7 หมื่นตามล่าฝัน 17 วันทำได้ไง ไปล่าแสงเหนือ ตอนที่ 4

Home / สมาชิกพาเที่ยว / 7 หมื่นตามล่าฝัน 17 วันทำได้ไง ไปล่าแสงเหนือ ตอนที่ 4

เป็นทริปที่ในฝันที่ไกลจากบ้านที่สุดเท่าที่เคยมีมา
เป็นทริปที่ใช้ชีวิตอยู่บนรถทั้งวันทั้งคืนเป็นครั้งแรกของชีวิต
เป็นทริปที่เมื่อได้มองขึ้นไปสุดขอบฟ้าแล้ว มันไม่ใช่ขอบฟ้าเดิมที่คุ้นเคย

อ่านคำเตือนก่อนรับชม ได้ที่นี่ http://travel.mthai.com/member-blog/85970.html
หมอๆ ตะลุยโลก http://www.facebook.com/worldwantswandering

7 หมื่นตามล่าฝัน 17 วันทำได้ไง ไปล่าแสงเหนือ ตอนที่ 4

 8. Why Iceland?

1402233440-DSC0258-o

เพราะได้ไปดูภาพยนตร์เรื่อง The Secret Life of Walter Mitty มาครับ
เย้ยไม่ใช่แล้วครับ ตั้งใจจะมาก่อนที่หนังจะเข้าฉายตั้งนานแล้ว ด้วยเหตุผลดังนี้

1.ค่าใช้จ่าย เทียบกับประเทศกลุ่มสแกนฯ หรือ กรีนแลนด์ ที่ไอซ์แลนด์ ค่าครองชีพถูกกว่าครับ รวมถึงมีสายการบินราคาประหยัดบินจากนอร์เวย์มาที่ไอซ์แลนด์ได้ครับ เทียบกับการบินไปกรีนแลนด์แล้ว ค่าใช้จ่ายต่างกันเยอะครับ บินไปกรีนแลนด์ จาก กทม. นี่อยากจะร้องไห้ครับ อย่างน้อยๆ ต้อง 50,000 บาทแล้วครับ ถ้าใครเงินถึง ฝากเที่ยวด้วยครับ กรีนแลนด์ T T ส่วนอลาสกา หรือ แคนาดา มันก็ดูจะไกลไปครับสำหรับคนไทยอย่างเราๆ
ปล. ไอซ์แลนด์ใช้เงินสกุล Krona (โครน่า) ใช้ตัวย่อ ISK
1 ISK = 0.3 THB โดยประมาณ
เวลาคิดราคาของ เช่น นมกล่องราคา 200 ISK ก็เอา 0.3 ไปคูณ ก็จะแปลงเป็นเงินบาทอย่างง่ายๆ คือ 60 บาท

2.สภาพภูมิอากาศ ไอซ์แลนด์มีสภาพเป็นเกาะ กลางมหาสมุทร อากาศแปรปรวนมากถึงมากที่สุดครับ ขณะที่ ฝั่งสแกนฯ อากาศแปรปรวนน้อยกว่าเนื่องจากเป็นแผ่นดินใหญ่ ยกตัวอย่าง ไอซ์แลนด์อากาศเปลี่ยนแปลงเป็ นรายชั่วโมง แบบช่วงเช้าฝนตก ช่วงบ่ายฟ้าเปิด ช่วงดึกหิมะตก ในขณะที่ฝั่งสแกนฯ ถ้าอากาศดีก็ดีไปเลย ถ้าแย่ก็แย่ไปเลย 3-4 วันติดๆกัน รวมไปถึงอากาศที่ไม่หนาวมากจนเกินไปในการล่าแสงเหนือ คือ ไม่ต่ำกว่า -10 องศาเซลเซียส ทำให้คนจากเส้นศูนย์สูตรแบบเรา ไม่ทรมานมากนักครับ เทียบกับอลาสกา แคนาดา พวกนี้หนาวมากนะครับ รัสเซียไม่ต้องพูดถึง หนาวโคตรหนาวครับ

