[รีวิว] Kominato Railway รถไฟสาย local ที่ชิบะ กับวิวข้างทางสวยๆ และสถานี Totoro

เที่ยวญี่ปุ่น กับ เพจ Movearound Journey ที่จะพาทุกคนกระโดดขึ้นรถไฟ มุ่งหน้าสู่เขตชนบทของจังหวัดชิบิ ด้วยรถไฟสาย Kominato Railway ชมวิวทิวทัศน์และแวะถ่ายรูปสวยๆ ไปตลอดทาง

[รีวิว] Kominato Railway รถไฟสาย local ที่ชิบะ กับวิวสวยๆ ข้างทาง และสถานี Totoro

Kominato Railway คือ รถไฟสายโลคอลของจังหวัดชิบะ เป็นรถไฟธรรมดาที่คนญี่ปุ่นใช้นั่งกลับบ้าน ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวและไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจเท่าไรนัก แต่กลับเป็นสายรถไฟที่รู้จักกันดีในกลุ่มช่างภาพชาวญี่ปุ่น เพราะรถไฟสายนี้วิ่งผ่านทิวทัศน์ที่สวยงาม และสถานีต่างๆ ก็มีกิมมิคน่ารัก โดยเฉพาะ Totoro Station ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเที่ยวญี่ปุ่นแบบคนว่างอย่างเราในทริปนี้!

รถไฟมีแค่สองโบกี้ สดใสด้วยสีเหลืองตัดแดง เวลาวิ่งผ่านทุ่งหญ้าเขียวขจี โอ้โห มันช่างมีออร่า ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมช่างภาพสายแลนด์สเคปและสายรถไฟถึงชอบมาตั้งกล้องรอถ่ายรูปรถไฟขบวนนี้กัน เพราะมันเป็นหนึ่งในขบวนรถไฟที่มีเสน่ห์มากจริงๆ

ข้อควรรู้ของรถไฟสาย Kominato Railway

เป็นรถไฟท้องถิ่นของจังหวัดชิบะ สามารถไปเที่ยวแบบเช้า – เย็นกลับจากโตเกียวได้ แต่ต้องวางแผนดีๆ เพราะรถไฟมีรอบวิ่งน้อย

เส้นทางของ Kominato Railway มีระยะทางยาวประมาณ 39.1 กิโลเมตร จอดทั้งหมด 18 สถานี แต่บางสถานีก็ไม่มีอะไร ถ้ามาเพื่อถ่ายรูปเล่นแบบเรา วางแผนลงแค่สถานีที่เราไปมาก็ได้

ค่ารถไฟเริ่มต้น 140 เยน/เที่ยว แต่แนะนำให้ซื้อ One Day Pass ไปเลยดีกว่า เพราะขึ้นลงกี่รอบก็ได้ใน 1 วัน ราคา 1,800 เยน

วิธีการเดินทางจากโตเกียว

นั่งรถไฟ JR CHUO/SOBU LINE ลงสถานี Chiba จากนั้นต่อรถไฟ JR Uchibo Line ลงสถานี Goi ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางรถไฟสาย Kominato Railway

** เรื่องที่สำคัญที่สุดคือ “ต้องวางแผนเรื่องเวลาให้ดี” เพราะรถไฟสายโลคอลแบบนี้ ไม่ได้วิ่งตลอดทั้งวัน ถ้าพลาดไปขบวนนึงต้องนั่งรอไปเป็นชั่วโมง ฉะนั้นแนะนำให้เข้าไปเช็คเวลาใน Hyperdia แล้วกะเวลาที่จะอยู่ในแต่ละสถานีให้ดี ควรวางแผนไว้ก่อนเลยว่าจะลงสถานีไหน ตอนกี่โมง และจะอยู่ถึงกี่โมง

