เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ สำหรับผู้ที่จะไปใช้ชีวิตที่เยอรมนี (ระยะยาว)

ทิปส์ท่องเที่ยววันนี้ อาจจะไม่ใช่การท่องเที่ยวแบบไป-กลับ แต่ไปอาศัยอยู่ในระยะยาวค่ะ เก็บข้อมูลการเตรียมตัว เก็บของ เก็บกระเป๋า ต่างๆ สำหรับใครที่จะไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศมาฝาก ในกรณีนี้เก็บเรื่องน่าสนใจของการไปใช้ชีวิตที่ประเทศเยอรมนี (เยอรมัน) มาจากคุณแพท patingo เขียนไว้ด้วยภาษาที่อ่านง่ายๆ Travel.mthai.com เลยขออนุญาตนำมาฝากเพื่อนๆ ค่ะ

สำหรับผู้ที่จะไปใช้ชีวิตที่เยอรมนี (ระยะยาว)

ของใช้จำเป็น

– มีดโกน แหนบ กรรไกรตัดเล็บ ที่ตะไบ หมวกคลุมอาบน้ำ หวี พวกนี้แพงกว่าบ้านเรา เพราะร้านเสริมสวยที่นี่แพงค่ะ ต้องทำเอง ส่วนยาทาเล็บ สำลี ยาล้างเล็บที่นี่ถูกอยู่คุณภาพดีด้วย อันนี้ไม่ต้องพกมานะคะ

– เครื่องสำอางทุกชนิด ลิปมัน น้ำหอม ครีมบำรุงผิวหน้าผิวกายต่างๆ โทนเนอร์ต่างๆ เซรั่มต่างๆ พวกนี้ที่นี่ถูกมาก ใช้ดีด้วย ถูกกว่าบ้านเราอีกค่ะ หากซื้อที่บ้านเราจะแพงกว่า 2-3 เท่าตัว และลดราคาบ่อยมากๆ (ซื้อประจำที่ Rossmann) ค่ะ

– โฟมล้างหน้ากับโลชั่นอาบน้ำ ที่นี่จะเป็นแบบลื่นๆ ล้างออกยากทั้งนั้นเลย หากชอบแบบล้างง่ายๆ เกลี้ยงๆ ก็ต้องนำมาเองจากไทยจะดีกว่า

– เซรั่มบำรุงผมแห้งเสีย เพราะอากาศที่นี่แห้งๆ ผมจะกระด้างมากค่ะ พกมาก็ดี

– แปรงสีฟัน ของที่นี่ค่อนขนข้างแข็ง ขนาดแช่น้ำอุ่นแล้วก็ยังแข็ง ดังนั้นหากชอบนุ่มๆ ซื้อมาจากไทยเราก็น่าจะดีกว่านะคะ

– แป้งเย็น ที่นี่ไม่มีขายค่ะขอบอก หามานานละ คือหน้าร้อนที่นี่จะร้อนมากอ่ะ ร้อนแบบแห้งๆ คิดถึงแป้งเย็นตรางูที่บ้านเลยอ่ะ คราวหน้ากลับไทยจะเอามาด้วย ใช้เฉพาะหน้าร้อนได้นอนสบาย ส่วนแป้งเด็กก็มีขายแต่กระป๋องเล็กๆ ที่บ้านเราขายอยู่ 12 บาท แต่ที่นี่จะกระป๋องละ 30 บาทค่ะ

แฟชั่น การแต่งตัว

– ต่างหู สร้อยคอ กำไล แหวน พวกเครื่องประดับราคาค่อนข้างแพง แต่ก็เก๋และมีสไตล์คนละแบบ ถ้าช่วงลดราคาก็น่าสอย (แต่หากไปซื้อต่างหูมาจากสำเพ็ง โหลละ 60 บาท ตกแล้วก็คู่ละ 5 บาท ซึ่งที่นี่ไม่ได้ราคานี้นะ ไปเดินดูมาที่นี่ของก็นำเข้าจากจีน เวียดนาม ลาว และไทย เกรดเหมือนสำเพ็งเลยแต่คู่ละร้อยกว่า)

– พวกที่คาดผม กิ๊บเล็กๆ ตัวหนีบต่างๆ นาๆ ยางมัดผม กระเป๋าสะพายเก๋ๆ หมวกหรือผ้าพันคอสีสวยๆ ที่นี่แพงกว่าบ้านเราค่ะ และแบบก็ไม่ทันสมัยเท่าไหร่ เพื่อนๆ ต่างชาติที่นี่เห็นยังชมว่าของไทยเราสวยๆ ทั้งนั้นเลย