3.สภาพภูมิประเทศ ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่ยังใหม่ ตั้งอยู่บนกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งเป็นแนวแผ่นเปลือกแยกตัวระหว่างแผ่นทวีปอเมริกาเหนือและแผ่นทวีปยูเร เชีย ไอซ์แลนด์มีภูเขาไฟมากกว่าร้อยแห่ง ทำให้ไอซ์แลนด์มีแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพสูง อย่างแหล่งน้ำพุร้อนจำนวนมาก รวมถึงมีน้ำตกสวยๆอีกเพียบ นอกจากนี้ ยังมีถ้ำน้ำแข็ง ธารน้ำแข็งที่ดูมหัศจรรย์สุดๆอีกด้วย เรียกว่าที่นี่ คนที่ชื่นชอบธรรมชาติ มาแล้วติดใจไม่รู้ลืม

4.ความปลอดภัย ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่มีประชากรเบาบางมาก ราวๆ 3 คนต่อ 1 ตารางกิโลเมตร แถมยังเป็นประเทศที่คนที่นี่รวยด้วยอีกต่างหาก ด้วยรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปีที่ 42,658.40 USD (ปี 2012) หรือ ราวๆ 113,000 บาท ต่อคนต่อเดือน ทำให้คนที่นี่ ไม่จำเป็นต้องไปปล้นหรือขโมยของใคร ทำให้มีความปลอดภัยสูงมากถึงมากที่สุด

9. การขับรถใน Iceland

หลังจากเราได้จองรถเรียบร้อย ทำใบขับขี่สากลเรียบร้อย
ที่เหลือก็แค่แต่งหน้าปะแป้งรอวันนั้นของเดือนให้มาถึงแล้วละครับ

1402233534-vegakerfid-o

หัวข้อนี้มาพูดถึงการขับรถในประเทศไอซ์แลนด์กันนะครับ
ด้วยความที่ประเทศมีลักษณะเป็นเกาะ ตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางมหาสมุทร
ถนนเส้นหลักจึงเป็นถนนที่วิ่งได้รอบเกาะ วนกลับมาที่จุดเดิมได้เสมอ เรียกว่า Ring road ครับ
Ring road คือทางหลวงหมายเลข 1 เปรียบได้กับถนนสายประธานแบบ เพชรเกษม พหลโยธิน ของไทยนะครับ
อย่างในภาพก็จะหมายถึงถนนเส้นสีดำทั้งหมดนะครับ
ส่วนเส้นสีเหลืองที่เห็นตอนกลางของประเทศจะเรียกว่า F-road ครับ

1402233593-vegakort1-o

F-road ในไอซ์แลนด์ หมายถึง mountain road คือเป็นถนนที่ต้องใช้รถ 4WD เท่านั้น
ในไอซ์แลนด์จะเรียกบริเวณตอนกลางของประเทศว่า Highland ครับ ไม่ใช่นักท่องเที่ยวปกติที่ไปกัน
ดูให้ชัดขึ้นก็คือถนนสายสีแดงทั้งหมดนี้ครับ เป็นเขตไร้คนอยู่อาศัย ไร้บ้านเมือง จะไปทีต้องไปเป็นทีมครับ
อย่างเจ้า Kuku ก็บอกไว้ชัดเจนว่าเช่ารถ category ไหนจะขับที่ถนนระดับใดได้บ้าง

