านสวาย

ชุมชนบ้านสวาย เป็นชุมชนทอผ้าชาวไทย-เมขร ที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตผ้าไหมที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของสุรินทร์ มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ  เช่น ลายลูกแก้ว ลายมัดหมี่ ลายรูปช้าง ลายดอกมะเขือ ฯลฯ สวยงามและปราณีต มีเสน่ห์แบบไทยๆ! ภายในชุมชนมีกิจกรรมหลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้สนุกและเรียนรู้กัน เริ่มจาก…

การทำผ้าเช็ดหน้ามัดย้อม ทำเอง ใช้เอง เก๋จะตาย โดยจะมีน้องๆ ในชุมชน มาสอนเราพับผ้าเป็นลายต่างๆ หรือใครมีหัวศิลปะจะคิดลายเองก็ได้ พับเสร็จก็ใช้หนังยางมัดให้แน่นหนา แล้วเอาไปจุ่มในน้ำย้อมตามสีที่เราต้องการ จากนั้นก็เอาไปต้มต่อ เสร็จสิ้นกระบวนการ ก็เอาผ้าไปตากทิ้งไว้ 1 วัน เท่านี้ก็ได้ผ้ามัดย้อมที่มีลายเดียวในโลกกลับบ้านแล้ว ซึ่งสีที่ใช้ก็มาจากธรรมชาติล้วนๆ ไม่มีสารเคมีปนเปื้อน ฉะนั้นเด็กเล็กก็สามารถทำได้เหมือนกัน ไม่เป็นอันอันตรายแน่นอน

ชมกรรมวิธีทำผ้าไหมเส้นยืน กิจกรรมนี้เรามาชมตอนเช้าของอีกวัน เพราะชาวบ้านจะเริ่มทำกันประมาณ 06.00-09.00 น. เป็นการทำผ้าไหมแบบวิธีโบราณ เพื่อจัดเรียงเส้นไหมให้เป็นระเบียบ ก่อนจะนำไปวางตั้งบนกี่ทอผ้า ซึ่งหากทำสายกว่านี้ เมื่อเส้นไหมโดนแดดจะแข็งตัวและด้อยคุณภาพ

เยี่ยมชม บ้านอุตมะไหมไทย กันต่อ ที่นี่เป็นแหล่งผลิตผ้าไหมแบบสมัยใหม่ โดยเอาเครื่องจักรมาประยุกต์ใช้ในการสาวไหม ทำให้ประหยัดแรงและทุ่นเวลาผลิตได้มาก ผ้าไหมแต่ละผืนนั้นมีลวดลายสวยและสีสันงดงาม ถึงขนาดที่ทีมงานละครนาคียังต้องสั่งผ้าไหมจากที่นี่ไปให้นักแสดงใส่เข้าฉากเลยทีเดียว

 

นี่คือวิธีกระตุกเส้นไหม เพื่อให้เรียงเส้นสวย ไม่พันกัน แล้วตากให้แห้งสนิท

โอ้โห รู้ซึ้งเลยค่ะว่า ชาวบ้านเค้าต้องใช้ความละเอียดละออ และความอดทนแค่ไหน  ต้องผ่านขั้นตอนซับซ้อนอะไรบ้าง กว่าจะเป็นผ้าไหมหนึ่งผืน ถ้าไม่มีใจอยากทำจริง คงไม่ได้เป็นผ้าไหมที่สวยงามขนาดนี้

กิจกรรมที่ชุมชนบ้านสวายยังไม่หมดเท่านี้นะคะ เพราะตอนเที่ยงเราได้ไปเก็บไข่เป็ดสดๆ จากเล้า กันที่ ฟาร์มเกษตรทำเงิน แล้วเอาไปทำไข่ยัดไส้ที่บ้านพักโฮมสเตย์ในหมู่บ้าน ทอดด้วยเตาถ่านแบบโบราณ กลิ่นหอมฟุ้ง เป็นเมนูง่ายๆ ผู้ใหญ่ทานได้ เด็กทานคล่อง ^^

ที่ ฟาร์มเกษตรทำเงิน นอกจากเลี้ยงเป็ดไข่แล้ว ยังเลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ และปลูกผักสวนครัวด้วย เพื่อนำผลผลิตไปขายที่ตลาด รวมถึงรับประทานในครัวเรือน เป็นชีวิตแบบเรียบง่าย พอเพียง เหมือนดั่งคำสอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9

ที่ตั้ง :  ชุนชมตำบลสวาย อำเภอเมือง


 ตั้งถาวร ฟาร์มเมลอน

ก่อนบินกลับจากสนามบินบุรีรัมย์ เราแวะมาที่ ตั้งถาวร ฟาร์มเมลอน ข้อดีของที่นี่คือมีฟาร์มเมล่อนเป็นของตัวเอง ทำให้เมล่อนมีความหอม หวาน กรอบ และสดมากๆ สำหรับเมนูของร้าน ก็มีทั้งบิงซูเมล่อน เมล่อนสมูตตี้ ส้มตำเมล่อน สลัดเมล่อน เรียกว่าไม่มีจานไหนไม่มีเมล่อนค่ะ รวมถึงมีกาแฟ และชาต่างๆ บริการด้วย นอกจากฟาร์มเมล่อน ที่นี่ยังมีโรงเรือนปลูกผักออแกนิคด้วย จึงมั่นใจได้เลยว่า อาหารทุกจาน ของหวานทุกเมนู สะอาดปลอยภัยต่อกระเพาะอาหารชัวร์ๆ

 

ฟาร์มเมล่อน และโรงเรือนปลูกผักออแกนิค

ที่ตั้ง : ตำบลยะวึก อำเภอชุมพลบุรี

ขอบคุณการเดินทางครั้งนี้ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  (ททท.)