ขุนน้ำนางนอน ดอยนางนอน ถ้ำหลวง ที่เที่ยวเชียงราย วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน

‘ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน’ ย้อนตำนาน หุบเขาแห่งรักที่แสนเศร้า

Home / ข้อมูล 77 จังหวัด / ‘ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน’ ย้อนตำนาน หุบเขาแห่งรักที่แสนเศร้า

เชียงราย เหนือสุดแดนสยาม เป็นจังหวัดที่นอกจากเด่นเรื่องของวัฒนธรรมประเพณีแล้ว ยังมีทัศนียภาพสวยงาม โอบล้อมด้วยธรรมชาติป่าเขา ใครๆ ก็อยากมาเที่ยวพักผ่อน สูดอากาศหายใจเข้าเต็มปอด วันน้เราจะพาไปทำความรู้จักสถานที่ที่กำลังถูกพูดถึงอยู่ตอนนี้ ‘ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน’

‘ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน’
ย้อนตำนาน หุบเขาแห่งรักที่แสนเศร้า

วนอุทยาน ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตั้งอยู่ที่ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยนางนอน มีเนื้อที่ประมาณ 5,000 ไร่ มีพื้นที่สำหรับบริการนักท่องท่องอยู่ 2 แห่ง คือ

1.  บริเวณวนอุทยานถ้ำหลวงตั้งอยู่ท้องที่บ้านน้ำจำ ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย เป็นที่ตั้งสำนักงาน

2. บริเวณขุนน้ำนางนอน มีเนื้อที่ 8 ไร่ ตั้งอยู่ท้องที่บ้านจ้อง ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย

เทือกเขาดอยนางนอน สถานที่ตั้ง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน มีลักษณะเป็นภูเขาขนาดใหญ่หลายลูกเรียงตัวสลับซับซ้อน มองดูคล้ายผู้หญิงนอนเหยียดยาว มีส่วนหัว จมูก หน้าอก และลำตัวชัดเจน ขนานไปกับถนนในเขตอำเภอแม่จัน และแม่ฟ้าหลวง ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระธาตุดอยตุง มีจุดสูงสุดคือ ผาช้างมูบ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลราวๆ 830 เมตร

ตำนาน ดอยนางนอน  มีอยู่หลายเรื่องเล่าด้วยกันจากคนโบราณ แต่เกือบทุกเรื่องมักจบลงด้วยความเศร้า

ตำนานที่ 1

เจ้าหญิงแห่งเมืองเชียงรุ้ง สิบสองปันนา หนีตามชายเลี้ยงม้าในวังไปจนถึงที่ราบใกล้แม่น้ำโขง ขณะนั้นเจ้าหญิงก็ทรงครรภ์ได้หลายเดือนแล้ว เดินทางต่อไม่ไหว จึงขอรออยู่ที่นี่ ส่วนสามีก็อาสาออกไปหาอาหารมาให้ แต่หายไปไม่กลับมาอีกเลย ทราบข่าวอีกทีว่าสามีถูกฆ่าโดยทหารของพระราชบิดา นางเสียใจมาก เลยเอาปิ่นปักผม แทงพระเศียรตนเอง จนเลือดไหลออกมาเป็นสาย กลายเป็นแม่น้ำแม่สาย ร่างที่นอนเหยียดยาวจากทิศใต้จรดทิศเหนือ ก็กลายเป็น ดอยนางนอน และตรงท้องที่นูนขึ้นมาก็เป็นดอยตุง อย่างที่เราเห็นทุกวันนี้

ตำนานที่ 2

พญานาคตัวหนึ่งออกตามหาลูกสาว ที่ถูกพญาครุฑลักพาตัวไป จนพบลูกสาวนอนอยู่ตรงบริเวณที่เป็นต้นน้ำ ปัจจุบันเรียกว่า “ขุนน้ำนางนอน” พญานาคขอลูกสาวคืน แต่พญาครุฑขอแลกกับทองคำ ทุกวันนี้แหล่งน้ำที่พญานาคนำทองคำขึ้นจากบาดาลนั้นเรียกว่า “หนองตานาค” บริเวณที่พญานาคส่งทองคำให้พญาครุฑเรียกว่า “หนองละกา” ส่วนทองคำถูกนำไปเก็บไว้ที่ “ถ้ำทรายทอง” และพญานาคยังได้สร้างเจดีย์ เป็นอนุสรณ์ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “พระธาตุจอมนาค” จนถึงปัจจุบัน