7 หมื่นตามล่าฝัน 17 วันทำได้ไง ไปล่าแสงเหนือ ตอนที่ 4

กฎจราจรสำหรับคนที่นี่ คือ
1.)พวงมาลัยอยู่ทางซ้าย รถขับเลนขวา ตรงกันข้ามกับเมืองไทยทุกอย่าง แรกอาจจะไม่คุ้น ขับไปสักพักก็จะชินครับ
2.)ความเร็วในการขับขี่เป็นเรื่องสำคัญมากครับ ในเขตเมืองไม่เกิน 50 กม/ชม ในเขตชุมชนไม่เกิน 30 กม/ชม ถ้าเป็นนอกเมืองถ้าถนนราดยางก็ไม่เกิน 90 กม/ชม ถนนลูกรังก็ไม่เกิน 80 กม/ชมมีกล้องจับความเร็วแทบจะทุกจุดในถนนหลักของประเทศครับ ถ้าโดนปรับทีก็หนักอยู่
3.)สัญลักษณ์กฎจราจรเป็นตามแบบมาตรฐานสากล แต่อาจมีสัญลักษณ์ที่ไม่คุ้นในเมืองไทยอยู่บ้างครับ
ไปโหลดโปรแกรมเก็บไว้ในมือถือกันได้ที่ https://play.google.com/store/apps/details?id=com.is.traffic.signs&feature=search_result&hl=en_GBhttp://
4.)ต้องเปิดไฟหน้ารถตลอดเวลา และคาดเข็มขัดนิรภัยตลอด ไม่ว่าจะเช้าหรือกลางคืน อันนี้คือบังคับเลยนะครับ
5.) ห้ามใช้โทรศัพท์ระหว่างการขับรถ
6.) ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกฮอล์ทุกชนิดไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น

112 เบอร์เดียวทั่วประเทศ โทรฟรี ไม่จำกัดเวลา

เรื่องปั๊มน้ำมัน
ไอซ์แลนด์มีปั๊มน้ำมันอยู่ทั่วประเทศ (ยกเว้น Highland) และเปิดตลอด 24 ชั่วโมง (เนื่องจากเป็นระบบอัตโนมัติ คนเติมต้องจ่ายเงินและเปิดหัวจ่ายเติมน้ำมันเอง ไม่มีเด็กปั๊มเหมือนเมืองไทย) แต่ปั๊มน้ำมันจะตั้งอยู่เฉพาะเขตเมืองเท่านั้น นอกเมืองไปไม่มีเลย และบางช่วงที่ระยะห่างระหว่างเมืองไกลมาก เพราะฉะนั้นการกะระยะทางระหว่างเมืองให้เหมาะสมและเติมน้ำมันให้เต็มถังอยู่ ตลอดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากกกครับ
น้ำมันสำหรับรถยนต์มีแค่ 2 ชนิดเท่านั้นคือ Gasohol 95 และ Diesel เท่านั้นครับ
ราคาเฉลี่ยต่อลิตร Gasohol ราวๆ 1.57 ยูโร Diesel อยู่ที่ 1.53 ยูโรครับ (ราคาเบนซินกับดีเซลแทบไม่แตกต่างกันเลย)
ในไอซ์แลนด์มีปั๊มอยู่หลายเจ้าครับ แต่เจ้าที่เห็นบ่อยจนชินตาคือ N1 และ Olis ครับ เจอกันเกือบทุกที่ แต่ N1 จะเจอมากกว่าคือมีครบทุกเมืองในไอซ์แลนด์ครับ

1402233791-n1kortgrat-o

บรรยากาศปั๊มน้ำมันในไอซ์แลนด์ เหมือนกับเป็นจุดพักรถเลยละครับ บรรยากาศคล้ายๆเมืองไทย คือมีทุกอย่าง ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้องน้ำ และร้านค้าพวกอุปกรณ์เกี่ยวกับรถยนต์ต่างๆครับ เวลาเปิด-ปิดแล้วแต่เจ้าของว่าจะเปิดปิดกี่โมงบอกไม่ได้ แต่โดยเฉลี่ยคือ 8.30-20.30 ครับ โดยจะปิดเฉพาะส่วนร้านค้าเท่านั้น แต่ส่วนตรงหัวจ่ายน้ำมันเติมได้ตลอด 24 ชม. ครับ

1402233838-DSC1145-o

การจ่ายเงินค่าเติมน้ำมัน

1.)    Credit card เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุดครับ จะ Visa หรือ Master card ก็ได้ แต่สำคัญตรงให้เราไปเปิดบัตรเครดิตชนิดที่มี pin ที่สามารถกดใช้เงินสดได้ (ถ้าแบบไม่มี pin ใช้กับหัวจ่ายน้ำมันไม่ได้นะครับ ใช้ได้แต่รูดบัตรซื้อสินค้าอย่างเดียว)

