เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศรายชื่อมรดกโลก (World Heritage) แห่งใหม่ของปี 2016 จำนวน 21 แห่ง ณ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยทั้ง 21 แห่งนี้ ประกอบไปด้วยมรดกโลกทางวัฒนธรรม 12 แห่ง มรดกโลกทางธรรมชาติ 6 แห่ง และมรดกโลกผสม 3 แห่ง
ยูเนสโกประกาศ 21 สถาน
ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งใหม่ ปี 2016
มรดกโลกทางวัฒนธรรม (New Inscribed Properties Cultural properties)
1. Antequera Dolmens Site ประเทศสเปน
ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศสเปน เมืองโบราณที่สร้างโดยการใช้หินขนาดใหญ่ทับถมกัน ที่โดดเด่นคือมีอนุสาวรีย์สร้างจากหิน 3 แห่ง และภูเขา 2 แห่ง ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งงานสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่สุดของประวัติศาสตร์ยุโรปด้วย
——————————————
2. อู่ทหารเรือแอนติกาและแหล่งโบราณคดี (Antigua Naval Dockyard and Related Archaeological) ประเทศแอนติกาและบาร์บูดา
สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 สร้างขึ้นโดยทหารอังกฤษ เพื่อให้เป็นที่พักพิงของนักเดินเรือ หลบพายุเฮอริเคน และซ่อมแซมเรือที่ได้รับความเสียหาย ที่นี่มีอาคาร บ้านเรือนและสิ่งก่อสร้างสไตล์จอร์เจียน รอบล้อมด้วยกำแพงหินและธรรมชาติที่สวยงาม
——————————————
3. แหล่งโบราณคดีอานี (Archaeological Site of Ani) ประเทศตุรกี
เมืองที่ถูกสร้างขึ้นในยุคกลาง เจริญรุ่งเรืองมากในช่วงศตวรรษที่ 10-11 เป็นที่อยู่อาศัยของชาวคริสเตียนและ มุสลิม มีศาสนาและการทหาร ที่แห่งนี้ตั้งอยู่บนที่ราบสูงของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของตุรกี
——————————————
4. แหล่งโบราณคดี นาลันทามหาวิหาร (มหาวิทยาลัยนาลันทา) ที่นาลันทา, รัฐพิหาร (Archaeological Site of Nalanda Mahavihara (Nalanda University) at Nalanda, Bihar) ประเทศอินเดีย
ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของอินเดีย ที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลก สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วง 300 ปีก่อนคริสต์ศักราชจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 13 เป็นสถานที่สอนพุทธศาสนา แต่ภายหลังล่มสลายลงเพราะถูกรุกราน จากทหารชาวเติร์
——————————————
5. แหล่งโบราณคดีฟิลิปไพ (Archaeological Site of Philippi) ประเทศกรีซ
ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของกรีซ เมืองเก่าแก่ ก่อตั้งขึ้นในปี 356 ก่อนคริสตกาล โดยกษัตริย์ฟิลิปที่ 2 แห่งมาเซโดเนีย แบะที่นี่ได้กลายเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์อีกด้วย
——————————————
6. ถ้ำกอรัม (Gorham’s Cave Complex) สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ (United Kingdom of Great Britain and Northern Ireland)
ตั้งอยู่ทางตะวันออกของยิบรอลตาร์ เป็นถ้ำหน้าผาหินปูนขนาดใหญ่ ประกอยด้วย 4 ถ้ำ ที่มีหลักฐานทางโบราณคดี เกี่ยวกับการใช้ชีวิตของคนในยุค 100,000 ปีที่ผ่านมา วิวัฒนาการของมนุษย์ยุคหิน ทั้งประเพณีและวัฒนธรรม การล่าสัตว์
——————————————
7. ศูนย์กลางการประกอบพิธีกรรมแห่งไมโครนีเซียตะวันออก (Nan Madol : Ceremonial Centre of Eastern Micronesia) ประเทศไมโครนีเซีย (Micronesia (Federated States of))
สร้างขึ้นจากหินบะซอลต์และซากปะการัง ในช่วงปี ค.ศ. 1200-1500 เดิมที่ที่นี่เป็นพระราชวัง มีวัดและสุสาน รวมถึงที่นี่ยังถือเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางการประกอบพิธีกรรมของราชวงศ์ Saudeleur ปัจจุบันถูกกลืนกินด้วยธรรมชาติ ป่าชายเลน