สถานี Goi เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางรถไฟสาย Kominato Railway ค่ะ ซึ่งเส้นทางของ Kominato มันจะเชื่อมต่อกับรถไฟสายมูมิน (Isumi Railway) บางคนเขาจะนั่งรถไฟสายนี้จนสุดสายแล้วก็นั่งรถไฟสายมูมินต่อ แต่เราแค่อยากมาถ่ายรูปในเส้นทางของรถไฟสายนี้สายเดียว ก็เลยนั่งไปลงสถานีที่ต้องการ แล้วก็นั่งย้อนกลับมาที่สถานี Goi เพื่อนั่งรถไฟกลับโตเกียวค่ะ

สถานีแรกของรถไฟสาย Kominato Railway จะเชื่อมต่อกับสถานี Goi เลยนะคะ คือลงจากรถไฟ JR Uchibo Line ปุ๊บ เดินขึ้นมาก็จะเจอทางเข้าสถานีเลย โดยไม่ต้องแตะบัตรออกจากสถานี Goi แต่ต้องมาแตะบัตรผ่านเข้าสถานีของ Kominato Railway ที่ตู้ตรงนี้แทน อ่อ! JR Uchibo Line สามารถใช้บัตร Suica ได้เลย ส่วน Kominato Railway ไม่สามารถใช้ได้นะคะ ต้องซื้อตั๋วแยกหรือ One Day Pass อย่างเดียว (*Suica คือบัตรเติมเงินใช้แทนเงินสด ไว้แตะขึ้นรถบัส รถไฟ หรือซื้อของตามร้านค้าต่าง ๆ)

สถานีที่เราแวะ

สถานี Totoro

สถานีแรกที่เราลงคือ Kazusa Okubo หรือ สถานี Totoro นั่นเอง เป็นสถานีเกือบท้าย ๆ ของเส้นทางรถไฟแล้ว ฉะนั้นจะใช้เวลานานเลยจากสถานี Goi ประมาณ 65 นาทีได้ เราวางแผนลงสถานีไกล ๆ ก่อน แล้วค่อยไล่กลับไปยังต้นทางค่ะ

สถานีนี้เอาจริงๆ ก็เป็นสถานีธรรมดา ๆ ถ้าบ้านไม่ได้อยู่แถวนี้ก็ไม่มีใครลงค่ะ ตอนเราลงมานี่เฟว้งฟว้าง อ้างว้าง ได้ยินเสียงกาบินผ่านหัวเหมือนในการ์ตูนกันเลยทีเดียว แต่มันน่ารักตรงที่มีภาพวาดของโทโทโร่นี่แหละ สามารถแวะลงถ่ายรูปเล่นได้

จำได้ว่าเราอยู่ที่สถานีนี้ประมาณชั่วโมงได้ค่ะ กว่ารถไฟจะมา คือเรียกว่ามาเพื่อถ่ายรูปกับโทโทโร่โดยเฉพาะเลย 555

สถานี Tsukizaki

สถานีต่อไปที่เราลงคือ Tsukizaki นั่งย้อนจาก Kazusa Okubo มาแค่ 1 สถานีค่ะ สถานีนี้เป็นสถานีที่ช่างภาพญี่ปุ่นแวะมาถ่ายรูปกันเยอะเลย

สถานีนี้มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลค่ะ แต่เราเห็นคนญี่ปุ่นที่ขับรถมาเพื่อถ่ายรูป เดินเข้าไปถ่ายรูปที่ชานชาลาได้โดยไม่ต้องโชว์ตั๋วนะ

สถานีนี้เด็ดตรงที่มีมุมไว้สำหรับถ่ายรูปโดยเฉพาะ เรียกกันว่า Mori Radio เป็นเหมือนห้องทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่บรรยากาศรอบๆ สวย ก็เลยกลายเป็นโลเคชั่นในการถ่ายรูปพอร์ตเทรตของคนญี่ปุ่นค่ะ