1402233906-kortlykill-o

2.)    N1 card เป็นบัตรเงินสดที่ใช้กับปั๊ม N1 เท่านั้น ซื้อ 10,000 บาท ก็เติมได้ 10,000 บาท แต่ดีกว่าบัตรเครดิตตรงที่ จะมีส่วนลดให้ 1 ISK ต่อ 1 ลิตรน้ำมัน ที่เราเติม (ลดประมาณ 30 สตางค์ต่อ 1 ลิตร) โดยบัตรนี้สามารถซื้อได้ที่ปั๊มน้ำมัน N1 ครับ
สรุป ซื้อ N1 card ก็สะดวก บัตรเครดิตก็สะดวก จะใช้อะไรก็ตามใจเถอะ

สำรวจร่างกายรถ Kuku กัน

1402234155-DSC7148-o

ตอนนี้ผมขอพามาตรวจภายในรถ Kuku Camper ของเรากันครับ
ใช้กระเป๋าเป้สะพายหลังกะระยะความยาว ความกว้าง ดูนะครับ
จะเห็นได้ว่าส่วนหลังเบาะคนขับจะเป็นอ่างล้างมือ เตาแก๊ส และกล่องเก็บความเย็นครับ
ส่วนด้านท้ายรถจะเป็นส่วนไว้ให้คนนั่งและนอน

1402234181-DSC7151-o

เตียงด้านบน พับไม่ได้ ก็ใช้เป็นที่วางกระเป๋าในช่วงเช้าไปครับ ตอนกลางคืนก็เอาลงมาเป็นที่นอน
ส่วนด้านล่าง จะเห็นว่าเป็น เก้าอี้ และ โต๊ะ จัดวางอยู่ ในเวลากลางวันก็นั่งแบบนี้ก็ได้
ส่วนกลางคืนก็เอาโต๊ะออกเลื่อนเก้าอี้มาเป็นเบาะขนาดใหญ่ได้ครับ
ด้านบนนอนได้ 2-3 คน
ด้านล่างนอนได้ 2-3 คน เช่นเดียวกัน

1402234198-DSC7154-o

ขอบหน้าต่างมีราวแขวนผ้าให้ตั้ง 5 อัน สำหรับ 5 คนพอดีครับ

1402234224-DSC7155-o

มาดูส่วนครัวที่อยู่ด้านหน้ากันบ้าง
ฝั่งซ้ายคือกล่องเก็บความเย็นซึ่งจะทำงานเฉพาะตอนรถวิ่งเท่านั้น ส่วนกลางคืนที่รถจอดอยู่กล่องก็หยุดทำงานครับ แต่ไอซ์แลนด์ที่ผมไปอุณหภูมิด้านนอกก็เพียงพอที่จะทำให้กล่องเย็นได้ตลอด เวลาโดยที่ไม่ต้องใช้ไฟใดๆครับ
ฝั่งขวาจะเป็นโต๊ะทำครัว อ่างล้างมือ และเตาแก๊ส 2 อัน อย่างในภาพ

1402234251-DSC7156-o

เปิดมาก็จะเป็นแบบในภาพนี้ กล่องใหญ่พอควรใส่อาหารสดได้เยอะครับ

1402234278-DSC7157-o

กล่องใส่อุปกรณ์ครัวที่ให้มากับรถ
มีกระทะ หม้อ เขียง ปืนจุดแก๊สที่ทำความสะอาด และจานพลาสติคมาให้แล้ว
เราอาจจะเตรียมแค่ช้อน และ จานเพิ่มไปนิดหน่อยก็พอครับ
น้ำยาล้างจาน กระดาษทิชชู สก๊อตไบรท์ ไปหาเอาที่นู่นคับ ไม่ต้องแบกไป

