ต่อจากตอนที่แล้ว เที่ยวภูกระดึงหน้าฝน หลังจากที่เราเติมพลังด้วยอาหารเช้าพร้อมชมปุยหมอก เราก็เริ่มมุ่งหน้าเดินเท้าเข้าไปยังป่าลึก ชื่นชมกับธรรมชาติตามจุดต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยน้ำตกหลายแห่ง ช่วงนั้นฝนตกต่อเนื่องกันมาหลายวัน ทำให้เราได้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าและน้ำตก ที่น้ำเยอะมาก เพิ่มความสดชื่นให้กับเราได้เยอะเลยฮะ
ตอนที่ 1 เที่ยวภูกระดึงหน้าฝน กับประสบการณ์สุดมันส์: http://travel.mthai.com/blog/125168.html
ตอนที่ 2 เที่ยวภูกระดึงหน้าฝน กับประสบการณ์สุดมันส์
เราเดินมาถึงจุดแรก น้ำตกวังกวาง
เราเดินต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงน้ำตกเพ็ญพบใหม่ ระหว่างทางฝนก็เทลงมา ทุกคนจึงต้องหยิบเสื้อกันฝนมาใส่ เดินป่าหน้าฝน ก็ขาดเสื้อกันฝนไม่ได้นะฮะ
น้ำตกเพ็ญพบใหม่
เดินเลยถัดมาไม่ไกลนัก เราก็จะเจอน้ำตกโผนพบ
จากน้ำตกโผนพบ เราก็เดินเข้าป่าลึกขึ้นเรื่อย ๆ เราจะเห็นความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าได้อย่างเต็มตาต่อจากนี้แหละ ยิ่งฝนเพิ่งตกเสร็จใหม่ ความเขียวขจียิ่งทวีคูณ
ระหว่างสองข้างทาง เราจะได้พบกับเห็ดและพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ที่ล่อตาล่อใจให้เราเขยิบเข้าไปใกล้เพื่อถ่ายภาพเก็บความประทับใจ แอดมินว่านี่แหละคือเสน่ห์ของการเดินป่าหน้าฝน เราจะได้เห็นสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ กำลังงอกเงย
และแล้วเราก็เดินทางมาถึงพระเอกของภูกระดึงหน้าฝน นั่นก็คือ “น้ำตกถ้ำใหญ่” น้ำตกที่สวยที่สุดบนภูกระดึง ฤดูฝนมีน้ำมาก ทำให้การถ่ายภาพดูมีชีวิตชีวา แถมยังมีใบเมเปิ้ลแดงที่ร่วงหล่นประปรายให้เห็นอีกด้วย
เผลอแปปเดียว ก็บ่ายแก่ ๆ แล้ว เรายังต้องเร่งฝีเท้าไปยังผานาน้อย เพื่อเติมพลังด้วยอาหารตามสั่ง เพราะทุกคนหิวกันมาก ที่ผานาน้อยถือเป็นจุดแวะพักที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม ถ่ายรูปกันเพลินเลยฮะ
ผานาน้อย


ตอนแรกเรากะจะไปชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก แต่ดูทรงท้องฟ้าแล้วคงไม่เห็นอะไรแน่ จึงเปลี่ยนแผนเดินไปชมวิวแค่ผาเหยียบเมฆแทน กับบรรยากาศที่เย็นสบายตลอดทาง แม้จะปวดขาบ้าง แต่ทุกคนก็มีความสุขมาก ระหว่างทางเราเจอดอกไม้หลายชนิด เช่นเปราะภูขาว กระดุมเงิน หม้อข้าวหม้อแกงลิง ฯลฯ



ผาเหยียบเมฆ พอมาถึงแอดมินก็รับรู้ทันทีว่าทำไมถึงได้ชื่อนี้มา มันหวาดเสียวจริง ๆ ฮะ แค่ก้าวเดียวชีวิตเปลี่ยนเลยนะ อิอิ แต่แค่ได้ยืนชมวิว รับลมตรงนี้ ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วฮะ


เราใช้เวลาที่ผาเหยียบเมฆอยู่พอสมควร เพราะวิวสวย เลยมัวแต่ถ่ายรูปกันเพลินจนถึงเย็น นึกขึ้นได้ว่าระยะทางในการกลับไปที่ทำการอุทยานฯ นั้นต้องใช้เวลาร่วมชั่วโมงเลยทีเดียว พอกลับไปถึงก็มืดค่ำ เราซัดหมูกระทะกันอีกเช่นเดิม จากนั้นก็เข้าบ้านพัก และภาพก็ตัดมาในเช้ารุ่งขึ้น
เราตื่นแต่เช้าเพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น หลังจากพลาดเมื่อวันก่อน แต่ดูทรงแล้วก็คงไม่ต่างกันมาก ฟ้าขาวเมฆครึ้ม คงมองไม่เห็นพระอาทิตย์แน่นอน แต่วันนีเราต้องกลับแล้ว ก็ขอไปชมผานกแอ่นดูสักครั้ง
ผานกแอ่น คือจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นบนภูกระดึง ในวันฟ้าเปิด จะเห็นดวงอาทิตย์สาดแสงทองสะท้อนกับทิวสนและผู้คนหลากหลาย เป็นภาพที่สวยเกินคำบรรยาย แต่แอดมินมาหน้าฝน สิ่งที่เห็นจึงตรงกันข้าม อิอิ แต่ก็อย่างที่บอกแหละครับ ภูกระดึง สวยงามโดดเด่นแตกต่างกันไปในทุกฤดู ผู้คนถึงนิยมขึ้นมากันหลายครั้งโดยไม่เบื่อ
ถ้าอยากมาเดินป่า ดูทะเลหมอก ชมน้ำตกอันอุดมสมบูรณ์ ให้มาหน้าฝน อยากดูเมเปิ้ลแดง วิวพระอาทิตย์ ให้มาหน้าหนาว หรือถ้ามาหน้าร้อน เราก็จะเห็นความงดงามไปอีกแบบ นี่แหละครับเสน่ห์อันเย้ายวนของภูกระดึง
สุดท้ายแล้วอย่าลืมนะครับว่า การมาท่องเที่ยวธรรมชาติ เราจะไม่ทิ้งอะไรไว้นอกจากรอยเท้า และเราจะไม่เอาอะไรกลับไปนอกจากภาพถ่าย ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้า แอดมินจะพาไปเที่ยวที่ไหน รอติดตามกันฮะ
ใครยังไม่ได้อ่านเที่ยวภูกระดึง ตอนที่ 1 คลิกเลยจ้า
ถ่ายภาพและเรียบเรียงโดย : Travel MThai