ภูหินร่องกล้า สมรภูมิประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่แสนอัศจรรย์

Home / นักเที่ยวเชี่ยวทาง, ภาคกลาง, เที่ยวภูเขา / ภูหินร่องกล้า สมรภูมิประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่แสนอัศจรรย์

เช้าวันหยุดที่อาจเป็นวันนอนมุดอยู่ใต้ผ้าห่ม แต่บางทีเราก็อาจออกเดินทางเปลี่ยนทิวทัศน์บรรยากาศรอบข้างจากโรงงาน อุตสาหกรรมฯเป็นทิวทัศน์ อันเขียวขจีของภูผา ที่ขนาบสองฟากฝั่งถนน เพื่อมุ่งหน้าสู่…ป่า…เขา…ลำเนาไพร ธรรมชาติ ความสดชื่น และความสงบที่หลายคนใฝ่ฝันหา ไม่แปลกนัก ที่บรรดาผู้รักการท่องเที่ยว จะบุกบ่าไปเยือนไปยล และที่ “ อุทยานภูหินร่องกล้า ” แห่งนี้ก็เช่นกัน…

ภูหินร่องกล้า สมรภูมิประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่แสนอัศจรรย์

ดินแดนแห่งเทือกเขาสลับซับซ้อน นามว่า ภูหินร่องกล้า นี้ ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ มียอดภูเขาที่สำคัญคือ ภูหมันขาว ภูแผงม้า ภูขี้เถ้า ภูลมโล ภูหินร่องกล้า โดยมีภูหมันขาวเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด สูงประมาณ 1,820 เมตรจากระดับน้ำทะเล

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามไปด้วยธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้ง ป่าไม้ น้ำตก ภูผา และลานหินรูปร่างแปลกตา แต่ใครจะเชื่อว่าดินแดนแห่งนี้อดีตเคยเป็นสมรภูมิแห่งการสู้รบในช่วงปีพ.ศ. 2511-2525 ภูหินร่องกล้านอกจากจะเป็นป่าเขารกชัฏแล้ว ยังถือเป็นหนึ่งในพื้นที่สีแดง ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายระหว่างการสู้รบของคน 2 กลุ่ม คือ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย กับ ฝ่ายความมั่นคง

ภูหินร่องกล้า สมรภูมิประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่แสนอัศจรรย์

บทสรุปของการสู้รบไม่ปรากฏผลแพ้-ชนะ เพราะสุดท้ายฝ่ายความมั่นคงประกาศใช้การเมืองนำการทหาร เปิดโอกาสให้เหล่านักศึกษาประชาชนที่หนีเข้าป่า กลับคืนสู่เมืองมาช่วยกันพัฒนาชาติไทย หลังจากนั้นมาดินแดนภูหินร่องกล้าก็ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่ง ชาติ ลำดับที่ 48 ของประเทศไทย และจากดินแดนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายห่งความตาย ก็กลับกลายเป็นเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยผู้กล้า ที่ปัจจุบันกลายเป็นตำนานให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ ควบคู่ไปกับความงามของธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ร่องรอยสมรภูมิประวัติศาสตร์

ใน ภูหินร่องกล้า มีทั้งสถานที่ประวัติศาสตร์อย่างพิพิธภัณฑ์การสู้รบ โรงเรียนการเมืองการทหาร กังหันน้ำ สำนักอำนาจรัฐ โรงพยาบาลรัฐ ลานอเนกประสงค์ สุสาน ที่หลบภัยทางอากาศ หมู่บ้านมวลชน และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นอย่าง ลานหินปุ่ม และผาชูธง เป็นจุดดึงดูดที่สำคัญ

พิพิธภัณฑ์การสู้รบ เป็นที่ตั้งของศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ใกล้กับที่ทำการอุทยานฯ จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการสู้รบในอดีต มีสภาพแผนภูมิข้อมูล อุปกรณ์การแพทย์ อาวุธ เอกสารเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ รวมทั้งนิทรรศการด้านธรรมชาติวิทยาภูหินร่องกล้า นอกจากนี้ ยังมีห้องประชุมสำหรับบรรยายสรุปหรือประชุมสัมมนา

ภูหินร่องกล้า สมรภูมิประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่แสนอัศจรรย์

โรงเรียนการเมืองการทหาร ตั้งอยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 4 เป็นหมู่อาคารไม้ภายใต้ร่มเงาของป่ารกครึ้ม เป็นที่ตั้งของคณะกรรมการเขต 3 จังหวัด คือ จังหวัดเลย จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดพิษณุโลกเมื่อปี2513 และต่อมาในปีพ.ศ.2520 ได้ก่อตั้งเป็นโรงเรียนซึ่งให้การศึกษาตามแนวทางลัทธิคอมมิวนิสต์

กังหันน้ำ อยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนการเมืองการทหาร ใช้หล่อเลี้ยงคนหลายพันคนบนภูหินร่องกล้า สร้างขึ้นโดยนักศึกษาโดยใช้พลังน้ำขับเคลื่อนกังหันเพื่อหมุนแกนครก กระเดื่องตำข้าวซึ่งเปรียบเสมือนโรงสีข้าวของ ผกค.

