ชมภาพฟ้าผ่า คาตาตัมโบ ที่ ทะเลสาบมาราไคโบ

Home / ท่องเที่ยวรอบโลก / ชมภาพฟ้าผ่า คาตาตัมโบ ที่ ทะเลสาบมาราไคโบ

สายฟ้า หรือ อสนีบาต ฟาดจากฟ้าลงแผ่นดิน อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปของโลกที่ต้องพบเจอ แต่ยังมีสถานที่นึงไม่ธรรมดา เพราะมีฟ้าผ่าลงมากที่สุดในโลก และจึงกลายเป็นสถานที่ถ่ายภาพปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ได้ความนิยม

ชมภาพฟ้าผ่า คาตาตัมโบ ที่ ทะเลสาบมาราไคโบ

10250185_617695761633357_3185057131612634593_n

ณ เขตปากแม่น้ำคาตาตัมโบ (Catatumbo) รอยต่อกับทะเลสาบมาราไคโบ (Lake Maracaibo) ประเทศเวเนซูเอลา ดินแดนแห่งสาวงามหน้าเข้ม บริเวณนี้สายฟ้าฟาดเปรี๊ยะๆ แปล๊บๆ แทบจะทุกวัน และวันไหนที่ฟ้าลงก็ลงแทบจะตลอดวัน กล่าวคือใน 1 ปี 365 วัน จะมีฟ้าผ่าประมาณ 140-160 วัน และถ้าวันไหนฟ้าขยันฟาดก็อาจจะนับได้ถึง 280 ครั้ง ต่อเนื่องได้ยาวนานนับ 10 ชั่วโมง และอาจจะมีความถี่ได้อีก 16-40 ครั้งต่อนาที

10156118_617695411633392_5999234185074362979_n

เฉลี่ยให้เห็นภาพชัดขึ้นคือผ่าได้ 3,600 ครั้งต่อ 1 ชม. หรือราว 1.2 ล้านครั้งต่อปี และช่วงนี้เป็นช่วงพีคที่สุด หากใครจะเดินทางไปชมแนะนำว่าเดือนเมษายน – พฤษภาคม รับรองว่าคุณจะได้เห็นแสงสีพร้อมเสียงสนั่นหวั่นไหวจนสะใจไปเลย

10154263_617695458300054_3192383516577216673_n© Alan Highton / Barcroft Media

เส้นของสายอสุนีบาตสามารถมองเห็นได้ชัดจากระยะไกลถึง 400 กิโลเมตร โดยจะมีกระแสไฟฟ้าสูงสุดได้ถึง 400,000 แอมป์ ซึ่งฟ้าผ่าปกติจะมีกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านเพียง 30,000-120,000 แอมป์เท่านั้น

ทีนี้วกกลับเข้ามาที่ศัพท์เฉพาะกันสักนิด “ปรากฏการณ์ฟ้าผ่าคาตาตัมโบ” นั้นเกิดได้อย่างไร?

1014064_617695724966694_6189098677996656385_n© Alan Highton / Barcroft Media

มันมีที่มาจากน้ำในทะเลสาบไหลผ่านตมในที่ลุ่มจำนวนมาก ซึ่งพวกตมโคลนเหล่านั้นประกอบขึ้นด้วยสารอินทรีย์ ที่กำลังสลายตัว ก่อให้เกิดกาซมีเทนลอยตัวขึ้นที่สูง เมื่อก๊าซมีเทนเจอการเสียดสีจากลมร้อนที่ถูกพัดมาจากทะเลแคริบเบียน และลมที่พัดมาจากฝั่งเทือกเขาแอนดีส จึงเกิดความร้อน และเกิดการสะสมของประจุไฟฟ้าในอากาศจำนวนมหาศาล ส่งผลให้อากาศขยายตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อสะสมไว้มากจนเกินไปก็ต้องมีการปลดปล่อย และเมื่ออากาศไปปล่อยประจุไฟฟ้าระหว่างก้อนเมฆกับพื้นโลก มันก็ส่งผลให้เกิดฟ้าผ่าขึ้น

10298776_617695578300042_4572530998725289262_n© Alan Highton / Barcroft Media

ปรากฏการณ์ฟ้าผ่าคาตาตัมโบ นั้นมีระบุว่าเกิดได้หลายแห่งบนโลกใบนี้ ที่มีปฏิกิริยาต้นกำเนิดคล้ายกัน เคยพบที่อินเดีย โคลัมเบีย อูกันดา เพียงแต่ว่าไม่ยาวนานต่อเนื่องจัดหนักแบบที่เวเนซูเอล่าแห่งนี้เท่านั้น

และด้วยความร้อนแรงของที่นี่ทำให้มีการบันทึกสถิติต่างๆ ลงกินเนสท์บุ๊คไว้เป็นที่เรียบร้อย

10268516_617695438300056_2346078112652486259_n© Alan Highton / Barcroft Media

ถ้าสถานที่แบบนี้มีในประเทศไทย อาจแปลว่ามีรามสูรหลายตน เลยขยันขว้างขวานใส่เมขลาแบบนี้ แต่ถ้าขว้างกันขนาดนี้เห็นทีเมขลาคงต้องเข้าร้องเรียนเกี่ยวกับหน่วยงานคุ้มครองสตรีแน่นอน

อ้อ! ถ้าใครได้สาบานอะไรไว้เยอะๆ ไม่แนะนำให้ไปเที่ยวนะ กระแสไฟฟ้าของเค้าแรงดีจริงๆ นะจะบอกให้!!!

10177922_617695778300022_4986202727491014446_n 10150649_617695608300039_783088571254015591_n© Alan Highton / Barcroft Media


View Larger Map

ข้อมูลและภาพ : adventure-journal.com / dailymail.co.uk / pichappy / unigang.com
เรียบเรียงโดย Travel MThai