โรงแรมชินะปุระ จ.พิษณุโลก ย้อนชมความล้ำค่าของอาณาจักรล้านนา-อยุธยา

โรงแรมชินะปุระ (Shinnabhura Historic Boutique Hotel) เป็นโรงแรมเชิงประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ใน อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก บนพื้นที่กว่า 5ไร่ คำว่า ” ชินะ ” (ออกเสียงว่า ชิน-นะ) หมายถึง “ผู้ชนะ” และคำว่า “ปุระ”หมายถึง “เมือง” ดังนั้น ชินะปุระ จึงหมายถึง“เมืองแห่งผู้ชนะ” อีกนัยหนึ่ง “ ชินะ” ยังพ้องกับชื่อของพระพุทธรูปสำคัญของเมืองพิษณุโลกคือ“พระพุทธชินราช” โดยเป็นโรงแรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยุคสมัยกรุงศรีอยุธยาและอาณาจักรล้านนา

โรงแรมชินะปุระ จ.พิษณุโลก

ย้อนชมความล้ำค่าของอาณาจักรล้านนา-อยุธยา

โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดพิษณุโลก เมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานแห่งหนึ่งในประเทศไทย และอีกประการหนึ่งที่สำคัญคือในอดีตเมืองพิษณุโลกนี้เคยเป็นเมืองหน้าด่านระหว่างอยุธยาและล้านนามาหลายร้อยปีนั่นจึงทำให้สถาปัตยกรรมต่างๆ ของโรงแรมชินะปุระเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวของศิลปะอยุธยาและศิลปะล้านนา

ห้องพักของโรงแรมชินะปุระนั้น มีด้วยกัน 5 แบบด้วยกัน แต่ละห้องมีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ห้องพักประเภทเดียวกันแต่อาจจะมีการตกแต่งออกมาต่างกัน เรียกได้ว่าใส่ใจทุกรายละเอียดกันเลย ซึ่งครั้งนี้ เราได้พักห้องแบบแกรนด์ดีลักซ์ ที่มีเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ (น่าจะนอนได้ 2-3 คนเลย) และห้องกว้างมากประมาณ 35 ตารางเมตร มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีไฮไลท์ตรงห้องน้ำที่ดีไซน์สวยมาก แถมยังมีอ่างอาบน้ำตั้งอยู่กลางห้องอีกด้วย ซึ่งเราก็ไม่พลาดที่นะนอนแช่น้ำ ดูโทรทัศน์ พร้อมจิบเครื่องดื่มเย็นๆไปด้วย ฟินสุดๆ

ห้องพักแกรนด์ดีลักซ์

กิจกรรมอีกหนึ่งอย่างที่เราแนะนำให้ทุกท่านที่มาพักที่นี่ก็คือ บริการสปาที่ สราญสปา บรรยากาศร่มรื่น มองไปเจอแต่ต้นไม้สีเขียวๆ ยิ่งได้นอนนวดที่นี่ นอนฟังเสียงลมพัดใบไม้ นกร้อง เหมือนเราหลุดไปอยู่อีกโลกนึงเลยก็ว่าได้ ผ่อนคลายและสบายสุดๆ และสราญสปาใช้หลักการส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม เน้นความสมดุลของธาตุภายในทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ กับธาตุภายนอกคือสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดความสมดุลจริงๆ

บริการ: นวดแผนไทยล้านนา 3 ประสาน, การเข้าอู่อยู่ไฟ, การใช้สมุนไพรในรูปแบบต่างๆ

นอกจากนี้ โรงแรมชินะปุระยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆอีก เช่น ห้องออกกำลังกายที่มีอถปกรณ์ครบครัน, สระว่ายน้ำขนาด 12*5 เมตร และห้องอาหารมีด้วยกัน 2 แห่งคือ ห้องอาหารเชลียงที่อยู่ภายในห้องแอร์ บริการทั้งอาหารเช้า กลางวัน และค่ำ แต่ถ้าหากใครต้องการนั่งรับลมก็ใช้บริการห้องอาหารลานตันจันได้ ซึ่งมีความเก๋+เฮอร์ริเทจ ซึ่งหากไปทานแล้วต้องไม่พลาดที่จะดื่มไวน์ชั้นเลิศจากห้องอาหารแห่งนี้