จังหวัดเพชรบุรี

Home / ข้อมูล 77 จังหวัด / จังหวัดเพชรบุรี

จังหวัดเพชรบุรีเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางตอนล่าง (บ้างก็จัดอยู่ในภาคตะวันตก )ด้านของการพยากรณ์อากาศจัดอยู่ภาคใต้ตอนบน มีภูมิประเทศทั้งเป็นที่สูงติดเทือกเขาและที่ราบชายฝั่งทะเล มักเรียกชื่อสั้น ๆ ว่า เมืองเพชร ในอดีตการเขียนชื่อเมืองเพชรนั้นจะเขียนเป็น “เมืองเพ็ชร” การเขียนแบบนี้ไม่ได้รับความนิยมแล้ว เพชรบุรีในสมัยโบราณเรียกกันว่า พริบพรี

จังหวัดเพชรบุรี

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี

คำขวัญประจำจังหวัด: เขาวังคู่บ้าน ขนมหวานเมืองพระ เลิศล้ำศิลปะ แดนธรรมะ ทะเลงาม

ที่ตั้ง เพชรบุรีอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ123 กิโลเมตร ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของภาคกลาง มีพื้นที่ 6,255.138 ตารางกิโลเมตร หรือ3,890,711 ไร่ พื้นที่ของจังหวัดเพชรบุรีมีแม่น้ำสายสำคัญไหลผ่าน3 สาย ได้แก่ แม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำบางกลอย และแม่น้ำบางตะบูน

สถานที่ท่องเที่ยวฮิตในเพชรบุรี

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี(เขาวัง)

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง)

      เป็นโบราณสถานเก่าแก่คู่เมืองเพชรบุรี ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง92 เมตร เดิมเรียกว่า เขาสมนหรือเขาคีรี พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่4 ทรงพอพระราชหฤทัย ที่จะสร้างพระราชวังสำหรับเสด็จแปรพระราชฐานขึ้นบนยอดเขาแห่งนี้ จึงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาเพชรนิสัยศรีสวัสดิ์ ปลัดเมือง เพชรบุรีเป็นนายงานก่อสร้างจนสำเร็จเรียบร้อยเมื่อปี พ.ศ.2403 ทรงพระราชทานนามว่า พระนครคีรี แต่ชาวเมืองเพชรเรียกกันติดปากว่าเขาวัง สืบมาจนบัดนี้ พระนครคีรีมีพระที่นั่ง พระตำหนัก วัด และกลุ่มอาคารต่าง ๆ มากมาย ส่วนใหญ่เป็นสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบนิโอคลาสสิคผสมสถาปัตยกรรมจีน ตั้งอยู่บนยอดเขาใหญ่ ๆ3 ยอดด้วยกัน ดังนี้

ยอดเขาด้านทิศตะวันออก
บริเวณไหล่เขาเป็นที่ตั้งของวัดมหาสมณาราม ภายในพระอุโบสถ มีภาพเขียนฝีมือขรัวอินโข่ง บนผนัง ทั้งสี่ด้าน เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา ส่วนบนยอดเขาเป็นที่ตั้งของวัดพระแก้ว เป็นวัดประจำ พระราชวังพระนครคีรี เช่นเดียวกับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งเป็นวัดประจำพระบรมมหาราชวัง ในกรุงเทพฯ ภายในวัดพระแก้วประกอบด้วยพระอุโบสถขนาดเล็ก ประดับด้วยหินอ่อน ด้านหลังเป็น พระพุทธเสลเจดีย์ ด้านหน้าพระอุโบสถเป็นหอระฆังรูปสี่เหลี่ยมย่อมุมขนาดเล็ก

เขายอดกลาง
       เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุจอมเพชร มีความสูง40 เมตร บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน จากจุดนี้ สามารถมองเห็นพระที่นั่งต่าง ๆ บนยอดเขาอีก2 ยอด รวมทั้งทิวทัศน์ของตัวเมืองเพชรบุรีได้อีกด้วย

