ถ้าพูดถึงประเทศที่มีสถานที่โรแมนติกและคู่รักชอบไปเที่ยวกันมากที่สุด หนึ่งในนั้นก็คงจะมี “ฮอกไกโด” ประเทศญี่ปุ่นแน่นอน เมื่อหน้าหนาวมาเยือน หิมะสีขาวปกคลุมทั้งเมือง มันมีเสน่ห์และมนต์ขลัง ทำให้เราหลงรักได้ไม่รู้จบ วันนี้ Trave.mthai จะพาเพื่อนๆ ตามรอยทริป “แฟนเดย์” กับ 5 ที่เที่ยวสุดโรแมนติกในฮอกไกโด ไปดูกันซิว่า ใน 1 วัน เด่ยชัยและนุ้ย ไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง
ตามรอยทริป “แฟนเดย์”
กับ 5 ที่เที่ยวสุดโรแมนติกในฮอกไกโด
1. Otaru (โอตารุ)
เมืองแห่งกล่องดนตรี คลองโอโตรุ และนาฬิกาไอน้ำโบราณ
เมืองโอตารุ จัดว่าเป็นเมืองที่สวยงามดั่งภาพวาดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเลยทีเดียว เป็นเมืองท่าเรือขนาดเล็ก มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของเมืองมากมาย อาทิ
คลองโอตารุ ไหลผ่านกลางเมือง ตรงนี้แหละเป็นหนึ่งในจุดถ่ายรูปยอดฮิตที่ใครไปต้อง แช๊ะ! รูปตรงนี้กันทั้งนั้น ซึ่งเราสามารถนั่งเรือชมความงามเลียบสองฝั่งคลองได้ด้วย ตามถนนก็ประดับตกแต่งด้วยโคมไฟแบบวิคตอเรียน ยามค่ำคืนเมื่อแสงไฟสาดส่องสีนวล สร้างบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ
![คลองโอตารุ ฮอกไดโด](http://travel.mthai.com/app/uploads/2016/09/otaru-e1473216847333.jpg)
ย่านจัตุรัส (Marchen Square) เป็นจัตุรัสที่ตั้งอยู่ ถนนซาไกมาจิ(Sakaimachi Street) ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ ซึ่งด้านหลังก็จะเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี (Music Box Museum) เป็นอาคารเก่าแก่สไตล์ยุโรป สร้างด้วยอิฐแดง ภายในสร้างเป็นโครงไม้
มีด้วยกัน 3 ชั้น คือ ชั้นที่จำหนายกล่องดนตรีน่ารักๆ หลากหลายรูปแบบ, ชั้นจัดแสดงเกี่ยวกับกล่องดนตรีอายุร้อยกว่าปี มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น และชั้นที่สาม เราสามารถประดิษฐ์กล่องดนตรีที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกได้ โอ้โหวววว!
![ย่านจัตุรัส (Marchen Square) โอตารุ ฮอกไกดด](http://travel.mthai.com/app/uploads/2016/09/IMG_8174.jpg)
![พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี (Music Box Museum)](http://travel.mthai.com/app/uploads/2016/09/jpn_7583blog.jpg)
นาฬิกาไอน้ำโบราณ (Stream Clock) สไตล์อังกฤษ อีกหนึ่งไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูป เก็บภาพสวยๆ อีกที่หนึ่ง ซึ่งนาฬิกาไอน้ำนี้จะปล่อยดังกังวานไปทั่วและปล่อยควันออกมาทุก 1 ชั่วโมง บรรยากาศเหมือนเราอยู่ในฮอกวอตส์ยังไงยังงั้น
นอกจากนี้ยังมี พิพิธภัณฑ์เครื่องแก้ว ซูชิ ร้านขนมหวาน และเบียร์โอตารุ ที่เป็นจุดเด่น น่าสนใจอีกที่ด้วย
![](http://travel.mthai.com/app/uploads/2016/09/19364128.jpg)
————————————————————————————————————————–
![Noboribetsu (โนโบริเบทสึ) หุบเขานรก](http://travel.mthai.com/app/uploads/2016/09/14141514_298163167206407_8917158617061317936_n.jpg)
2. Noboribetsu (โนโบริเบทสึ)
มองตากัน 1 นาที ที่หุบเขานรก
ถึงแม้ชื่อจะน่ากลัว แต่ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่โรแมนติกมาก! เป็นแหล่งกำเนิดน้ำออนเซนที่เกิดจากการระเบิดของปากปล่องภูเขาไฟ ว่ากันว่าที่โนโบริเบทสึเป็นออนเซนที่ดีที่สุดในฮอกไกโดเชียวนะ มีน้ำแร่มากกว่า 9 ชนิด!
