ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ท่องเที่ยวต่างประเทศ ประเทศญี่ปุ่น

พาไปรู้จักเมือง ซูซูกะ โมเดลต้นแบบการสร้างเมืองท่องเที่ยวด้วยมอเตอร์สปอร์ต”

Home / ท่องเที่ยวรอบโลก / พาไปรู้จักเมือง ซูซูกะ โมเดลต้นแบบการสร้างเมืองท่องเที่ยวด้วยมอเตอร์สปอร์ต”

ถ้าพูดถึงกีฬามอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทย เราเชื่อว่าหลายคนคงจะนึกถึงสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่จังหวัดบุรีรัมย์ เพราะสนามแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสนามแข่งขันที่ได้มาตรฐานระดับโลกแห่งแรกในประเทศไทย และเป็นสนามที่ทำให้คนไทยหันมาสนใจกีฬามอเตอร์สปอร์ตและเมืองบุรีรัมย์มากขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าคุณรู้จักสนามช้างอยู่แล้วและยังคงไม่ค่อยอินกับกีฬามอเตอร์สปอร์ตสักเท่าไหร่ เราจะทำให้คุณอินมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยการพาไปทำความรู้จักกับเมือง “ ซูซูกะ ” จังหวัดมิเอะ ต้นแบบของการสร้างเมืองท่องเที่ยวด้วยกีฬามอเตอร์สปอร์ต

โดยก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจร่วมกันก่อนว่า การที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการท่องเที่ยว ไม่ได้เกิดขึ้นมาเพราะโชคช่วย แต่ละเมืองจะมีการสร้างจุดเด่นขึ้นมาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกันอย่างจริงจัง เช่น เมืองคุมาโมโตะ ที่เคยเป็นเมืองทางผ่าน ก็ได้ให้กำเนิดหมีดำสุดแสบอย่าง “คุมะมง” ให้มาเป็นมาสคอตประจำเมือง จนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เมือง ซูซูกะ เองก็เช่นเดียวกัน พลิกโฉมจากหน้ามือเป็นหลังมือด้วยการสร้างเรื่องราวเติมสีสันให้กับเมืองด้วยมอเตอร์สปอร์ต

ความตั้งใจที่ไม่ได้ตั้งใจ
หากจะย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้เมือง ซูซูกะ เป็นที่รู้จักและเป็นหนึ่งในเมืองห้ามพลาดของคนรักกีฬามอเตอร์สปอร์ต ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 1962 แบรนด์รถจักรยานยนต์ชื่อดังอย่างฮอนด้า ได้มีแนวคิดที่จะสร้างสนามทดสอบรถมอเตอร์ไซค์ที่ได้มาตรฐานระดับโลกไว้ทดสอบรถของตัวเอง โดยทางฮอนด้าได้มีการเชิญนักออกแบบสนามแข่งขันระดับโลกอย่าง John Hugenholtz มาทำการออกแบบให้สนามทดสอบแห่งนี้ ซึ่งในระหว่างการออกแบบก็ได้เกิดความท้าทายในการพัฒนาพื้นที่ให้กลายเป็นสนามแข่งขันที่สามารถใช้งานได้จริง โปรเจคดังกล่าวจึงไม่ได้จบอยู่ที่คำว่าสนามทดสอบ พัฒนาต่อเนื่องจนกลายมาเป็นสนามแข่งระดับโลก ที่จุผู้เข้าชมได้มากถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นคน และได้ทำการตั้งชื่อให้สนามแห่งนี้ว่า Suzuka International Circuit จากความตั้งใจที่จะสร้างสนามทดสอบรถ กลับกลายเป็นสนามที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ผิดจากความตั้งใจเดิมไปแบบสุดทาง

Suzuka 8 Hours การแข่งขันที่สร้างวัฒนธรรมการเชียร์กีฬามอเตอร์สปอร์ตให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
กีฬามอเตอร์สปอร์ตคนส่วนใหญ่จะคิดว่าเป็นกีฬาของผู้ชาย หรือคนที่ชื่นชอบรถมอเตอร์ไซค์เท่านั้น แต่ญี่ปุ่นไม่ยึดติดกับความเชื่อเดิมๆ คิดค้นการแข่งขันที่ทำให้คนทุกเพศทุกวัยหันมาเชียร์กีฬาประเภทนี้ได้อย่างจริงจัง ซึ่งรายการที่ว่านั้นก็คือ Suzuka 8 Hours การแข่งมอเตอร์ไซค์แบบเอนดูรานซ์ที่ต้องขี่กันยาวนานต่อเนื่องถึง 8 ชั่วโมงเต็ม

การแข่งรายการนี้นอกจากจะต้องพึ่งพาความทนทานของรถมอเตอร์ไซค์แล้ว ยังต้องอาศัยความอึด ความมุ่งมั่น และใจสู้ของผู้เข้าแข่งขัน เพราะในทีมแข่ง 1 ทีมจะมีผู้เข้าแข่งขัน 3 คนและรถ 1 คัน สามารถผลัดกันขี่ได้ตลอด 8 ชั่วโมง จะเข้าพิทเติมน้ำมันหรือซ่อมกี่ครั้งก็ได้ แต่ความโหดของมันก็คือ ถ้ารถเกิดเสียหายจนไม่สามารถกลับมาลงสนามได้ถือเป็นอันสิ้นสุดการแข่งขันทันที ไม่สามารถเปลี่ยนรถคันใหม่ได้

