10 อันดับ เมืองชายหาดโลก ปี 2013

Home / ท่องเที่ยวรอบโลก / 10 อันดับ เมืองชายหาดโลก ปี 2013

วันนี้ทีมงาน Travel MThai ขอเสนอ ” 10 อันดับ เมืองชายหาดโลก ประจำปี 2013 ” จากการจัดอันดับโดยเว็บไซต์ เนชั่นเนล จีโอการาฟิก ดอทคอม มีเมืองไหนในโลกติดอันดับมาบ้าง ลองมาดูกัน..

อันดับ 1 เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน

เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน

บาร์เซโลน่า เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศสเปน ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของคาบสมุทรไอบีเรีย เป็นเมืองเก่าแก่และมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน นักท่องเที่ยวนอกจากมาเที่ยวชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ชมทีมสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่าชื่อดังลงแข่งแล้ว ที่เมืองแห่งนี้ยังมีชายหาดทรายขาวสะอาด ให้วิ่งเล่น นอนอาบแดด พักผ่อนหย่อนใจ รับอากาศดีๆจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอย่างสบายใจในยามเย็น

อันดับ 2 เคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้

เคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้

เมืองสำคัญของประเทศแอฟริกาใต้  ติดกับฝั่งมหาสมุทรอินเดีย อีกหนึ่งเมืองชายหาดสวยงามเหล่านักท่องเที่ยวชอบมาเยือนกัน นอกจากทะเลที่งดงามแล้ว ยังมีธรรมชาติป่าเขาสมบูรณ์ รวมถึงเทือกเขาสูง ให้ขึ้นไปสัมผัสแล้วมองลงมา ก็จะเห็นเมืองเคปทาวน์ทั้งเมืองอยู่ตรงหน้าคุณ

อันดับ 3 โฮโนลูลู รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา

โฮโนลูลู รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา

หมู่เกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิกอย่าง ฮาวาย ยังคงเป็นเมืองชายหาดสวรรค์ ในสายตานักท่องเที่ยวทั่วโลกอยู่เช่นเคย นอกจากมีชายหาดที่สวยงามแล้ว ยังธรรมชาติที่งดงามสมบูรณ์ และเต็มไปด้วยวัฒนธรรมของคนพื้นเมืองที่น่าไปสัมผัสอย่างยิ่ง

อันดับ 4 เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส

เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส

ชายหาดเมืองนีซ สถานที่พักตากอากาศสุดหรูอีกแห่งหนึ่งในโลก เต็มไปด้วยที่พัก โรงแรมสไตล์คลาสสิกส่วนบุคคล มีร้านอาหาร บาร์เครื่องดื่มชั้นเลิศราคาแพงให้บริการ มาที่นี่นอกจากจะมีตังมาเที่ยวแล้ว ยังต้องแข่งขันจองที่พักกันด้วย เพราะมีเศรษฐีจากทั่วโลกต่างอยากมาใช้บริการ เมืองชายหาด ส่วนตัวกันทั้งนั้น

อันดับ 5 ชายหาดไมอามี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา

ชายหาดไมอามี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา

ไมอามี่ เป็นเมืองชายหาดมีชื่อเสียงระดับโลก เป็นแหล่งบุคคลมีชื่อเสียงมาพักตากอากาศกัน ไม่แปลกที่พัก ของกิน ของใช้ต่างๆ แถวนั้นแพงและมีค่าใช่จ่ายที่สูงพอควร นอกจากนี้ยังเป็นที่หลบอากาศหนาวยอดนิยมของคนอเมริกัน ซึ่งจะเดินทางมากันจำนวนมากในแต่ละปี เนื่องจากการเดินทางที่ไม่ไกลมากนัก เมื่อเปรียบเทียบไปยังประเทศริมทะเลเขตร้อนอื่นๆ แถมสะดวกเพราะมีสายการบินในประเทศรองรับจำนวนมาก