ช่วงระยะเวลากว่ารถไฟขบวนต่อไปจะมาถึงสถานีนี้คือนานมากกก ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ได้ ถ่ายรูปจนเกือบทุกมุมแล้ว ไม่รู้จะทำอะไรต่อดี เลยตัดสินใจออกไปเดินเล่นเรื่อยๆ เพื่อรอรถไฟ

เอาจริงๆ ไม่ได้หาข้อมูลมาก่อนเลยว่ามันมีเส้นทาง Hiking ด้วย แต่เดินมามั่วๆ ก็เจอมุมๆ นี้ ในเส้นทางเดินป่าค่ะ เป็นอุโมงค์สวยมากกก เหมือนหลุดเข้าไปอีกโลกนึงที่มีแต่ธรรมชาติเต็มไปหมด

ดูเวลาใกล้รถไฟมา เราก็กลับมานั่งรอรถไฟที่สถานี แอบย้ำอีกทีว่าเวลาสำคัญมาก เพราะรถไฟวิ่งน้อยเที่ยวมากนะคะ

สถานี Kazusa Tsurumai

สถานีสุดท้ายที่เราแวะคือ Kazusa Tsurumai แอบจงใจว่าอยากให้เป็นสถานีสุดท้าย เพราะอยากเก็บแสงเย็นที่นี่ค่ะ

Kazusa Tsurumai เป็นสถานนีที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลค่ะ แต่เป็นอีกหนึ่งโลเคชั่นที่คนญี่ปุ่นนิยมมาถ่ายรูปกัน เห็นว่ามีพวก MV มาถ่ายกันด้วย เพราะมันให้อารมณ์คลาสสิค และญี่ปุ่นชนบทแท้ๆ

จากสถานีรถไฟ เราสามารถเดินไปถ่ายรูปรถไฟคู่กับทุ่งนาได้ไม่ไกลค่ะ แต่ความยากคือ ถ้าเราถ่ายรถไฟที่กำลังจะมาขบวนถัดไป เราก็จะพลาดรถไฟขบวนนั้น และต้องรอไปอีกเป็นชั่วโมง ฉะนั้นแนะนำให้ค้นหาเวลาของเที่ยวรถไฟที่จะสวนทางไปค่ะ เพราะรถไฟวิ่งอยู่บนรางเดียวกัน มันจะมาก่อนขบวนที่พาเรากลับสถานี Goi ประมาณครึ่งชั่วโมงได้ เพียงพอต่อการถ่ายรูปรถไฟค่า

ช่วงเย็นๆ ที่นี่มีตากล้องมายืนรอถ่ายรูปรถไฟกันเพียบ แต่ละคนก็มีมุมจับจองเป็นของตัวเอง บ้างก็ซุ่มอยู่ในดงต้นข้าว ยืนรออยู่ริมถนน ดักรออยู่ข้างรางรถไฟ แล้วแต่ว่าใครอยากได้มุมไหน เราเองก็เคยสงสัยนะว่าทำไมคนญี่ปุ่นต้องทำกันถึงขนาดนี้ แต่พอรู้ตัวอีกที เราก็กลายเป็นหนึ่งในคนมาดักรอถ่ายรูปรถไฟไปเองซะแล้ว

ความจริงเวลา 1 วัน อาจไปเก็บสถานที่แลนด์มาร์กได้หลายที่เลยนะ บางคนอาจจะคิดว่าทำไมต้องมาเสียเวลากับการนั่งรถไฟสายโลคอลธรรมดาๆ เล่นแบบนี้ แต่สำหรับเรา .. ความไม่มีอะไร มันคือความเรียบง่าย เราหลงใหลความเรียบง่ายเหล่านั้น และมีความสุขมากกับการได้มองเห็นมุมมองใหม่ๆ ที่ซ่อนอยู่ในความธรรมดา และมีความสุขมากกว่าเมื่อได้นำความทรงจำเหล่านั้นกลับมาเล่าให้ใครสักคนฟัง