ส่งท้ายหน้าหนาวที่ กิ่วแม่ปาน สำหรับนักเดินป่ามือใหม่

Home / นักเที่ยวเชี่ยวทาง / ส่งท้ายหน้าหนาวที่ กิ่วแม่ปาน สำหรับนักเดินป่ามือใหม่

จังหวัดเชียงใหม่ ใช่จะมีแค่ดอยสุเทพ และดอยอินทนนท์ ที่เป็นไฮไลท์สำคัญเท่านั้น ยังมีอีกหลายมุมท่องเที่ยวที่หลายคนยังไม่ค่อยได้มีโอกาสไป และหนึ่งในนั้น ก็คือห้องเรียนธรรมชาติ อย่างเส้นทางศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน

ส่งท้ายหน้าหนาวที่ กิ่วแม่ปาน สำหรับนักเดินป่ามือใหม่

กิ่วแม่ปาน

ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าช่วงลูกหลงหน้าหนาว หรือโค้งสุดท้ายดี แต่ขอส่งท้ายความหนาวกันที่นี่ “กิ่วแม่ปาน” ซึ่งเป็นหนึ่งในมุมชมวิวทิวทัศน์บนขุนเขาของเชียงใหม่ ที่ยังคงสมบูรณ์และหาดูได้ยากในประเทศไทย แม้กิ่วแม่ปานจะไม่มีอะไรมาก แต่ที่นี่ก็คือจุดรอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่มาแรงแซงทางโค้งแห่งหนึ่งในปี 2015 นี้

เส้นทางสู่กิ่วแม่ปาน คือเส้นทางของถนนจอมทอง ที่มุ่งสู่ดอยอินทนนท์ เพียงแต่อยู่ตรงกิโลเมตรที่ 42 ณ จุดนี้ เรากำลังจะเริ่มต้นเดินเท้าเข้าไปใน “เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน-ดอยอินทนนท์” ทางเข้าเส้นทางศึกษาธรรมชาติจะอยู่ริมถนนพอดี

เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน

เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน มีระยะทางการเดิน 3 กิโลเมตร มีทั้งเดินในป่าและสันดอย ทางเดินจะวนเป็นวงกลม เสียค่าเข้าคิดเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 200 บาท ระหว่างการเดินจะมีพี่ไกด์ท้องถิ่นคอยนำทางพร้อมให้ข้อมูลตลอดทาง ทางเดินในกิ่วแม่ปานเดินง่าย มีทางลาดชันบ้างเล็กน้อย ถือว่าเหมาะกับมือใหม่

ตลอดเส้นทางเดินที่ผ่านแบ่งออกได้เป็น 4 ระยะ ช่วงแรกเป็นป่าดิบชื้นมีมอส และเฟิร์นขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น เหล่าต้นไม้สูงใหญ่ แข่งกับความสูงชันของพื้นดิน แถมอากาศที่นี่ยังหนาว และบริสุทธิ์ดี เพราะมีแหล่งกำเนิดโอโซนรายล้อเต็มไปหมด

เมเปิ้ล

หลังจากผ่านดงทึบของป่าดิบเขา จึงเข้าสู่ช่วงของทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ที่คอยเปลี่ยนสีจากสีเขียวขจึในช่วงฤดูฝนสลับกับสีน้ำตาลอ่อนอย่างพรั่งพร้อมในช่วงฤดูแล้ง เห็นไอหมอกเมฆไหลมาอยู่เบื้องหน้าซึ่งคาดไม่ถึงเลยว่าจะอยู่หลังม่านอันหนาทึบ หากสังเกตดีๆ ตามทางเดินจะพบมูลหรือรอยขุดคุ้ยหาอาหารของสัตว์ป่า เมื่อเราออกเดินทางต่อจะพบกับต้นกุหลาบพันปีแดงขึ้นอยู่ตามหน้าผาเป็นดงกว้างจำนวนมากและมีขนาดใหญ่ จะพากันผลิดอกเบ่งบานในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม พันธุ์ไม้ชนิดนี้ถือเป็นลักษณะเด่นของเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานแห่งนี้ แล้วจึงวกกลับเข้าสู่ป่าดิบเขาอีกครั้งหนึ่ง เป็นการเดินช่วงสุดท้าย จะต้องเดินลงสู่ลำห้วยแม่ปาน ที่ไหลลดเลี้ยวมาจากบริเวณที่ข้ามมาในช่วงต้น

เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน

เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน สามารถวนรอบไปกลับในวันเดียว ตามหนทางจะผ่านไปสู่ป่าดงดิบริมธารน้ำ ขึ้นเนินผ่านป่าที่ห้อยระย้าด้วยมอส ฝอยลม ในยามหน้าฝนจะถูกปกคลุมด้วยหมอกขาวและอากาศที่หนาวเย็น สุดปลายทางที่ทุ่งหญ้าบนเนินที่ดารดาษด้วยดอกไม้ตามพื้น เช่น หนาดเขาสีขาวเป็นตุ่ม ๆ ส้มแปะ และดอกไม้ป่าสีเหลือง ม่วง ขาว อีกหลายชนิด เช่น บัวทองอินทนนท์ ไวโอเล็ต เป็นต้น

พ้นจากป่า ออกเดินต่อ เพื่อเช็คอินที่ ผาแง่มน้อย กับทางเดินระเบียงไม้ ที่สร้างขึ้นตามไหล่เขา และต่อมาคือปลายทางนั่งพักที่ทุกคนปรารถนา “สันดอยกิ่วแม่ปาน” ที่มีวิวสวยสมกับความเมื่อยล้า ได้เห็นทะเลหมอกสมใจ เมฆหมอกลอยผ่านไป นี่แหล่ะความงามของธรรมชาติ พร้อมลมพัดเย็นสบาย จุดชมวิวสันดอยด้านบนนี้ อากาศดี วิวสวย ฟิน !!! จากจุดชมวิวถ้าเรามองลงไปด้านล่างจะเห็นนาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง และอำเภอแม่แจ่ม ด้วย

กุหลาบพันปี กิ่วแม่ปาน

นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีความงามของ “กุหลาบพันปีสีแดง” ให้เป็นรางวัล ขึ้นอวดความงามตามไหล่เขา เริ่มผลิดอกงามให้ได้ชื่นชมกัน ปรับตัวเองท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็น และลมแรง ใบเป็นแผ่นเหนียวหนา เพิ่มขนในการคายน้ำ กิ่งโปร่งลมผ่านสะดวก เรียงใบเป็นกระจุกปลายกิ่ง ตอกแดงเข้มเห็นง่ายแม้ในม่านหมอก นกและแมลงจึงสะดวกเข้ามากินน้ำหวานและผสมเกสร โคนต้นมีตาสำรองไว้พร้อมขยายพันธุ์ในกรณีที่ถูกไฟป่ามารบกวน … เป็นข้อความบนแผ่นบอร์ดข้อความตรงนั้น ซึ่งน่าสนใจจึงขอนำมาถ่ายทอดเพื่อเป็นข้อมูล..

และที่เล่ามาทั้งหมดนี่แหละคือ กิ่วแม่ปาน … ของขวัญจากธรรมชาติที่แสนล้ำค่า

 

ที่มา บทความจาก : emaginfo.com