10 จุดหมายท่องเที่ยว 10 ที่เที่ยว ท่องเที่ยวทั่วไทย เที่ยว เมษายน เที่ยวหน้าร้อน แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว

แนะนำ 10 ที่เที่ยวหน้าร้อน ประจำเดือนเมษายน

Home / นักเที่ยวเชี่ยวทาง / แนะนำ 10 ที่เที่ยวหน้าร้อน ประจำเดือนเมษายน

และแล้วปี 2558 ก็ย่างกรายเข้ามาถึงเดือนแห่งความร้อนแรง ทั้งสภาพอากาศ ทั้งเทศกาล และสถานที่ท่องเที่ยวสุดมหัศจรรย์ travel.mthai.com พร้อมเสิร์ฟให้คุณถึงหน้าจอ ด้วยการแนะนำ 10 ที่เที่ยวสุดร้อนแรง ประจำเดือนเมษายน เพื่อเป็นตัวเลือกในการเดินทางสำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวไหนดีในวันหยุดยาว โดยทั้ง 10 แห่งจะไม่เกี่ยวข้องกับเทศกาลวันสงกรานต์ แต่รับรองได้ว่าวันหยุดของคุณจะต้องมีความหมาย หากได้ไปเยือนสถานที่เหล่านี้ คุณจะได้พบกับความประทับใจและความทรงจำอันแสนพิเศษ แน่นอน …

ที่เที่ยวหน้าร้อน

 

1. ปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์

ปราสาทพนมรุ้ง
ภาพจาก : vivatchaipicture.wordpress.com

พบความมหัศจรรย์ของ ปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทหินเก่าแก่ศิลปะขอมโบราณผ่านการเวลามาร่วมพันปี จากการรังสรรค์ด้วยภูมิปัญญาอันแยบยลของคนโบราณ ถ่ายทอดความเชื่อและความศรัทธาในศาสนาฮินดูไศวนิกาย ที่วิจิตรงดงามผ่านลายสลักบนหินนับร้อยนับพันก้อน ก่อร่างสร้างจนเกิดเป็นความยิ่งใหญ่แห่งเทวสถาน บนยอดภูเขาไฟสูงที่ดับสนิทแล้ว หนึ่งในหกลูกสำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์

ชมและสัมผัสปรากฏการณ์แสงแรกแห่งอรุณรุ่ง ฉายแสงผ่าน 15 ช่องบานประตูของปราสาทพนมรุ้ง ถือเป็นความเชื่อและความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นดำเนินชีวิตในวันใหม่ (วันที่ 3-5 เมษายน 2558 เวลา 06.00 น.)


2. หมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา

หมู่เกาะสุรินทร์
ภาพจาก : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

หมู่เกาะสุรินทร์ หมู่เกาะที่มีลักษณะทางธรรมชาติที่กำบังคลื่นลมทั้งสองฤดู เนื่องจากเกาะวางตัวอยู่เป็นกลุ่มและมีอ่าวขนาดใหญ่ ทำให้เกิดแนวปะการังริมฝั่งอยู่รอบหมู่เกาะ และเกาะบริวาร นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมยังเหมาะต่อการพัฒนาของแนวปะการัง คือ น้ำใส อุณหภูมิพอเหมาะ และมีการผสมผสานของน้ำที่ได้รับสารอาหาร จากมวลน้ำเบื้องล่างที่ปะทะเกาะ ความอุดมสมบูรณ์ของแพลงตอน ซึ่งเป็นอาหารสำหรับปลาและสัตว์อื่นๆ

โดยมี กองหินริเชลิว เป็นไฮไลท์จุดดำน้ำของหมู่เกาะแห่งนี้ ที่นักดำน้ำชาวไทย และผู้มีประสบการณ์สูงหลายราย จัดให้ “ริเชลิว” เป็นจุดดำน้ำลึกที่สวยงาม สมบูรณ์ และหลากหลายที่สุดเทียบเท่าหมู่เกาะสิมิลันฃ


3. ถนนสายดอกคูณ จ.ขอนแก่น

ถนนสายดอกคูณ
ภาพจาก : www.facebook.com/ththaan

ในช่วงหน้าร้อน เป็นช่วงที่ดอกไม้หลายชนิดออกดอกบานสะพรั่งให้ได้ชม “ดอกคูน” หรือ “ดอกราชพฤกษ์” ก็เป็นดอกไม้ชนิดหนึ่งที่ออกดอกในช่วงหน้าร้อนนี้ ดอกไม้มงคลชนิดนี้มีดอกสีเหลืองอร่ามที่ลักษณะเป็นช่อย้อยลงมาจากต้น งดงามรับกับความสดใสของฤดูร้อน ปัจจุบันสามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามสองฟากฝั่งถนน