ยอดเขาด้านทิศตะวันตก
       เป็นที่ตั้งของพระราชวังที่ประทับอันได้แก่ พระที่นั่งเพชรภูมิไพโรจน์ พระที่นั่งปราโมทย์มไหสวรรย์ พระที่นั่งเวชยันต์วิเชียรปราสาท พระที่นั่งราชธรรมสภา หอชัชชวาลเวียงชัย หอพิมานเพชรมเหศวร ตำหนักสันถาคารสถาน หอจตุเวทปริตพจน์
      อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี
 เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่08.30-16.30 น. ค่าเข้าชม (รวมค่าเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรี) ชาวไทย20 บาท ชาวต่างประเทศ40 บาท นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นชมเขาวังได้ โดยการเดินขึ้น หรือโดยสารรถรางไฟฟ้า (ตั๋วไป-กลับ รวมค่าเข้าชมทั้งหมด) เสียค่าบริการ ชาวไทย20 บาทชาวต่างชาติ20 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ (032)425600

 อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

050510_travel-KaengKrachan_01

       เป็นอุทยานที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดของประเทศไทย มีพื้นที่ถึง2,915 ตารางกิโลเมตร หรือ1.8 ล้านไร่ ในเขตอำเภอแก่งกระจาน อำเภอหนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี และอำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยังคงสภาพเป็นป่าดงดิบตามธรรมชาติที่สมบูรณ์ และมีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมากแห่งหนึ่ง ได้รับการประกาศให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่12 มิถุนายน2524 โดยกำหนดพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำและป่าเหนือเขื่อนแก่งกระจานเป็นเขตอุทยานฯ เป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสาย พื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานฯ เป็นภูเขาสลับซับซ้อนอยู่ในเทือกเขาตะนาวศรี สภาพภูมิประเทศเป็นป่าดิบชื้น ยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานฯ คือยอดเขางะงันนิกยวงตอง อยู่ในเขตรอยต่อประเทศพม่าและไทย มีความสูง1,513 เมตร รองลงมาคือยอดเขาพะเนินทุ่ง ซึ่งมีความสูง1,207 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จากสันเขื่อนแก่งกระจาน มีถนนเลียบออกมาทางซ้ายมือเป็นระยะทาง3 กิโลเมตร ถึงที่ทำการ

 ถ้ำเขาย้อย

ถ้ำเขาย้อย

      ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเขาย้อยหลังสถานีรถไฟ เขาย้อยเป็นภูเขาโดดเด่น ริมทางหลวงหมายเลข4 อยู่ก่อนถึงตัวเมืองเพชรบุรีประมาณ22 กม. ในถ้ำนี้มี พระพุทธรูปใหญ่น้อยหลายปางประดิษฐานอยู่ คล้ายกับถ้ำเขาหลวง หรือถ้ำเขาบันไดอิฐ ตามประวัติเล่าว่าพระพุทธรูปเหล่านี้มีมานานแล้วและต่อมา พระครูอ่อนวัดท้ายตลาดมาบูรณะใหม่ และมี เกร็ดประวัติศาสตร์เล่ากันว่าสมัยเมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังทรงผนวชอยู่นั้น พระองค์ได้เสด็จธุดงค์วัตรมาปักกลดวิปัสสนาที่หน้าเขาย้อย แล้วทรงย้ายขึ้นมาประทับ นั่งกรรมฐานอยู่ในถ้ำเขาย้อยหลายคืน