อันดับ 6 เมืองริโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิล

เมืองริโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิล

ริโอ เด จาเนโร เมืองที่เต็มไปด้วยสีสันเทศกาลคาร์นิวัลระดับโลก ต่างเดินขบวนโชว์การแสดงบนถนนเลียบชายหาด นอกจากนี้ยังมีจุดเที่ยวชมวิวที่รูปปั้นพระเยซูคริสต์ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนเทือกเขากอร์โกวาดู ซึ่งได้รับเลือกให้เป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่

อันดับ 7 ซานตา โมนิก้า รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

ซานตา โมนิก้า รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

แคลิฟอร์เนีย รัฐแห่งมายา สวรรค์ของเหล่าผู้ที่อยากมีชื่อเสียง และเมืองเทคโนโลยี มีชายหาด ซานตา โมริก้า ชื่อดัง ติดฝั่งทะเลมหาสมุทรแปซิฟิยาวกว่า 5.6 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังเป็นจุดถ่ายทำภาพยนต์ฮอลลีวู้ดมาหลายเรื่องตั้งแต่ปี 1920 อีกทั้งยังเป็นสถานที่เหล่าปาปารัสซี่ ชอบมาแอบถ่ายเหล่าบุคคลมีชื่อเสียงเล่นน้ำ นอนอาบแดดกัน

อันดับ 8 นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย

นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย

ใครจะคิดว่า ซิดนีย์ เมืองเศรษฐกิจ และศูนย์การแสดงอุปรากรดนตรีระดับโลก จะมีเมืองชายหาดยอดนิยมด้วยเช่นกัน ชายหาดซิดนีย์ เป็นสถานที่พักผ่อนของคนออสซี่ เต็มไปด้วยหาดทรายสะท้อนแสงอาทิตย์สีทอง และคลื่นน้ำทะเลที่แรงพอจะเล่นวินเซิร์ฟ หรือว่ากิจกรรมดำน้ำชมโลกใต้ทะเลก็ยังได้ และถ้ามาช่วงเดือน พฤษภาคม-ตุลาคม ยังมีโอกาสได้เห็นปลาวาฬว่ายผ่านแถวนี้ด้วย

อันดับ 9 เมืองเทล อาวีฟ ประเทศอิสราเอล

เมืองเทล อาวีฟ ประเทศอิสราเอล

เมืองเทล อาวีฟ ได้รับฉายาว่า “หาดไมอามี่แห่งเมดิเตอร์เรเนียน” เพราะที่นี่เต็มไปด้วยสีสัน ของร้านค้า โรงแรม หรือแม้กระทั่งผู้คนจำนวนมาก ถ้าเบื่อจากการเล่นน้ำ อาบแดดแล้ว มาสนุกต่อกับบาร์ และดิสโก้เทค ในยามค่ำคืน เป็นเมืองชายหาดที่ไม่เคยหลับไหลจริง

อันดับ 10 เมืองแวนคูเวอร์ รัฐบริติช โคลัมเบีย ประเทศแคนาดา

เมืองแวนคูเวอร์ รัฐบริติช โคลัมเบีย ประเทศแคนาดา

ประเทศแคนาดา เต็มไปด้วยสถานที่เที่ยวผจญภัยมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือ เมืองชายหาด แวนคูเวอร์ สถานที่สวยงาม สงบ และเห็นวิวทิวทัศน์ภูเขา และขอบฟ้าสุดสายตา เหมาะกับการเล่นน้ำ นอนอาบแดด และพักผ่อนสำหรับครอบครัว

น่าเสียดายที่การจัดอันดับครั้งนี้ จะไม่มีเมืองชายหาดชื่อดังระดับโลกจากไทย ติดอันดับมากับเขาด้วย แต่เชื่อเหลือเกินว่า เมืองชายชื่อดังอย่าง พัทยา ต้องติดหนึ่งในยี่สิบเมืองชายหาดระดับโลกอย่างแน่นอน!

ที่มา : travel.nationalgeographic.com
เรียบเรียงโดย : Travel MThai