ภูหินร่องกล้า สมรภูมิประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่แสนอัศจรรย์

ธรรมชาติที่แสนอัศจรรย์

หลังจากชมร่องรอยในประวัติศาสตร์ของดินแดนสมรภูมิแห่งนี้ ใครที่มาที่ภูหินร่างกล้าแห่งนี้ แล้วไม่ตื่นตา และหลงใหลไปกับความอัศจรรย์ทางธรรมชาติของที่นี่ นั้นหามีไม่ เพราะธรรมชาติของที่นี่ ทำน้ำตกเอง ลานหินเอย เส้นทางลัดเลาะชมธรรมชาติเอย ต่างพาให้เราเดินขลุกอยู่ในอุทยานได้เป็นวันๆ

ลานหินแตก อยู่ห่างจากฐานพัชรินทร์ ประมาณ 300 เมตร ลักษณะเป็นลานหินที่มีอาณาบริเวณประมาณ 40 ไร่ ลานหินมีรอยแตกเป็นแนวเป็นร่องเหมือนแผ่นดินแยก รอยแตกนี้บางรอยก็มีขนาดแคบพอคนก้าวข้ามได้ แต่บางรอยก็กว้างจนไม่สามารถจะกระโดดข้ามไปถึง สำหรับความลึกของร่องหินแตกนั้นไม่สามารถจะคะเนได้ ลักษณะเช่นนี้สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากการโก่งตัว หรือเคลื่อนตัวของผิวโลก จึงทำให้พื้นหินนั้นแตกออกเป็นแนว นอกจากนี้บริเวณลานหินแตกยังปกคลุมไปด้วยมอส ไลเคน ตะไคร่ เฟิร์น และกล้วยไม้ชนิดต่างๆ

ภูหินร่องกล้า สมรภูมิประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่แสนอัศจรรย์

ลานหินปุ่ม อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 4 กิโลเมตร อยู่ริมหน้าผา ลักษณะเป็นลานหินซึ่งมีหินผุดขึ้นมาเป็นปุ่ม เป็นปม ขนาดไล่เลี่ยกัน คาดว่าเกิดจากการสึกกร่อนตามธรรมชาติของหิน ในอดีตบริเวณนี้ใช้เป็นที่พักฟื้นคนไข้ของโรงพยาบาล เนื่องจากอยู่บนหน้าผา มีลมพัดเย็นสบาย

ผาชูธง อยู่ห่างจากลานหินปุ่มประมาณ 500 เมตร เป็นหน้าผาสูงชัน สามารถเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล จะสวยงามมากในยามพระอาทิตย์ตกดิน บริเวณนี้เคยเป็นสถานที่ซึ่งพรรคคอมมิวนิสต์ ขึ้นไปชูธงแดงรูปค้อนเคียวทุกครั้งที่รบชนะฝ่ายรัฐบาล

น้ำตกหมันแดง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มี 32 ชั้น ปัจจุบันยังไม่มีทางรถเข้าถึง การเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวยังน้ำตกในขณะนี้ ทำได้โดยการเดินเท้าเท่านั้น

ภูหินร่องกล้า สมรภูมิประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่แสนอัศจรรย์

น้ำตกร่มเกล้า-ภราดร เป็นน้ำตกฝาแฝด 2 แห่ง ที่อยู่ติด ๆ กัน อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ บนถนนภูหินร่องกล้าประมาณ 4 กิโลเมตร ก่อนถึงโรงเรียนการเมืองการทหารประมาณ 1 กิโลเมตร จากถนนสายใหญ่ จะต้องเดินตัดลงไปบนทางเท้าที่พึ่งทำขึ้นใหม่เป็นระยะทางประมาณ 800 เมตร ตัวน้ำตกไม่สูงใหญ่นัก แต่สภาพแวดล้อมโดยรอบมีลักษณะเป็นป่าบริสุทธิ์อันงดงามมาก

ภูหินร่องกล้า สมรภูมิประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่แสนอัศจรรย์

น้ำตกผาลาด และน้ำตกตาดฟ้า ตั้งอยู่บริเวณเชิงภูหินร่องกล้าโดยแยกซ้ายจาก หมู่บ้านห้วยน้ำไซต่อไปประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการพลังงานไฟฟ้าห้วยขมึน อันเป็นที่ตั้งของน้ำตกแก่งลาด ขึ้นเขาต่อไปประมาณ 3-4 กิโลเมตร มีทางเดินแยกซ้ายลงไปน้ำตกตาดฟ้าหรือน้ำตกด่านกอซองเป็นน้ำตกชั้นเดียวขนาด ใหญ่ที่สวยงาม

ธารพายุ เป็นจุดชมวิวบริเวณกิโลเมตรที่ 32 เส้นทางภูหินร่องกล้า-หล่มเก่า สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของภูเขาและทะเลหมอกได้อย่างสวยงาม มีสวนรัชมังคลาภิเษกสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ

สำหรับผู้ที่สนใจเที่ยวในอุทยานฯภูหินร่องกล้า สามารถติดต่อรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า โทร.0-1596-5977

ภูหินร่องกล้า สมรภูมิประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่แสนอัศจรรย์

บทความน่าอ่านจาก http://www.emaginfo.com ร่วมกับ travel.mthai.com

www.emaginfo.com


View Larger Map