  วัดกุฏิ

วัดกุฏิ

      ตั้งอยู่ที่ตำบลบางเค็ม ตามทางหลวงหมายเลข4 ก่อนถึงทางเข้าที่ว่าการอำเภอเขาย้อย6 กิโลเมตร เป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดเพชรบุรี พระอุโบสถสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง รอบพระอุโบสถด้านนอกสลักเป็นเรื่องทศชาติ มหาชาติ และไซอิ๋ว หน้าบันโบสถ์ทิศตะวันออก แกะสลักเป็นเหรียญตรามงกุฎ สมัยรัชกาลที่4 ส่วนด้านหลังทางทิศตะวันตก แกะสลักเป็นรูปเหรียญกษาปณ์ ราคา1 บาท พร้อมตราแผ่นดินรัชกาลที่5 บานประตูเป็นลายเถาทะลุโปร่ง แกะสลักลายลึก ฝีมือประณีตด้วยฝีมือช่างชั้นครู

 หาดเจ้าสำราญ

หาดเจ้าสำราญ

      อยู่ห่างจากตลาดเมืองเพชรบุรีประมาณ15 กม. ตามทางหลวงหมายเลข3177 เป็นชายหาดที่เคยเป็น สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากตั้งแต่สมัยโบราณ ตามประวัติเล่ากันว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เคยเสด็จ มาที่นี่พร้อมด้วยสมเด็จพระเอกาทศรถ ทรงพอพระราชหฤทัยในความงามของหาดแห่งนี้มาก ทรงประทับ แรมอยู่หลายวัน จนกระทั่งชาวบ้านเรียกหาดนี้ว่า หาดเจ้าสำราญ มาจนปัจจุบัน หาดเจ้าสำราญเจริญ ถึงขีดสุดในสมัยรัชกาลที่6 หาดเจ้าสำราญมีชื่อเสียงกว่าชายทะเลแห่งใด ๆ ในเมืองไทยสมัยนั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดฯ ให้สร้างพระตำหนักที่ประทับขึ้น ณ ริมหาดแห่งนี้เรียกว่า พระตำหนักหาดเจ้าสำราญ สำเร็จในปีพ.ศ.2461 ต่อมารื้อไปสร้างใหม่ที่มฤคทายวัน

หาดปึกเตียน

หาดปึกเตียน

      อยู่ในท้องที่ตำบลปึกเตียน ห่างจากหาดเจ้าสำราญไปทางใต้ประมาณ7 กิโลเมตร หรือสามารถเดินทางไปทางถนนเพชรเกษมถึงอำเภอท่ายางแล้วเลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกคลองชลประท
านสาย 2 ประมาณ15 กิโลเมตร บริเวณหาดปึกเตียน มีหินเรียงกันคลื่นซัดชายหาดเป็นแนวยาว ในทะเลและบนฝั่งมีรูปปั้นพระอภัยมณี นางผีเสื้อสมุทร สุดสาครและม้านิลมังกร ศาลเจ้าแม่กวนอิมและเกาะเต่า นอกจากนั้นยังมีที่พัก ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกอยู่เรียงราย

 วนอุทยานเขานางพันธุรัต

วนอุทยานเขานางพันธุรัต

      พื้นที่วนอุทยานเป็นเทือกเขาหินปูนที่มีความสวยงามเอกลักษณ์ โดดเด่นมองเห็นได้จากริมถนนใหญ่ ทอดยาวตามแนวเหนือ-ใต้ มองดูคล้ายนางยักษ์ (นางพันธุรัต) นอนอยู่ มีโกศอยู่ทางทิศใต้ และมีปฎิมากรรมธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับตำนานเรื่องสังข์ทอง ทางวนอุทยานได้จัดทำเส้นทางสำหรับเดินศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง3.5 กิโลเมตร ผ่านจุดที่น่าสนใจอาทิ ยอดเมรุ กระจกนางพันธุรัต ลานเกือกแก้ว บ่อชุบตัวพระสังข์ รวมทั้งมีจุดดูนก จุดชมวิว ต้นไทรยักษ์บริเวณหุบวังเรือ และหินย้อยรูปพานยักษ์ในถ้ำมะยม กำแพงเมืองจีน เป็นต้น บริเวณมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ลานกางเต็นท์
นอกจากนี้ยังในเขตวนอุทยานยังมีแหล่งประวัติศาสตร์คือ โบราณสถานทุ่งเศรษฐี อยู่บริเวณเชิงเขาจอมปราสาทด้านทิศตะวันออก เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ก่ออิฐสอดินฉาบปูนเหลือเพียงส่วนฐานและค้นพบโบราณวัตถุ จำพวกปูนปั้น และโบราณวัตถุอื่น ๆ อีกมาก จากหลักฐานที่พบสันนิษฐานได้ว่าโบราณสถานทุ่งเศรษฐีสร้างขึ้นในสมัยทวารวดี
(พุทธศตวรรษที่12-16)