——————————————
8. สิ่งสิ่งก่อสร้างในยุคปังปุลยา ประเทศบราซิล (Pampulha Modern Ensemble, Brazil)
สร้างขึ้น ในปี 1940 ตั้งเป็นศูนย์กลางของเมืองหลวง Minas Gerais โดยรอบเป็นทะเลสาบเทียม ภายในอาคาร รวบรวมสิ่งสันทนาการ เช่น คาสิโน, ห้องบอลรูม, สโมสรกอล์ฟ และโบสถ์ การออกแบบเป็นสถาปัตยกรรม ที่สะท้อนให้เห็นถึงประเพณี สังคมสมัยนั้น
——————————————
9. สุสานศิลาจารึกหลุมศพยุคกลาง สเตชัก ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, โครเอเชีย, มอนเตเนโกร และเซอร์เบีย (Stećci Medieval Tombstones Graveyards, Bosnia and Herzegovina, Croatia, Montenegro, Serbia)
เป็นสุสาน หลุ่มฝังศพในยุคกลาง ตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 ถึง 16 ซึ่งเป็นประเพณีที่พบบ่อย โดยบนแท่นหินปูนจะสลักชื่อ และลวดลายที่หลากหลาย รวมกันทั้งหมดมีสุสานกว่า 30 แห่ง
——————————————
10. สถาปัตยกรรมเลอกอร์บูซีเย ประเทศอาร์เจนตินา เบลเยียม ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย ญี่ปุ่น และสวิตเซอร์แลนด์(The Architectural Work of Le Corbusier, an Outstanding Contribution to the Modern Movement, Argentina, Belgium, France, Germany, India, Japan, Switzerland)
งานสถาปัตยกรรมของเลอกอร์บูซีเย มีทั้งหมด 17 แห่ง ตั้งอยู่ใน 7 ประเทศ เช่น ตึกวิจัย Complexe du Capitole ใน Chandigarh (อินเดีย) , พิพิธภัณฑ์ศิลปะ โตเกียว (ญี่ปุ่น) , บ้าน ใน อาร์เจนตินา เป็นต้น การออกแบบของเขาสะท้อนให้เห็นถึงการออกแบบใหม่ๆ ซึ่งแปลกตาสำหรับคนในยุคนั้น
——————————————
11. คานัตแห่งเปอร์เซีย ประเทศอิหร่าน
(The Persian Qanat, Iran (Islamic Republic of))
ในยุคจักรวรรดิเปอร์เซีย มีความก้าวหน้าในการพัฒนาเกษตรกรรม โดยมีการนำระบบชลประทานทั้งการสร้างเขื่อนและฝาย รวมทั้งรางส่งน้ำ เพื่อนำน้ำเข้าสู่พื้นที่เพาะปลูก นอกจากนี้ยังมีระบบชลประทานใต้ดิน ที่เรียกว่า ”คานัต”(Qanat) มาใช้ในการทำระบบส่งน้ำเข้าสู่เขตชุมชนเมืองด้วย
——————————————
12. Zuojiang Huashan Rock Art Cultural Landscape ประเทศจีน
ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชัน บริเวณชายแดนทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตชาวลั่วเยว่ ในช่วง 5 ปีก่อนคริสตกาลจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 2
——————————————
มรดกโลกทางธรรมชาติ (New Inscribed Properties Natural properties)
1. เกาะเรบียาคีเคโด ประเทศเม็กซิโก (Archipiélago de Revillagigedo, Mexico)
ตั้งอยู่ภาคตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิก หมู่เกาะนี้ประกอยไปด้วย 4 เกาะ คือ San Benedicto, Socorro, Roca Partida and Clarión อีกทั้งใต้หมู่เกาะยังมีเทือกเขาที่ตั้งจมอยู่ใต้น้ำ ที่นี่ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติเป็นอย่างมาก ทั้งสัตว์ปีก สัตว์บก และสัตว์น้ำ กระเบนราหู วาฬ โลมา และฉลาม
——————————————
2. เขตป่าไม้เสินหนงเจี้ย หูเป่ย์ ประเทศจีน (Hubei Shennongjia, China)
ป่าไม้ขนากใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์มากๆ ที่ตั้งอยู่ในมณฑลหูเป่ย์ ของจีน มีสัตว์หายาก เช่น ซาลาแมนเดอร์ยักษ์จีน เสือลายเมฆ เป็นต้น รวมถึงธรรมชาติ พันธุ์ไม้ และมีความหลากหลายทางชีวภาพ
——————————————
3. ทะเลทรายลุธ ประเทศอิหร่าน (Lut Desert, Iran (Islamic Republic of))