![Noboribetsu (โนโบริเบทสึ) หุบเขานรก](http://travel.mthai.com/app/uploads/2016/09/5rs4y8eu7rmqu3e1tx8rj3t32xstrdw7s.jpg)
ระหว่างเส้นทางเดินไม้สุดคลาสสิค จะเต็มไปด้วยบ่อโคลนสีน้ำตาลและไอน้ำฟุ้งกระจายทั่วพื้นที่ และถ้าเราขึ้นไปจุดชมวิวบนหอคอย เราสามารถมองเห็นแก๊สภูเขาไฟที่พุ่งขึ้นมา พร้อมกับกลิ่นของกำมะถัน >,<
นั่งรถไฟต่อไปที่ เมืองท่าฮาโกดาเตะ กันดีกว่า เมืองนี้สวยนะ ถนนนี้ไงที่นุ้ยกับเด่นเดินเล่าเรื่องอดีตกัน
————————————————————————————————————————–
![Hakodate (ฮาโกดาเตะ) จุดชมวิวทิวทัศน์สวยๆ ติดอันดับโลก](http://travel.mthai.com/app/uploads/2016/09/14238080_298163130539744_7554710539166015058_n.jpg)
3. Hakodate (ฮาโกดาเตะ)
จุดชมวิวทิวทัศน์สวยๆ ติดอันดับโลก
ฮาโกดาเตะ เป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญมากๆ อีกเมืองหนึ่ง ตั้งอยู่เกือบใต้สุดของฮอกไกโด ที่นี่มีวิวทิวทัศน์ติด 1 ใน 3 วิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น และติดอันดับโลกด้วย ลองพาคนรักไปชมวิวที่นี่ดูสิ โรแมนติกสุดๆ! และถึงแม้ไม่ได้ชมวิวยามค่ำคืน แต่วิวตอนกลางวันก็สวยไม่แพ้กัน อีกทั้งวิวบนยอดเขาในแต่ฤดูก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันออกไปด้วย ส่วนการเดินทางขึ้นไปบนยอดภูเขาฮาโกดาเตะเพื่อชมวิว ก็สามารถนั่งกระเช้าไปบนยอดเขา เพียง 3 นาทีเท่านั้น
![ยอดภูเขาฮาโกดาเตะเพื่อชมวิว](http://travel.mthai.com/app/uploads/2016/09/ec304a56b981984bc486ddfcaee62e35.png)
Red Brick Warehouse & Hakodate Factory ท่าเรือและโกดังอิฐแดง ที่นี่แหละเป็นฉากหลังที่เด่นชัยและนุ้ยมายืนกินไอติมกัน ^^ เป็นโกดังสไตล์ยุโรป ตั้งอย่างสวยงามอยู่ 5 หลัง หันหน้าออกไปยังทะเล ซึ่งปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงให้เป็นแหล่งช็อปปิ้ง ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ที่ฮิตมากๆ ในหมู่นักท่องเที่ยว ซึ่งถ้ามาเที่ยวช่วงฤดูหนาว ก็จะมีการประดับไฟสวยงามมากที่เดียว
![Red Brick Warehouse & Hakodate Factory ท่าเรือและโกดังอิฐแดง](http://travel.mthai.com/app/uploads/2016/09/main_img.jpg)
————————————————————————————————————————–
![Akaigawa Town :เล่นสกีที่ คิโรโระ สกีรีสอร์ท](http://travel.mthai.com/app/uploads/2016/09/height440.jpg)
4. Akaigawa Town
เล่นสกีที่ คิโรโระ สกีรีสอร์ท .. ลั่นระฆังแห่งความรัก
สถานที่ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้! เป็นสถานที่ที่เป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวความรัก 1 วัน ของเด่นชัยและนุ้ย มีระฆังแห่งความรักตั้งอยู่บน ลานสกีคิโรโระ ซึ่งเป็นระฆังที่คนญี่ปุ่นเชื่อว่า ถ้าใครมาขอพรเรื่องความรักที่นี่แล้วจะสมหวัง และที่ คิโรโร๊ะ ยังเป็นที่ตั้งของ โบสถ์สุดโรแมนติกอีกด้วย