ศูนย์วัฒนธรรมไทยทรงดำ

ศูนย์วัฒนธรรมไทยทรงดำ

      เป็นที่เก็บรวบรวมภาพชีวิตความเป็นอยู่ในอดีตของชาวลาวโซ่งให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา ภายในศูนย์ฯ มีการจัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน บ้านจำลอง อักษรดั้งเดิม สาธิตการทอผ้า และขายสินค้าของที่ระลึก เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ เปิดให้เข้าชมทุกวัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่เวลา08.30-17.00 น. และในช่วงเดือนเมษายนของทุกปีจะมีงานประเพณีไทยทรงดำซึ่งถือเป็น งานรื่นเริงสังสรรค์ของชาวลาวโซ่ง โดยจะหมุนเวียนกันจัดไปตามหมู่บ้านต่างๆ นอกจากนั้นหากนักท่องเที่ยวมาเป็นหมู่คณะและต้องการจะชมการแสดงรำพื้นบ้าน เช่น การอิ้นกอนฟ้อนแคน การเล่นลูกช่วงเพื่อการหาคู่ของหนุ่มสาว สามารถติดต่อล่วงหน้าโดยมีค่าใช้จ่าย และภายในบริเวณศูนย์วัฒนธรรมฯ มีบริการบ้านพักลักษณะบ้านไทยทรงดำ สอบถามเพิ่มเติมที่ศูนย์วัฒนธรรมไทยทรงดำ เทศบาลเขาย้อย โทร.0 3256 1200

 น้ำพุร้อนหนองหญ้าปล้อง

น้ำพุร้อนหนองหญ้าปล้อง

      ตั้งอยู่ที่บ้านน้ำพุร้อน ตำบลยางน้ำกลัดเหนือ อำเภอหนองหญ้าปล้อง หากเดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้ถนนเพชรเกษม เลยอำเภอเขาย้อยมาประมาณ12 กิโลเมตร บริเวณกม.148-149 มีทางแยกขวาไปน้ำพุร้อนหนองหญ้าปล้องอีกราว34 กิโลเมตร ถนนลาดยางตลอดสาย ระหว่างทางมีทิวทัศน์เป็นทุ่งนา และทิวเขาสลับซับซ้อนสวยงาม และหมู่บ้านกะเหรี่ยงน้ำพุร้อนหนองหญ้าปล้องเป็นบ่อน้ำร้อนกลางป่าร่มรื่น พื้นที่บริเวณได้รับพัฒนาดูแลโดยชุมชน มีบ่อน้ำร้อน ซึ่งต่อท่อมาจากแหล่งกำเนิดซึ่งอยู่ห่างออกไป400 เมตรซึ่งสามารถเดินเท้าไปชมได้สะดวก น้ำในบ่อมีอุณหภูมิประมาณ49 องศาเซลเซียส สิ่งอำนวยความสะดวก มีโรงนวดเพื่อสุขภาพ ห้องอาบน้ำแร่แบ่งชายหญิง ร้านอาหาร และสามารถกางเต็นท์พักแรมในบริเวณได้ นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงได้แก่ น้ำตกแม่กระดังลา ซึ่งการเดินทางเข้าน้ำตกต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อไปอีก8 กิโลเมตร และเดินเท้าอีก1 กิโลเมตร