– ชุดเดรส ชุดสวย ชุดราตรี ใส่ไปงานเลี้ยงต่างๆ เพราะมานี่จะถูกเชิญบ่อยๆ จากเพื่อนสามีมั่ง ญาติๆ มั่ง หาซื้อชุดที่นี่ก็ยากมีแต่ใหญ่ๆ จัมโบ้ และชุดแซ็กสวยๆ รองเท้าหูหนีบเก๋ๆ หรือแบบรัดส้น สำหรับใส่ซัมเมอร์ตามความคิดคุณแพทว่าบ้านเราสีสันสดใสกว่าและสไตล์สวยกว่า

– รองเท้าผ้าใบสวยๆ เก๋ๆ เบาๆ พกมาก็ดีนะคะ บ้านเราถูกกว่า แบบคู่ละ 199 อ่ะ เน้นเบาสบาย (แต่ถ้าอยากได้คุณภาพดีๆ ก็มาซื้อที่นี่ รอช่วงลดราคาจะดีที่สุดคร่า)

-พวกเสื้อผ้า รองเท้าหน้าหนาว รองเท้าบู๊ทสั้น บู๊ทยาว แนะนำให้มาซื้อที่นี่ เพราะมีหลายแบบให้เลือกและถูกด้วย เพราะบางทีเราพกมามันไม่กันหนาวเลยสำหรับที่นี่ (พกเสื้อหนาวมาจากไทย 4 -5 ตัวสรุปต้องเก็บบริจาคไปหมดเลยเพราะใส่กันหนาวไม่ได้เลยค่ะ เจอฝนกะหิมะทีเปียกยันข้างใน หนาวมาก แถมหนักด้วย แต่ถ้าของบ้านเค้า กันน้ำ กันลม กันหิมะ น้ำหนักเบาแถมคุ้มหนาวด้วย)

– ถุงเท้า พกมาได้ค่ะ บ้านเราถูกกว่าคู่ละ 20 บาทอ่ะ 6 คู่ร้อย แต่ถ้าแบบหนาๆ มาซื้อเอาที่นี่นะคะ

– แว่นกันแดด ที่นี่ถูกมากกกกกกกกก

– ชุดชั้นใน หากไซค์เล็กๆ เลยค่อนข้างหายากหน่อย แต่ถ้าใครอวบก็มาเลือกที่นี่ได้เลย

– เสื้อกล้าม สายเดี่ยว เกาะอก เลกกิ้ง บ้านเราถูกกว่า Wink แบบให้เลือกเยอะกว่า (แต่จะคุณภาพดีแค่ไหน อันนี้ต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองนะคะ)

– กระเป๋าสตางค์แฟชั่น ที่เป็นหนังเทียมสีสันสวยๆ มันๆ แล้วแต่มีหลายแบบหลายสี ที่บ้านเราวางขายใบละ 100-300 บาท แต่ที่นี่จะ 400-1000 บาทค่ะ เกรดเดียวกันเป๊ะ

-ปากกาสีต่างๆ ดินสอ ยางลบ ลิขวิด ไม้บรรทัด กบเหลา หากชอบใช้ดินสอกด อย่าลืมไส้ดินสอนะ เพราะที่นี่แพงงงงง ปากกาเน้นข้อความสีต่างๆ พวกเครื่องเขียนอ่ะค่ะ ที่นี่เค้าจะแท่งใหญ่ๆ หนักๆไม่ถนัดมือ แถมทุกอย่างแพงกว่าบ้านเราด้วยค่ะ แพงกว่าหลายเท่า ยี่ห้อตราม้ากับสเตทเล่อร์ นี่แหละที่วางขายบ้านเราแต่ที่นี่ราคาแพงกว่า ส่วนสมุดต้องมาซื้อเอาที่นี่ได้ไม่เปลืองน้ำหนักกระเป๋าเนอะ เล่มนึงก็เริ่มจาก 50 บาทอ่ะค่ะ

– เตรียมซื้อหา ดิกชันเนอรี่ ไทย-ด๊อยท์ หรือ อังกฤษ-ด๊อยท์ อะไรก็ว่ากันไปเผื่อเป็นประโยชน์ในการเรียน
สุดท้ายเลย หลายอย่างนี้ก็แล้วแต่เมืองที่เพื่อนๆ ไปอยู่ รวมถึงของใช้บางอย่างก็ลางเนื้อชอบลางยานะคะ แต่สไตล์ที่คุณแพทนำมาบอกเล่านี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ใครมีข้อมูลดีๆ ประสบการณ์การใช้ชีวิตต่างประเทศก็มาแชร์กันได้นะคะ