1402234298-DSC7158-o

นอกจากนี้ด้านบนเหนือที่นั่งคนขับยังมีช่องให้เก็บของได้อีก
จะใส่พวกอาหาร เสบียง ก็ตรงนี้แหละ

1402234325-DSC7160-o

มาดูส่วนด้านหน้ากันบ้าง
พวงมาลัยอยู่ด้านซ้ายตามรูปครับ

1402234341-DSC7161-o

รูปร่างคอนโซลก็เหมือนรถทั่วๆไป ไม่มีอะไรแตกต่าง

1402234360-DSC7162-o

เป็นกระจกไฟฟ้าทั้ง 2 ด้านนะครับ
ไว้ค่อยตามกันในรีวิวละกันครับว่ากระจกบานนี้มีเรื่องราวอะไรให้ติดตาม

1402234377-DSC7163-o

ปกติฝั่งซ้ายถ้าเป็นเหมือนไทยก็เป็นที่เปิดไฟเลี้ยวใช่ไหมครับ
แต่ที่นี่ทุกอย่างตรงข้ามกับเมืองไทยหมด ด้านซ้ายเป็นที่ปรับน้ำฝนแทน
คันเร่งอยู่ฝั่งขวา เบรกอยู่ฝั่งซ้ายเหมือนๆบ้านเรา

1402234397-DSC7164-o

แผงคอนโซนกลาง มีฮีตเตอร์
วิทยุ และ เครื่องเล่น CD เพลงครับ
ใส่ USB หรือ MP3 อะไรไม่ได้ทั้งสิ้น
เตรียมแผ่นเพลงที่ชอบๆมาละกัน
ส่วนที่จุดบุหรี่ก็เอาไว้ต่อ Power invertor มาชาร์ตอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถได้ครับ

1402234421-DSC7165-o

เกียร์รถเป็นแบบ auto และ semi-auto นะครับ
N = Neutral, R = Reverse, A/M = Auto
สำคัญมากสำหรับคนที่ขับรถเกียร์กระปุกไม่เป็น ตอนแจงต้องแจ้งไปอย่างชัดเจนว่าต้องการเกียร์ออโต้นะครับ
เพราะมีแค่คันเดียว ไม่รีบจอง ไม่มีรถไม่รู้ด้วยนะครับ

1402234444-DSC7168-o

ทีนี้เมื่อวันที่เราได้รถเจ้า Kuku มาแล้ว สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกคือ
1.)    ตรวจเช็ค ความเรียบร้อยภายในรถ ว่ามีสิ่งของใดบกพร่อง หรือดูท่าไม่ค่อยดีบ้าง จะได้แจ้งพนักงานเขาก่อนรับมอบ
2.)    เช็คระบบน้ำประปา เตาแก๊ส กล่องเก็บความเย็น ว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมทำงานหรือไม่
3.)    เช็คระบบทำความร้อนหรือฮีตเตอร์ที่ติดตั้งภายในรถว่าทำงานได้ดีหรือไม่
4.)    เช็คระบบไฟฟ้าภายในรถ เช่น ไฟทาง ที่ปัดน้ำฝน วิทยุ กระจกไฟฟ้า ว่าทำงานได้ดีหรือไม่
5.)    ลองขับรถดูระยะทางสั้นๆ ฝึกแตะเบรก และ เหยียบคันเร่งรถที่เราไม่คุ้นเคย
6.)    สุดท้ายแล้วให้เขามานั่งกับเราขับรถเล่นรอบเมืองเล็กๆสักรอบก่อนจะไปออกรอบจริงครับ

