ยอดดอยหัวค้างคาว จุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ ที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จัก ตั้งอยู่ในโครงการหลวงบ้านขุนแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ จุดชมวิวนี้เราจะเห็นทั้งแสงอาทิตย์ยามเช้า พร้อมชมทะเลหมอกสุดอลังการ แสงอาทิตย์ยามเย็น และไร่กะหล่ำปลีทอดยาวสุดลูกหูลูกตา
อัลบั้มภาพ 18 ภาพ
ยอดดอยหัวค้างคาว จุดชมวิวทะเลหมอก
และดอกกะหล่ำ ในโครงการหลวงขุนแปะ
นอกจากทุ่งดอกไฮเดรนเยียที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และนาขั้นบันไดที่ลดหลั่นไปตามทิวเขาแบบกว้างไกลสุดสายตาแล้ว บ้านขุนแปะยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด นั่นคือการขึ้นไปพิชิต ยอดดอยหัวค้างคาว หรือ เขา 360 องศา บนระดับความสูงกว่า 1,500 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ยอดดอยหัวค้างคาว เรียกเป็นภาษาปะกาเกอญ่อว่า “บ่าอะโจ๊ะโข่” ซึ่งได้มาจากการที่บริเวณดังกล่าวเคยมีค้างคาวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากนั่นเอง
ไฮไลท์คือการชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกดินในจุดเดียวกัน ช่วงฤดูฝน-ฤดูหนาว จะมีทะเลหมอกสีขาวโพลนโผล่มาทักทายเกือบทุกวัน ลอยปกคลุมทั่วภูเขาและฟุ้งกระจายเหนือพื้นที่ปลูกกะหล่ำปลีนับร้อยไร่ของชาวบ้าน
ด้านบนจุดชมวิวแห่งนี้ ปัจจุบันไม่มีที่พัก แต่กำลังสร้างลานกางเต้นท์ขึ้นต้อนรับลมหนาว สำหรับใครที่สนใจจะไปเที่ยวสามารถไปพัก โฮมเสตย์ กระท่อมตะวันไรวินทร์ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกันก่อนได้ โดยที่นี่จะให้บริการที่พักพร้อมนำเที่ยวมาถึงจุดชมวิวหัวค้างคาวนี้ด้วย
ใครกำลังมองหาที่เที่ยวหน้าหนาวอยู่ บอกเลยให้รีบมา เพราะชื่อเสียงของจุดชมวิวหัวค้างคาวนั้น ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ธรรมชาติจึงยังอุดมสมบูรณ์ บริสุทธิ์ และสวยงามน่าเที่ยว แถมนักท่องเที่ยวไม่หนาตา จะเดินถ่ายรูปมุมไหนก็ชิลล์ เก็บภาพสวย ๆ ได้เต็มที่
การเดินทาง :
สามารถเดินทางได้ด้วยรถโฟร์วิว และต้องให้คนในพื้นที่พาขึ้นมาเท่านั้น เพราะต้องใช้ความชำนาญในการขับรถและความคุ้นเคยกับเส้นทาง อีกทั้งสภาพของถนนค่อนข้างทุลักทุเล ถ้าฝนตกจะเป็นอันตรายได้
โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและการเดินทางที่เบอร์ : 093 149 1269 (คุณอาทิตย์)
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนและภาพจาก : อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่, Surachai Silakaew