![ลั่นระฆังแห่งความรัก ลานสกีคิโรโระ](http://travel.mthai.com/app/uploads/2016/09/14192100_298162993873091_7272551426534232586_n.jpg)
คิโรโระ สกีรีสอร์ท (Kiroro Ski Resort) เป็นสกีรีสอร์ท ที่มีหิมะแบบ powder snow ละเอียดนุ่มเหมือนผงแป้ง! ที่นี่มีชื่อเสียงมาก ผู้คนนิยมมาเล่นสกีกันในช่วงกลางเดือน ธ.ค.-เม.ย. สามารถนั่งกระเช้ากอนโดล่าขึ้นสู่ยอดเขา เพื่อชมความงามของวิวทิวทัศน์ที่งดงาม และขึ้นไปเคาะระฆัง บนลานสกีคิโรโระ
ที่นี่ยังมีออนเซนให้ได้ผ่อนคลายกันด้วย มีทั้งแบบกลางแจ้งและในร่ม อีกทั้ง คิโรโระ ยังได้รับการจัดอันดับจาก National Geographic ให้เป็น 1 ใน 20 สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดแห่งปี 2016 (2016 Best of The World List) อีกด้วย
————————————————————————————————————————–
![เที่ยวเทศกาลหิมะที่ซัปโปโร](http://travel.mthai.com/app/uploads/2016/09/iStock_000034832306_Small.jpg)
5. Sapporo
เที่ยวเทศกาลหิมะที่ซัปโปโร
มีเทศกาลหิมะที่มีชื่อเสียง จัดขึ้นประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกๆ ปี บนพื้นที่จัดงาน 3 ส่วนคือ สวนสาธารณะโอโดริ, ย่านการค้าซูซูกิโน และซัปโปะโระคอมมูนิตีโดม (สึโดมุ) ในงานมีการนำเสนอประติมากรรมที่สร้างจากหิมะและน้ำแข็งเป็นจำนวนนับร้อยชิ้น เทศกาลหิมะซัปโปะโระเป็นเทศกาลหิมะที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และมีผู้เข้าชมงานจากทั่วโลกกว่า 2 ล้านคนทุกปี ซึ่งบริเวณสวนสาธารณะโอโดรินั้นจะตั้งอยู่ใจกลางเมือง ไม่ว่าจะฤดูไหนก็จะเห็นความสวยงามของธรรมชาติ ให้บรรยากาศโรแมนติกไปอีกแบบ
![เที่ยวเทศกาลหิมะที่ซัปโปโร](http://travel.mthai.com/app/uploads/2016/09/54cfd08dc335146e49865437_sapporo-snow-festival-1152.jpg)
มาถึงซัปโปโร ทั้งทีก็ต้องถ่ายคู่หอคอย! ซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ (Sapporo TV Tower) หอคอยที่มีความเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองซัปโปโร แบบพาโนรามา 360 องศา และหอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower) เป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร
![Sapporo-TV-Tower](http://travel.mthai.com/app/uploads/2016/09/Sapporo-TV-Tower.jpg)
นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมาย อาทิ พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum), ซัปโปโรโดม (Sapporo Dome), ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine), อุทยานแห่งชาติ Shikotsu-Toya (Shikotsu-Toya National Park) เป็นต้น
เรียบเรียง Travel.Mthai.com