การเดินทาง
       การเดินทางมาจังหวัดเพชรบุรี สามารถเดินทางได้หลายวิธี ได้แก่การเดินทางโดยประจำทาง รถทัวร์ปรับอากาศ รถตู้จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ รถไฟจากหัวลำโพง รถยนต์ส่วนตัว หรือแม้กระทั่งรถมอเตอร์ไซค์่ ส่วนใหญ่แล้วนักเดินทางจะใช้เส้นทางหมายเลข
35 (พระราม2) จากกรุงเทพมหานคร ผ่านสมุทรสาครและสมุทรสงคราม ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณชั่วโมงครึ่งและ ใช้เวลา 2 ชั่งโมงถึงชะอำ ในอดีตการเดินทางไปเพชรบุรีจะใช้ทางหมายเลข4 เพชรเกษมซึ่งเป็นเส้นทางเดียวที่นิยมใช้เดินทางไปเพชรบุรี

รถยนต์
       ใช้ เส้นทางพระราม2 (ธนบุรี-ปากท่อ ทางหลวงหมายเลข35) ผ่านจังหวัดสมุทรสงคราม ถึงบางเค็มแล้วเลียวซ้าย เข้า้เส้นทางถนนเพชรเกษมจนถึงจังหวัดเพชรบุรี หรือใช้เส้นทางเพชรเกษมผ่านนครปฐมและราชบุรีก็ได้แต่จะใช้เวลานานกว่า

รถทัวร์
       รถทัวร์ปรับอากาศสายกรุงเทพ-เพชรบุรีชั้นหนึ่ง จากสถานีขนส่งสายใต้ (ตลิ่งชัน) ราคาประมาณ120 บาท (อาจปรับขึ้น-ลงตามสภาวะราคาน้ำมัน) เดินทางสู่ทางด่วนพระราม2 ผ่านจังหวดสมุทรสาครและสมุทรสงคราม หากมาจากกรุงเทพมหานครตรงไปเพชรบุรี ไม่แนะนำให้ใช้เส้นทางสายเพชรเกษมสายเก่าที่เดินทางผ่านนครปฐมเพราะจะทำให้ ใช้เวลาในการเดินทางมากขึ้น

รถไฟ
       รถไฟ ออกจากสถานีหัวลำโพงเวลา12.20 น. (รถเร็ว)  เวลา14.15 น. และ14.35 น. (ด่วนพิเศษ)  เวลา  10.50 น.17.35 น. และ18.20 น. (รถเร็ว) เวลา19.15 น. (รถด่วน)10.30 น.  และ10.50 น. รถด่วนดีเชลล์ราง ทุกขบวนมีสามชั้น คือ ชั้น1 2 และ3  สามารถสำรองที่นั่งเวลาได้ตั้งแต่เวลา2.30 น. ขบวนรถด่วนพิเศษ  (เฉพาะชั้น 1 และ2) รถด่วนดีเชลล์ราง เวลา10.30 น. และ10.50 น. (เฉพาะชั้น2) ใช้เวลาเดินถึงจังหวัดเพชรบุรีประมาณ3 ชั่วโมง ผู้โดยสารสามารถใช้บริการรถไฟโดยไม่ต้องเสียค่าโดยสารหากใช้บริการรถไฟชั้น3  จากสถานีธนบุรี (บางกอกน้อย) เวลา7.45 น., 13.30 น.  และ14.00 น. สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซท์www.railway.co.th เวลาของการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ 

 เทศกาลและงานประเพณี

 งานพระนครคีรีและของดีเมืองเพชร

งานพระนครคีรีและของดีเมืองเพชร
เพื่อเป็นการรำลึกถึงความสำคัญของประวัติศาสตร์เมืองเพชรบุรี โดย เฉพาะพระนครคีรีและมรดกศิลปวัฒนธรรมอื่น ๆ ที่มีสืบมาจนถึง ปัจจุบัน ตลอดจนเผยแพร่สิ่งดีงามต่าง ๆ ของจังหวัดให้เป็นที่รู้จักมากยิ่ง ขึ้น ทางจังหวัดจึงจัดงานพระนครคีรี-เมืองเพชร ขึ้นเป็นประจำ ในราว เดือนกุมภาพันธ์ ช่วงที่ตรงกับเทศกาลตรุษจีน