เผื่อใครสนใจรถประเภทนี้จริงๆ เรามีคลิปวีดีโอ รีวิวแบบละเอียดๆ ให้ชมครับ

ที่นี้มาที่คำถามสำคัญ
1. ทำไมต้องจอง Kuku มีเจ้าอื่นที่ดีกว่านี้ไหม
ตอบ นอกจาก Kuku แล้ว ยังมีของคนอื่นๆให้เลือกสรรอีกหลายเจ้าครับเช่น
เช่น http://www.campervaniceland.com , http://www.happycampers.is
http://www.campervanrental.is
แต่ทำไมจากเหล่าตัวเลือกด้านบน เราถึงเลือก Kuku เป็นที่หนึ่งในใจเรา ด้วยเหตุผลที่ว่า
“มันถูกที่สุด” และ “เป็นยี่ห้อเดียวที่มีเกียร์ออโต้ครับ”
ลองดูเทียบราคาง่ายๆ ที่รถขนาดเดียวกัน คือ ขนาดสำหรับ 4 คนนอน (ราคาแปลงหน่วยจาก ISK,Euro มาแล้วนะครับ)
โดยเป็นราคา ณ ช่วงเวลาเดียวกัน คือ ถ้ามาเวลานี้ ต้องเจอราคาแบบนี้ครับ (ไม่ใช่ไปเทียบหน้า high กับหน้า low)

campervaniceland    7413
happycampers            7513
campervanrental            7413
Kuku                            5322

2. ถามต่อ แล้วราคาถูกแล้วมันดีจริงเหรอป่าว มีปัญหาระหว่างการใช้งานบ้างไหม ของถูกแต่ห่วยมีให้เห็นถมไป บลาบลาๆ
ตอบ เป็นความจริงครับที่ว่า ไม่มีของถูกและดีในโลก แต่ผมต้องย้ำอีกทีหนึ่งว่า ถ้าเราไม่ซีเรียสที่จะต้องใช้ของดีมาก เราใช้ของถูกแล้วได้ประสิทธิภาพที่รับได้ สุดท้ายแล้วได้จุดประสงค์เดียวกัน เราจะโอเคไหมครับ นั่นคือคำตอบของ Kuku
ระยะเวลาที่ใช้งานเจ้า Kuku ตลอดเวลา 11 วัน มีปัญหาเยอะครับ ยอมรับเลย เช่น กระจกไฟฟ้าเสีย ต้องพารถไปหาช่างซ่อมใช้เวลาไปเกือบครึ่งวัน ระหว่างการเดินทางบางทีก๊อกน้ำใช้ไม่ได้ ต้องแกะมันมาซ่อม บางทีน้ำมันหล่อเย็นเครื่องยนต์หมดต้องพาไปหาช่างยนต์มาช่วยดูให้ รายละเอียดเหล่านี้จะอยู่ในรีวิวตอนต่อๆไปนะครับ
แต่บทสรุปหลังจากจบทริปว่าด้วยราคาที่ยั่วยวนแล้วจุดนี้พวกผมยอมที่จะเจอปัญหาพวกนี้มาให้แก้ครับ

ขอบคุณบทความและภาพ คุณ cescassawin (หมออัศวิน) จาก http://pantip.com/topic/32164247

โปรดติดตาม 7 หมื่นตามล่าฝัน 17 วันทำได้ไง ไปล่าแสงเหนือ ตอนที่ 5

รวมลิงค์ 7 ตอน ตามล่า แสงเหนือ

7 หมื่นตามล่าฝัน 17 วันทำได้ไง ไปล่าแสงเหนือ ตอนที่ 1

– 7 หมื่นตามล่าฝัน 17 วันทำได้ไง ไปล่าแสงเหนือ ตอนที่ 2

– 7 หมื่นตามล่าฝัน 17 วันทำได้ไง ไปล่าแสงเหนือ ตอนที่ 3

– 7 หมื่นตามล่าฝัน 17 วันทำได้ไง ไปล่าแสงเหนือ ตอนที่ 4

7 หมื่นตามล่าฝัน 17 วันทำได้ไง ไปล่าแสงเหนือ ตอนที่ 5

– 7 หมื่นตามล่าฝัน 17 วันทำได้ไง ไปล่าแสงเหนือ ตอนที่ 6

โปรดติดตาม 7 หมื่นตามล่าฝัน 17 วันทำได้ไง ไปล่าแสงเหนือ ตอนจบ