ยา – ของกิน

– ยาสามัญประจำบ้าน แก้ปวดท้องเมนส์ อีโน ยาลดกรดต่างๆ ยาแก้ปวด แก้อักเสบ ยาหม่องหรือครีมทาคลายกล้ามเนื้อ เช่น เค้าเตอร์เพน เพราะบางทีอากาศเย็นๆ นอนปวดเมื่อย ยาแก้ไอ ทิฟฟี่ เผื่อเป็นหวัด ยาอมชุ่มคอเวลาไอ ยาทาแก้เริม สีผึ้งทาปากแก้ร้อนในซองสีเขียวๆ ไนโตโลน ตัวนี้ใช้ดีค่ะทาข้ามคืนทุเลาเลย … รู้ว่าเรามีปัญหาอะไรก็พกยานั้นมา เพราะการหาหมอที่นี่ยุ่งยาก ต้องทำนัด ต้องรอ และหมอที่นี่ไม่เน้นจ่ายยามากมายนัก อย่างเป็นหวัดนิดๆ หน่อยๆ เค้าก็ให้พักผ่อนเอา เอาพกติดมามั่งก็ดีค่ะยา เอาที่มีฉลากยากำกับเวลาเข้าเยอรมันหาก ตม. ตรวจได้ไม่มีปัญหา

– อาหารแห้งที่น้ำหนักเบาๆ และและราคาถูกๆ ส่วนตัวเอามาพวก วุ้นเส้น เส้นหมี่ มาม่า ขนมจีนแห้ง แต่ถ้ามาซื้อเอาที่นี่ก็ได้ราคาก็แพงกว่า 1 เท่าตัว เราหิ้วมาเองเยอะเลย เพราะต้องกินหลายคนและใช้เยอะ เพราะถ้ามาซื้อเยอะๆ ที่นี่ก็ยิ่งแพงเข้าไปใหญ่

– พริกแห้ง ข้าวคั่ว ถั่วลิสงคั่วบด พริกป่น ผงฟู กระเทียมเจียว สาหร่ายแผ่น วาซาบิ งาขาว งาดำ เผื่อทำซูชิ บ้านเราห่อละ 10 กว่าบาท พวกนี้น้ำหนักเบาๆ แถมราคาก็ถูกที่บ้านเรา เอาติดมาก็ดีคะเพราะที่นี่แพงมาก หากคิดว่าตัวเองต้องได้ใช้นะ

– ดอกเก็กฮวย ลำไย กระเจี๊ยบแห้ง ไว้ต้มกินหน้าหนาว ชื่นใจอบอุ่นร่างกาย ที่นี่ไม่มีขาย เราเอาชาตรามือทั้งสีเขียวสีแดงมาด้วย มาทำชาดำเย็น ชานมเย็น กะชาเขียวกิน ชื่นใจมากๆ บ้านเราห่อละ 40-50 บาท แต่ที่นี่ 120 บาท

– กุ้งแห้ง ปลาหมึกแห้ง ปลาเค็ม อันนี้ห้ามขาดเลย ที่นี่แพงสุดๆ เราเอาแต่กุ้งแห้งมา เอามา 2 กก. ตัวย่อมๆ นี่ก็ 10 เดือนละ ใกล้จะหมดแล้ว กุ้งแห้งใช้เปลือง ทำผัดไทย แกงส้ม แกงเลียง ยำวุ้นเส้นกิน ต้มข้าวต้มทรงเครื่อง หรือยำกินกะข้าวต้ม บ้านเรา กก ละ 300 ขึ้นไปแล้วแต่ไซค์แต่ที่นี่ กก. ละเป็นพันๆ ค่ะ แพงเว่อร์!! อาหารทะเลแห้งเค้าให้เอาเข้าได้ไม่เกิน 20 กก ต่อคนค่ะ แฟนเราเช็คข้อมูลให้ แต่เนื้อสัตว์อื่นๆ ไม่ได้ เช่นหมูยอ กุนเชียง หมูหยอง อันนี้ต้องเสี่ยงเอามาเอง ไม่โดนตรวจก็ผ่านค่ะ โดนเค้าก็เอาทิ้งถังขยะ