ตำนานที่ 3

เจ้าหญิงเมืองพุกามกรีธาทัพออกตามหาเจ้าชายที่นางรัก นางออกรบ และขยายอาณาเขตมาเรื่อยๆ จนมาถึง “เวียงสี่ทวง” จึงพบกับเจ้าชาย แต่ปรากฏว่าเจ้าชายหนีหายไปกับสาวสวยชาวเวียงนี้อีกครั้ง นางรู้สึกเศร้าสลดจนตรอมใจตาย ก่อนตายได้ตั้งจิตอธิษฐานให้ร่างของนางกลายเป็นเทือกเขา ที่ชาวบ้านพากันเรียกว่า “ดอยนางนอน” น้ำตาที่ไหลรินกลายเป็น “ขุนน้ำนางนอน” ส่วนไพร่พลของนางก็กลายมาเป็นชนเผ่าหลากชาติพันธุ์บนภูเขาแห่งนี้

สถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ ภายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน

– ถ้ำหลวง เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ยาวถึง 7 กิโลเมตร เชื่อว่าเป็นถ้ำที่มีความยาวมากที่สุดในประเทศไทย ปากถ้ำเป็นห้องโถงกว้างมาก ภายในถ้ำจะพบกับความงามของ เกล็ดหินสะท้อนแสง หินงอก หินย้อย และมีธารน้ำไหลตลอดทั้งปี

Credit : MThai News

ช่วงเดือนกรกฎาคม ถึง พฤศจิกายน ของทุกปี ถ้ำหลวงจะปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมพื้นที่ถ้ำ เนื่องจากมักมีน้ำหลากเข้าไปข้างใน อาจทำให้เกิดอันตรายได้ สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ เดือนพฤศจิกายน ถึง เมษายน

– ถ้ำพระ เป็นถ้ำขนาดเล็ก ชาวบ้านได้สร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ไว้ ภายในถ้ำ มีหินงอก-หินย้อย ที่งดงามแปลกตา อากาศบริเวณปากถ้ำเย็นสบายตลอดทั้งปี

– ถ้ำมัลติกาเทวี หรือ ถ้ำพญานาค เป็นถ้ำขนาดเล็ก อยู่ใต้หน้าผาบนภูเขา ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ปฏิบัติธรรมของพระอริยบุคคล และได้มรณภาพในถ้ำนี้ ที่ปากถ้ำมีหินงอกขนาดใหญ่คล้ายงูแผ่แม่เบี้ย สูงประมาณ 2.5 เมตร

– ถ้ำเลียงผา เกิดจากการยุบตัวของแผ่นดิน ทำให้มีลักษณะเป็นเวิ้งมีหุบเหวล้อมรอบ บริเวณถ้ำยังพบฟอสซิลหอยฝาเดียวและหอยสองฝาโบราณอายุหลายร้อยล้านปี

– ขุนน้ำนางนอน ห่างจากถ้ำหลวง 2 กม. มีธรรมชาติที่สวยงามร่มรื่น  เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยว จุดเด่นคือบึงน้ำจืดขนาดเล็กที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี และถ้ำทรายทอง ซึ่งตั้งอยู่บนหน้าผาเหนือบึงน้ำ เป็นถ้ำลอดที่ยังไม่ได้มีการสำรวจ จึงยังคงความเป็นธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์

สิ่งอำนวยความสะดวก

ทางอุทยานฯ ไม่มีบ้านพักและค่ายพักแรม หากนักท่องเที่ยวต้องการค้างคืน แนะนำให้เตรียมเต็นท์มาเอง โดยมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ แยกชาย-หญิง ไว้บริการ

ค่าเข้าชมสถานที่ ฟรีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

เวลา เปิด – ปิด : เปิดทำการทุกวันเวลา 08.00 – 17.00 น.

การเดินทาง :

  • รถยนต์ ขับจากถนนสายหลัก เชียงราย-แม่สาย ตามถนนพหลโยธินหมายเลข 1 ไปประมาณ 3 กิโลเมตร ถนนลาดยางตลอดสายจนถึงวนอุทยานฯ
  • นั่งรถบัส (สายแม่สาย-เชียงราย) จากสถานีขนส่งผู้โดยสารอ.แม่สาย โดยรถจะวิ่งบนถนนหมายเลข1 (แม่สาย-เชียงราย) และจะจอดให้ลงตรงรร้านอริยะซาวด์ จากนั้นให้นั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้างที่ปากซอยบ้านจ้อง ซอย7 เลาะตามถนนเข้าหมู่บ้านจ้องจนถึงวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : chiangraifocusonep.go.th, rakbankerdcots.go  เรียบเรียงโดย travel.mthai

*****************************************************************

บทความที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้อง

การเตรียมตัวก่อนเที่ยวถ้ำ ข้อควรปฏิบัติ และวิธีเอาตัวรอด