       กิจกรรมในงานได้แก่ ขบวนแห่พยุหยาตราบุรพกษัตริย์ที่เคยครองเมือง เพชรบุรีในสมัยทวารวดีและศรีวิชัย นิทรรศการประวัติศาสตร์และ โบราณคดีเมืองเพชรบุรี การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน สาธิตการปรุง อาหารคาวหวาน อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองเพชรบุรี การแสดงแสงเสียง ที่บริเวณพระนครคีรี การประกวดพลุ ตะไล ไฟพะเนียง ดอกไม้ไฟ ประกวดวัวงาม และ ประกวดผลไม้ การแข่งขันฟันอ้อย การเล่นวัวลาน การเห่เรือนก และมหรสพนานาชนิด

งานปีใหม่ชายไทยทรงดำ

งานปีใหม่ชายไทยทรงดำ
ถือเป็นวันรวมชาวไทยทรงดำจากอำเภอต่างๆ ใน จ.เพชรบุรี และจังหวัดใกล้เคียง เช่น ราชบุรี สุพรรณบุรี เป็นต้น ทุกคนจะแต่งกายด้วยชุดสีดำ ที่ทอขึ้นเองในครอบครัว เป็นวัฒนธรรมการแต่งกายที่น่าสนใจ

      กำหนดจัดงานช่วงเดือนเมษายน และวันสงกรานต์ของทุกปี จัดขึ้นที่ วัดหนองปรง อ.เขาย้อย

กิจกรรมในงาน มีการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และมีการละเล่นต่างๆ ของชาวไทยทรงดำ ที่หาชมได้ยาก เช่น เล่นลูกช่วง เล่นแคน เล่นเพลงโต้ตอบกัน เป็นต้น นอกจากนี้จะได้เห็นการแต่งกายด้วยผ้าทอสีดำ ทั้งชายและหญิง มีความสวยงามแก่ผู้พบเห็น

การวิ่งวัวลานคน

การวิ่งวัวลานคน      

      เป็นการแข่งขันที่ดัดแปลงมาจากกีฬาวัวลาน โดยใช้คนวิ่งแทนวัว มีกติกา เหมือนกันทุกประการ ไม่แต่เฉพาะชาวบ้านในท้องถิ่นเท่านั้น มีผู้คนท้อง ถิ่นต่างๆ เดินทางมาร่วมแข่งขันด้วยจึงเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน และมี เพียงแห่งเดียวที่จังหวัดเพชรบุรี แต่มีกำหนดการเล่นที่ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่ กับว่าท้องที่ใดจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ซึ่งบางครั้งก็จัดขึ้นในช่วง สงกรานต์

โรงแรมที่พักที่น่าสนใจในเพชรบุรี(ชะอำ)

โรงแรมคาชัวรินา รีสอร์ท (Casuarina Resort)

โรงแรมเฌอ รีสอร์ท (CHER RESORT)

โรงแรมโกลเด้น บีช ชะอำ (Golden Beach Cha-Am Hotel )

โรงแรมลองบีชชะอำ (Long Beach Cha-Am Hotel)

โรงแรมเดอะ โฮเทล ชะอำ (The Hotel Cha-Am)

โรงแรมธารา มันตรา ชะอำ (Tara Mantra Cha Am)

โรงแรมวีรันดา รีสอร์ท แอนด์ สปา (Veranda Resort & Spa)

โรงแรม สปริงฟิลด์ แอท ซี รีสอร์ท แอนด์ สปา (Springfield @ Sea Resort & Spa)