ผ่อนคลายปลายฝน! กับ 10 ที่เที่ยวประจำเดือนตุลาคม

Home / นักเที่ยวเชี่ยวทาง / ผ่อนคลายปลายฝน! กับ 10 ที่เที่ยวประจำเดือนตุลาคม

เดือนตุลาคม ช่วงเวลาแห่งปลายฝน จวนเจียนจะเข้าสู่หน้าหนาว Travel MThai มีสถานที่ท่องเที่ยว 10 แห่ง มาแนะนำคุณอีกเช่นเคย รับรองว่ามีหลากหลายรูปแบบ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของทุกคน ทั้งขึ้นเขา ล่องเรือ ดำน้ำ ชมทะเลหมอก ทุ่งดอกไม้ และอีกมากมาย บอกเลยว่าควรหาเวลาไปสักที่สองที่ รับรองไม่มีผิดหวังฮะ

ผ่อนคลายปลายฝน!
กับ 10 ที่เที่ยวประจำเดือนตุลาคม

1. จุดชมวิวเขาแดง อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์

จุดชมวิวเขาแดง

จุดชมวิวเขาแดง เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของขุนเขาสามร้อยยอดและท้องทะเลอ่าวไทยแบบ 360 องศา ยิ่งถ้าขึ้นไปช่วงเช้าหรือเย็น ๆ จะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก การจะเดินขึ้นไปพิชิต จุดชมวิวเขาแดง ซึ่งมีระยะทางประมาณ 725 เมตร ได้นั้นต้องการศัยความอดทนพอควร อาจจะดูเหมือนไม่ไกลมากนัก แต่ใช้เวลาในการเดินจริง ๆ ประมาณ ครึ่งถึงชั่วโมงเลยทีเดียว เพราะเส้นทางเต็มไปด้วยเนินโขดหินสลับซับซ้อนที่มีความแหลมคม ควรเดินอย่างระมัดระวัง

2. ภูกระดึง จ.เลย

ภูกระดึง

วันที่ 1 ตุลาคม 2558 นี้ ภูกระดึง พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวขาผจญภัยอีกครั้ง เป็นช่วงเวลาปลายฝน เผยให้ได้ยลทะเลหมอกงาม ๆ พร้อมไฮไลท์กับการชมพระอาทิตย์ขึ้นบนจุดที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ภูกระดึงพร้อมแล้วที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ลองมาสัมผัสสวนหินผางาม หรือคุนหมิงเมืองไทย และน้ำตกอีกหลายแห่ง อีกทั้งอุทยานฯ ยังได้อำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางขึ้นบนพื้นที่สูงได้ โดยจะมีจุดถ่ายภาพไว้ด้านล่างบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว

3. ม่อนหยุนไหล อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน

ม่อนหยุนไหล

จุดชมวิวแห่งใหม่ของอำเภอปาย กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว อากาศอันเย็นสบายเป็นเสน่ห์ของอำเภอปาย ยังร้องเรียกนักท่องเที่ยวจากทุกทิศให้เดินทางไปสัมผัส ยามเช้ามีทะเลหมอกให้ได้ชมกัน พร้อมชมวิวพร้อมกับป้ายจุดชมวิวหยุนไหล และ 100 สถานที่บอกรัก รวมทั้งศาลาสำหรับนั่งชมวิวยามเช้า ล้วนแล้วแต่อยู่ในภาพถ่ายของนักท่องเที่ยวทุกคนที่ขึ้นมาที่นี่

4. ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ จ.เพชรบูรณ์

ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ

ชวนทุกท่านไปเที่ยวงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำ และเทศกาลอาหารอร่อยจังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปี 2558 โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 – 15 ตุลาคม 2558 ณ ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์หลังเก่า บริเวณหน้าวัดไตรภูมิ วัดโบสถ์ชนะมาร และพุทธอุทยานเพชบุระ ภายในงาน เชิญชมขบวนแห่พระพุทธมหาธรรมราชาทางบกและทางน้ำ พิธีอุ้มพระดำน้ำ การแสดง แสง เสียง การแข่งขันพายเรือทวนน้ำ การประกวดจัดโต๊ะหมู่บูชา และเทศกาลอาหารอร่อยจังหวัดเพชรบูรณ์

 

5. เวโรน่า ทับลาน จ.ปราจีนบุรี

เวโรนา ทับลาน

เดอะ เวโรน่า @ ทับลาน (The Verona @ Tublan) จ.ปราจีนบุรี ดินแดนแห่งความรักท่ามกลางขุนเขา ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์อิตาเลียน โดย เดอะ เวโรน่า ทับลาน ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก เมืองเวโรน่า (Verona) เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในแคว้นเวเนโต้ (Veneto) 1 ใน 20 แคว้นของประเทศอิตาลี ถูกสร้างโดยโรมันและเหตุการณ์ต่างๆ ในบทละครเรื่องโรมิโอกับจูเลียตของเช็กเสปียร์ ล้วนเกิดขึ้นในเมืองเวโรน่า จึงเหมาะอย่างยิ่งในการไปเที่ยวกับคนรักและครอบครัว

 