แต่ที่สามารถชมได้อย่างสวยงามที่สุดก็คงจะเป็นที่ “ถนนสายดอกคูน” บริเวณหน้าศูนย์ราชการจังหวัดขอนแก่น และที่บริเวณสวนดอกคูณ ริมบึงแก่นนคร ซึ่งก็งดงามเข้ากับบรรยากาศงานดอกคูนเสียงแคนเป็นอย่างมาก สอบถามยามดอกไม้บาน ได้ที่ : ททท. สำนักงานขอนแก่น โทร. 0 4322 7714-6


4. วัดใต้น้ำ สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

วัดวังก์วิเวการาม
ภาพจาก : www.chillDtravel.com

อุโบสถหลังเก่า ของวัดวังก์วิเวการาม (เดิม) ที่จมอยู่ใต้น้ำ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งยามใดที่น้ำได้ลดระดับลง เมืองบาดาลทั้งเมืองก็จะเผยความงดงามของโบราณสถาน ให้ปรากฏแก่สายตาของผู้มาเยือนเสมอๆ หากนักท่องเที่ยวท่านใดที่ยังไม่มีโอกาสมาเยือนเมืองบาดาล แนะนำว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุด คือระหว่างเดือนมีนาคมถึงเมษายน น้ำในเขื่อนจะลดลงต่ำที่สุด


5. เกาะไข่ จ.สตูล

เกาะไข่
ภาพจาก : www.tourtooktee.com

เกาะไข่ เกาะเล็ก ๆ เกาะหนึ่งในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล อยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันตกประมาณ 25 กิโลเมตร ตั้งอยู่ระหว่างเกาะตะรุเตาและเกาะอาดัง เสน่ห์ของเกาะไข่อยู่ตรงประติมากรรมธรรมชาติอย่างซุ้มประตูหินอันเป็นสัญลักษณ์ของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา

ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะมีหาดทรายสีขาวนวลและละเอียด น้ำทะเลใสสีมรกตเห็นผืนทรายใต้น้ำได้ชัดเจน เหมาะสำหรับการเล่นน้ำและชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเกาะที่ยังคงความเป็นธรรมชาติกลางทะเลอันดามันทะเลรอบ ๆ เกาะไข่มีแนวปะการังอยู่โดยทั่วไปซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปะการังเขากวาง เนื่องจากเป็นเกาะที่เงียบสงบ


6. หินสามวาฬ ภูสิงห์ จ.บึงกาฬ

 หินสามวาฬ
ภาพจาก : facebook.com/pamai.komboon

“หินสามวาฬ” อยู่ในอุทยานภูสิงห์ โดยด้านล่างเป็นที่ตั้งของ “วัดป่าภูสิงห์” และมีลานธรรมขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าของก้อนหิน 2 ก้อน ที่มีลักษณะคล้ายสิงโต 2 ตัวหมอบเข้าหากัน พื้นที่บริเวณนี้สามารถขับรถขึ้นไปเองได้ เพื่อไหว้พระเป็นสิริมงคลและเดินไปยังจุดชมวิวลานธรรม

แต่หากอยากไปชมวิวยังจุดอื่นบนภูสิงห์ จำเป็นต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่เสียก่อน เนื่องจากเส้นทางค่อนข้างโหด ต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้นถึงจะสามารถขึ้นไปได้ และควรมีผู้ชำนาญนำทางไปด้วย เมื่อได้ขึ้นไปมีจุดแนะนำอยู่ตรง “หินสามวาฬ” พื้นที่ชมวิวใหม่ของภูสิงห์ มีลักษณะคล้ายวาฬโมบี้ดิ๊ก 3 ตัวทอดยาวบนพื้นโลก


7. วัดพระธาตุแก่งสร้อย จ.ตาก

วัดพระธาตุแก่งสร้อย
ภาพจาก : อนุสาร อสท.