ด้วยเหตุดังกล่าว Suzuka 8 Hours จึงไม่ใช่การแข่งขันของผู้เข้าแข่งขันแต่เพียงผู้เดียว แต่เป็นการแข่งขันที่ทั้งทีมจะต้องช่วยกันทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ต้องมีการวางแผนปรับจูนเครื่องยนต์ให้วิ่งได้นานถึง 8 ชั่วโมง ส่วนผู้เข้าแข่งขันก็ต้องวางแผนส่งไม้ต่อการขับขี่ให้ดีที่สุด เพราะถ้าหากใครคนใดคนหนึ่งเกิดความผิดพลาดขึ้นมา อาจส่งผลให้ทีมไม่สามารถแข่งต่อจนจบการแข่งขันได้ ฟังดูแล้วอาจไม่ใช่เรื่องง่ายแต่มันก็คือเสน่ห์ของการแข่งรายการนี้ เป็นการแข่งที่เข้าถึงจิตวิญญาณแบบคนญี่ปุ่น ที่ให้ความสำคัญกับความมุ่งมั่น ความพยายามและความสามัคคีอย่างแท้จริง จุดนี้เองที่ทำให้ Suzuka 8 Hours เข้าถึงใจผู้คนได้ทุกเพศทุกวัย พิสูจน์ได้จากยอดผู้เข้าชมเกือบเต็มความจุ หนึ่งแสนห้าหมื่นคนทุกครั้งที่มีการแข่งขันรายการนี้

ทำสนามแข่งให้เป็นที่ท่องเที่ยว
นอกจากจะเป็นสนามระดับโลกที่มีการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตอยู่เป็นประจำแล้ว รอบๆ สนามเองยังมีสวนสนุกขนาดใหญ่และมีสนามสอนขับขี่รถมอเตอร์ไซค์สำหรับเด็กๆ อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการนำรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ในการแข่งขันจริง ออกมาโชว์ตัวเป็นรอบๆ ให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ส่วนในสนามเมื่อถึงช่วงเวลาพัก ก็จะมีการเปิดให้ผู้เข้าชมได้เข้าไปดูการทำงานของทีมที่ตัวเองชื่นชอบ พร้อมขอลายเซ็น จับมือ ให้กำลังใจนักแข่งกันอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับนั่งทานอาหารให้ครอบครัวได้มาปิคนิคกันด้วย เรียกได้ว่า Suzuka International Circuit เป็นพื้นที่ของคนทุกเพศทุกวัยจริงๆ


ช่วงเวลาพักการแข่งขันผู้เข้าชมสามารถลงมาเจอนักแข่งพร้อมขอลายเซ็นได้ถึงพิทของทีม

Suzuka 4 Hours รายการใหม่ที่ทำให้คนไทยมีโอกาสได้เชียร์ทีมไทย
หลังจาก Suzuka 8 Hours ได้รับการรับรองให้เป็นการแข่งขันระดับโลกจาก FIM ทางสนามก็คิดว่าควรจะมีรายการย่อยที่เปิดโอกาสให้ทีมแข่งหน้าใหม่เข้ามาทดสอบความสามารถตัวเองกันบ้าง จึงเกิดเป็น Suzuka 4 Hours ขึ้น และรายการนี้เองที่ทางเอ.พี. ฮอนด้าประเทศไทย ส่งทีมแข่งที่เป็นทีมคนไทยทั้งทีมไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์เมื่อปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นโอกาสดีที่จะทำให้คนไทยหันมาสนใจกีฬามอเตอร์สปอร์ตมากขึ้นกว่าเดิม เพราะจะได้ร่วมเชียร์ทีมที่เป็นคนไทยร้อยเปอร์เซ็นเป็นครั้งแรก ในประวัติศาสตร์

สุดท้ายใครที่อยากเที่ยวญี่ปุ่นแบบได้ซึมซับวัฒนธรรมคนญี่ปุ่นจริงๆ การไปเชียร์กีฬาประจำจังหวัดอย่าง Suzuka 8 Hours ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจไม่แพ้การการท่องเที่ยวในรูปแบบอื่นๆ ส่วนใครที่เป็นแฟนมอเตอร์สปอร์ตอยู่แล้วยิ่งไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะได้ดูรายการแข่งระดับโลกหลากหลายรายการแล้ว เมืองซูซูกะยังเป็นเมืองที่เชื่อมต่อกับเมืองใหญ่ๆ อย่างเกียวโต นาโกย่า โอซาก้าอีกด้วย เรียกได้ว่า ได้ทั้งเที่ยว ได้ทั้งเชียร์มอเตอร์สปอร์ต จบเบ็ดเสร็จในทริปเดียว


ทีม A.P. Honda Racing Thailand ตัวแทนจากประเทศไทยที่ได้ไปแข่ง Suzuka 4 Hours