6. เกาะตาชัย จ.พังงา

เกาะตาชัย

เกาะตาชัยจะเปิดให้ท่องเที่ยวแน่นอนในวันที่ 15 ตุลาคม 2558 นี้ “เกาะตาชัย” ธรรมชาติทางทะเลฝั่งอันดามัน อยู่ทางตอนเหนือสุดของ “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน” จุดดึงดูดนักท่องเที่ยวของ “เกาะตาชัย” คือ หาดทรายขาวเม็ดละเอียด ซึ่งมีความยาวทอดตัวขนานกับผืนน้ำประมาณ 700 เมตร และการเดินท่องป่า สัมผัสชีวิต ปูไก่ ปูน้ำจืด ใครที่ชอบอยู่ใต้น้ำต้องไม่ผิดหวังกับแนวปะการังที่ทอดตัวยาวตลอดหาด เป็นจุดดำน้ำที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย

7. สวนมิ่งมงคล จ.สระบุรี

สวนมิ่งมงคล

สวนสไตล์ชนบทอังกฤษ มีแนวคิดให้ต้นไม้เติบโตตามธรรมชาติ มีการแต่งแต้มน้อย มีแปลงไม้ดอกพันธุ์ผสมที่ปล่อยให้ขึ้นรวมกันอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยความร่มรื่น ให้สัมผัสถึงกลิ่นอายความคลาสสิกแบบชนบท คนที่รักต้นไม้หากได้มาเที่ยวที่นี่ อาจได้ไอเดียใหม่เพื่อกลับไปจัดสวนที่บ้านก็ได้ นอกจากได้เที่ยวชมสวนสวยแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีเกษตรยั่งยืน มีแปลงนาสาธิตและนิทรรศการข้าว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของข้าว มีกิจกรรมให้ทดลองปลูก เก็บเกี่ยวข้าว เพื่อสืบทอดวัฒนธรรมและวิถีการทำนาแบบดั้งเดิมให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จัก

 

8. ทุ่งดอกไม้ป่า อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จ.อุบลราชธานี

ทุ่งดอกไม้ป่า ผาแต้ม

ช่วงต้นหนาวของทุกปี หลังฝนทิ้งช่วง บริเวณลานหินทรายเหนือน้ำตกสร้อยสวรรค์จะมีดอกไม้ป่าดอกเล็กดอกน้อยที่ซุกซ่อนกายอยู่ใต้ผิวดิน ต่างพร้อมใจกันผลิดอก แตกกลีบ ชูช่อไสว เริงระบำทักทายลมหนาวพราวสะพรั่งเต็มท้องทุ่งดูสวยงามตระการตาไปทั่วบริเวณ ไม่ว่าจะเป็น สร้อยสุวรรณา ดุสิตา (หญ้าข้าวก่ำน้อย) มณีเทวา (กระดุมเงิน) ที่เป็นกลุ่มดอกไม้ที่ขึ้นเป็นหลักในท้องทุ่งแห่งนี้ ส่วนดอกไม้เล็กๆ ที่ขึ้นแซม อย่างสรัสจันทร (หญ้าหนวดเสือ) ทิพเกสร (หญ้าฝอยเล็ก) กระดุมทอง หญ้าข้าวก่ำ จอกบ่วาย ร่วมด้วยดอกไม้ป่าอื่นๆ ที่ขึ้นสอดแซม อย่างเช่น โคลงเคลง ช้างน้าว เอนอ้า หงอนนาค แดงอุบล เอื้องเหลืองพิศมร ฯลฯ นับเป็นทุ่งดอกไม้ป่าบนลานหินที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย โดยจะบานไปจนถึงช่วงเดือน ก.พ. ของทุกฤดูหนาว

9. น้ำตกปาโจ จ.นราธิวาส

น้ำตกปาโจ

น้ำตกปาโจ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ บูโด – สุไหงปาดี เป็นน้ำตกใหญ่ที่มีน้ำตลอดปี มีความสูงประมาณ 60 เมตร มีสภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร มีพันธุ์ไม้ที่มีค่านานาชนิด ที่น้ำตกปาโจนี้ มีทางขึ้นไปสู่ต้นน้ำเป็นชั้น ๆ รวม 9 ชั้น นับว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดและสวยงามแห่งหนึ่งของภาคใต้การเดินทางถึงน้ำตกปาโจ เดินทางโดยรถยนต์เป็นทางลาดยาง ห่างจากตัวเมืองก่อนถึงอำเภอบาเจาะ ประมาณ 28 กิโลเมตร ตามเส้นทางสาย นราธิวาส – ปัตตานี และแยกเข้าน้ำตกประมาณ 2 กิโลเมตร

10. หาดทรายแก้ว สัตหีบ จ.ชลบุรี

หาดทรายแก้ว สัตหีบ

หาดทรายแก้ว เป็นหาดที่สวยงาม น้ำใส อยู่ใกล้กรุงเทพฯ โดยอยู่ในความดูแลของหหารเรือ ใกล้กับโรงเรียนชุมพลทหารเรือ ทำให้ชายหาดมีความสะอาดมาก เหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัว แถมยังเป็นสถานที่ถ่ายพรีเว้ดดิ้งยอดนิยมอีกด้วย หาดทรายแก้วมีบริการที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3843 6187 ต่อ 2070,2607

ขอบคุณรูปภาพจาก
คุณ สุรเชษฐ์ เจียมตน  >>  www.facebook.com/clubartstudio
คุณ Manus Tagsri    >>  www.facebook.com/ChillDTravel
คุณ Little Potchara  >>  www.facebook.com/baagklong

10978686_10152990855550340_1349490090245596275_n