– พริกแกง หากชอบทำกับข้าวกินเองก็เอาติดมาก็ได้ค่ะ ซื้อตามท้องตลาดที่แม่ค้าขายข้าวแกงเค้าไปซื้อกันเป็นโลๆ มันจะอร่อยกว่าอย่างซอง ไม่ต้องมานั่งตำเองให้ยุ่งยาก กก. ละ 80 บาท

– ผงปรุงรสต่างๆ เช่น กระเพรา พะโล้ ต้มยำ แกงต่างๆ ผงหมักกระเทียมพริกไทย ของคนอร์อร่อยค่ะ หมูนุ่มด้วย ห่อละ 14 บาทเองที่โลตัส LOL ผลสะเต๊ะ ฝรั่งชอบกินหมูไก่เนื้อสะเต๊ะ วุ้นตราโลโบ เม็ดแมงลักไว้กินกะเฮลบลูบอย

– บ๊วยชนิดต่างๆ ที่นี่แพงมากๆ ๆ ทุกอย่างเลย ซื้อไม่ลง คราวหน้ากลับไทยจะไปเหมามาเป็นกิโลเลย เพราะชอบกินบ๊วยจีนมากๆ ที่นี่นะแต่ละชนิดราคาตกละ กก. 4-5 ร้อยบาทเลยทีเดียวShockedเราไปซื้อลูกพรุนแห้งมากินเค้าขายอยู่ขีดละ 1 ออย ได้นิดเดียวเองไม่กี่ชิ้น Confused

– หมากฝรั่งลูกอม บ้านเราถูกกว่าเยอะค่ะ คือเราติดหมากฝรั่งอ่ะ เคี้ยวประจำแต่เห็นราคาที่นี่กระปุกเป็นร้อยกว่าบาท รับไม่ได้

-ขนมที่เราชอบ ก็เอาติดมาได้นะคะน้ำหนักเบาๆ รสชาติบ้านเราอร่อยกว่า ป๊อกกี้ โคลล่อน พวกนี้ไม่มีขาย ร้านเอเชียมีแต่กล่องละ 80-100 บาท คราวหน้าจะเอาเลย์ คอนเน่ ทาโร่ มาด้วยเยอะๆ เลย แต่ช็อคโกแลตและพวกเยลลี่และเวเฟอร์คุกกี้ที่นี่ถูกมากค่ะ

-ผลไม้ดองมะม่วงดอง มะยมหวาน กล้วยตากอบน้ำผึ้ง อะไรพวกนี้ถ้าชอบก็เอาติดมาที่นี่ไม่มี

ตัวอย่างการแพ็คของ ของคุณแพท

ข้างในถุงปุ๋ยลายสวยๆ เนี่ยมันจะเป็นถุงกระสอบที่เค้าใส่ทรายหรือข้าวสารน้ำตาลก่อนนะคะ เราไปขอซื้อเค้ามาร้านข้าวสารใบละ 3 บาท เพราะมันจะเหนียวและทนบรรจุได้ที 50 โลเลย เราเอาใส่ของไปก่อนและค่อยเอาถุงลายการ์ตูนพวกนี้มาซ้อนให้ดูสวยหน่อย แพ็คเสร็จก็เอายางรัดให้แน่น เราไปเอายางรถมาตัดเป็นเส้นๆและให้พ่อรัดให้ แน่นมากกกกก ไม่หลุดเลยตลอดการเดินทาง ของก็อยู่ครบ คือลองเอากระเป๋าเดินทางชั่งกิโลดู เฉพาะกระเป๋าก็ปาเข้าไป 9 กิโล เสียดายน้ำหนักแทนที่จะขนของมาได้ 9 กก นี่ใส่พวกของแห้งมาได้เยอะทีเดียว แต่ข้อเสียคือ มันอาจดูไม่สวยงาม อาจดูตลกๆ แต่เราก็ทนเอา แค่วันเดียว มันอายแค่ตอนเช็คอินกับตอนลงเครื่องไปรับกระเป๋าที่สายพานเราก็รอให้คนเค้าเอาไปให้หมดก่อนจนเหลือของเราสุดท้ายเลย ขี้เกียจไปเบียดเสียดคนอื่น

Note * ข้อมูลนี้ที่ได้เผยแพร่ไว้ที่ ladyinter.com เว็บที่รวบรวมสาวชาวไทยที่แต่งงานกับชาวต่างชาติ ที่นี่คุณจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้มีประสบการณ์ตรงจากการไปใช้ชีวิตจริงๆ ที่ต่างประเทศ แต่เรื่องดราม่าก็มีเยอะเหมือนกันค่ะ เลือกอ่านเลือกเสพกันตามจริตพอใจนะคะ