วัดพระธาตุแก่งสร้อย เป็นวัดเก่าแก่และมีความสำคัญยิ่งในแม่น้ำปิง ตั้งอยู่บริเวณริมเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก เป็นวัดหนึ่งในแคว้นเขตดินแดนแห่งล้านนาไทย เป็นดินแดนที่อยู่ในหุบเขาลำเนาไพร รถไม่สามารถเข้าไปได้ ใช้เส้นทางน้ำคือนั่งเรือไปอย่างเดียว

โดยในทุก ๆ ปี ในช่วงเดือนเมษายน จะมีงาน ประเพณีขึ้นไหว้สาสรงน้ำพระบรมธาตุแก่งสร้อย ซึ่งจะมีชาวบ้านในพื้นที่และละแวกใกล้เคียง รวมทั้งผู้คนที่มีจิตศรัทธาจากจังหวัดอื่น ๆ มาร่วมงานกันอย่างมากมาย ท่านสามารถมาท่องเที่ยวและทำบุญที่ วัดพระธาตุแก่งสร้อย ไปพร้อม ๆ กันได้ในช่วงเดือนเมษายนนี้


8. หมู่เกาะชุมพร จ.ชุมพร

หมู่เกาะชุมพร
ภาพจากคุณ Little Potchara

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะทะเลชุมพร ประกอบไปด้วย เกาะทะลุ เกาะกระโหลก เกาะง่ามใหญ่ และเกาะง่ามเล็ก อยู่ห่างจากฝั่งโดยใช้เวลาเรือวิ่งราว 1 ชั่วโมง ปัจจุบัน “หมู่เกาะง่าม” นั้นถือว่าเป็นจุดดำน้ำที่ได้รับความนิยมจากเหล่านักดำน้ำทั่วโลก และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยามหน้าร้อนที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของจังหวัดชุมพรอีกด้วย

แม้ว่าทะเลแถบนี้แม้น้ำจะไม่ใสเหมือนแถบอันดามัน และไม่มีดงปะการังอ่อนสีสดมากเท่า แต่ก็รายล้อมด้วยดงปะการังดำที่หาชมได้ยากในจุดดำน้ำอื่นๆ นอกจากนี้แล้วทะเลชุมพรยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลและฝูงปลาจำนวนมาก นักดำน้ำมักพบปลากะพงแดง ปลากะมง ปลาข้างเหลืองฝูงใหญ่ เวียนว่ายไปมาอยู่เนือง ๆ


9. ทะเลน้อย จ.พัทลุง

บึงบัวทะเลน้อย
ภาพจาก : adventure.tourismthailand.org

ในอำเภอควนขนุน ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองพัทลุงออกไปราว 32 กม. มีทะเลสาบขนาดใหญ่ซ่อนอยู่เคียงคู่กับหุบเขาที่นิ่งสงบ ลำน้ำแห่งทะเลน้อยถือเป็นต้นทางของทะเลสาบสงขลา ครอบครัวนกนานาสายพันธุ์ถือเป็นเครื่องยืนยันความอุดสมบูรณ์ของธรรมชาติแห่งทะเลน้อยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะนกในกลุ่ม “นกน้ำ” หรือ “นกเป็ดน้ำ

นอกจากจะเป็นแหล่งดูนกแล้ว “ทะเลน้อย” ยังมีสิ่งน่าสนใจอันโดดเด่นอีกอย่างนั่นก็คือ “ทะเลบัวแดง” หรือ “ทะเลบัวสาย” พันธุ์บัวที่มีขึ้นอยู่มากที่สุดในทะเลแห่งนี้ โดยในช่วงเช้าเหล่าบัวสายจะพาออกดอกสีแดงสดบานสะพรั่งเต็มท้องน้ำ นอกจากบัวสายแล้ว ในทะเลน้อยยังมีบัวหลวง บัวบา บัวเผือน รวมไปถึงพืชพรรณน่าสนใจ อื่นๆ อาทิ ผักตบชวา จอก แหน สาหร่ายต่างๆ กระจูด กง ย่านลิเภา กก และเสม็ดที่ยืนต้นตระหง่านอยู่ในพื้นที่ป่าบก เป็นต้น


10. เขาหงอนนาค จ.กระบี่

เขาหงอนนาค
ภาพจาก : facebook.com/bang.tongkeawsawat

เส้นทางศึกษาธรรมชาติเขาหงอนนาค จุดชมวิว 360 องศาสุดตระการตา ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี โดยมียอดเขาสูงตระหง่านตั้งอยู่ริมทะเล อุดมสมบูรณ์ด้วยผืนป่าดงดิบขึ้นปกคลุมจนแทบไม่เห็นแสงตะวัน ที่นี่เป็นบ้านพำนักอาศัยและแหล่งอาหารของนกป่าและสัตว์ป่านานาชนิดใช้เวลาเดินเท้าเกือบ 2 ชั่วโมงกว่าจะเป็นผู้พิชิตยอดเขาหงอนนาค

เขาหงอนนาค ถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ คลองม่วง กระบี่ เลยทีเดียว โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว คือระหว่างเดือนพฤศจิกายน – เดือนพฤษภาคม


ขอบคุณข้อมูลจาก : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย / www.muangthai.com

เรียบเรียงโดย : Travel MThai