ความหมายตามภาษาเปอร์เซียแปลว่า ข้าวสาลีย่าง มาจากชาวบ้านในสมัยก่อนเล่าต่อกันมาว่า เคยมีคนทิ้งข้าวสาลีไว้ในทะเลทราย และเพียงไม่กี่วันความร้อนระอุก็ทำให้ข้าวมอดไหม้เป็นจุน ทะเลทรายแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นที่ที่มีพื้นผิวร้อนที่สุดในโลกด้วยอุณหภูมิ 70.7 องศาเซลเซียส และในช่วงเดือนมิถุนายนถึงตุลาคม ทะเลทรายกึ่งเขตร้อน แห้งแล้งนี้จะถูกลมแรงพัดจนทำให้พื้นทรายเกิดเป็นชั้นสวยงาม
——————————————
4. หน้าผาริมทะเล ประเทศแคนาดา (Mistaken Point, Canada)
ตั้งอยู่ตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะนิวฟันด์แลนด์ ของแคนาดา มันประกอบด้วยความยาวถึง 17 กิโลเมตร ที่นี่ยังเชื่อว่าเป็นสถานที่ต้นกำเนิดของฟอสซิลในยุคเอเดียคาเรน ช่วง 580-560 ล้านปีที่ผ่านมา
——————————————
5. อุทยานแห่งชาติทางทะเลซังกาเนบ และอุทยานแห่งชาติทางทะเลอ่าวดุงโกนับ-เกาะมุกกาวาร์ ประเทศซูดาน (Sanganeb Marine National Park and Dungonab Bay – Mukkawar Island Marine National Parkn, Sudan)
ประกอบด้วย 2 อุทยานที่มีความหลากหลายทางธรรมชาติ ทั้งปะการัง ป่าชายเลน เกาะเล็กเกาะน้อยต่างๆ อีกทั้งยังมีเป็ยที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเล เช่น นกทะเล สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมปลา, ปลาฉลาม , เต่า, ปลากระเบน เป็นต้น และที่อ่าวดุงโกยังเป็นแหล่งที่มีพะยูนอาศัยมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
——————————————
6. เทือกเขาเทียนฉานตะวันตก (Western Tien-Shan) ประเทศคาซัคสถาน, อุซเบกิสถาน และคีร์กีซสถาน (Western Tien-Shan : Kazakhstan, Kyrgyzstan, Uzbekistan)
ตั้งอยู่บนเทือกเขาเทียนฉาน ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ระดับความสูง ตั้งแต่ 700 ถึง 4,503 เมตร นอกจากนี้ยังมีภูมิประเทศที่หลากหลายทางชีวภาพ ป่า เทือกเขาเทียนฉานนี้กว้างใหญ่มากเพราะกินพื้นที่ 3 ประเทศ คือ คาซัคสถาน, อุซเบกิสถาน และคีร์กีซสถาน
——————————————
มรดกโลกผสม (New Inscribed Properties Mixed property)
1. ภูมิทัศน์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรม Ennedi Massif ประเทศชาติ (Ennedi Massif: Natural and Cultural Landscape, Chad)
ที่แห่งนี้ประกอบไปด้วยหินทรายะส่วนใหญ่ มีหลักฐานที่แสดงให่เห็นถึงวิถีชีวิตของคนในยุคก่อน โดยการแกะสลักหินในที่ต่างๆ ภาพเขียนโบราณ ถือว่าใหญ่ที่สุดในทะเลทรายซาฮารา และที่นี่ยังมีพร้อมด้วยระบบนิเวศ ธรรมชาติ หุบเขา เทือกเขา ถ้ำหิน เพิงหิน
——————————————
2. อุทยานแห่งชาติคังเซนซุงกา ประเทศอินเดีย
(Khangchendzonga National Park, India)
ตั้งอยู่ใจกลางของเทือกเขาหิมาลัย อุทยานแห่งชาตินี้มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นที่ราบ หุบเขา ทะเลสาบ ธารน้ำแข็ง ที่งดงาม และภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ ป่า และยอดเขานี้ยังสูงเป็นอันดับ 3 ของโลกอีกด้วย
——————————————
3. อะห์วาร์แห่งอิรักตอนใต้ ประเทศอิรัก (The Ahwar of Southern Iraq: Refuge of Biodiversity and the Relict Landscape of the Mesopotamian Cities, Iraq)
แหล่งความหลากหลายทางชีวภาพและอนุสรณ์ของเมืองในยุคเมโสโปเตเมีย ประกอบไปด้วย 7 แห่ง ที่เป็นแหล่งโบราณคดีและพื้นที่ชุ่มน้ำ อีกทั้งพื้นที่นี้ยังเคยเป็นเมืองโบราณ ที่อยู่อาศัยของชาวสุเมเรียน ยุคเมโสโปเตเมีย ระหว่างสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไทกริสและยูเฟรทีส ที่ตั้งอยู่ในทวีปที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนและแห้งแล้งมาก
ขอบคุณข้อมูล whc.unesco.org/en/newproperties