ชวนปั่นจักรยานตามเส้นทางสายวัฒนธรรมไทย-ลาว-ยวน
กับ A Long Way Home Trip @หนองแซง จ.สระบุรี
ขอยอมรับตามตรงว่าเป็นแฟนคลับของคู่รักนักเดินทางที่ใช้นามปากการ่วมกันว่า Pakaprich มานานพอควร เริ่มตั้งแต่ที่ทั้งคู่ตั้งกระทู้เล่าเรื่องการเดินทางสายทรานส์-ไซบีเรียโดยรถไฟ เริ่มต้นที่เมืองนอตทิงแฮม ประเทศอังกฤษ สู่ปลายทางกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย จนได้ขึ้นกระทู้ปักหมุดในพันทิป หลังจากนั้นก็มีแฟนเพจเป็นของตัวเอง และตอนนี้ทั้งคู่ก็ได้ออกพ็อกเก็ตบุ๊คบันทึกการเดินทางเป็นของตัวเองในชื่อ ‘A Long Way Home 71 วัน ปลายทางคือบ้าน ระหว่างทางคือเรา’ โดย สำนักพิมพ์ Her Publishing ในเครือโมโนกรุ๊ป ซึ่งผมมีโอกาสได้อ่านแล้วชอบมากครับ
โดยส่วนตัวผมไม่คุ้นเคยว่าหนังสือกับการจัดกิจกรรมจะเป็นไปในรูปแบบไหนได้บ้าง แต่ล่าสุดสำนักพิมพ์ Her Publishing ในเครือโมโนกรุ๊ป ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลพบุรี ชวนแฟนนักอ่านมาปั่นจักรยานกันโดยรถไฟตามรอยการเดินทางในหนังสือ กับคู่รักนักเดินทาง “โบ๊ท – ภควัติ ทองเจริญ” และ “ฝ้าย – ปริชญา สุทธิเวทย์” แห่ง Pakaprich ในกิจกรรม “ปั่นเลียบเลาะคันคลองท่องวัฒนธรรมไทย-ลาว-ยวน จังหวัดสระบุรี” เมื่อวันเสาร์ที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา เดิมผมป็นคนที่ชอบการท่องเที่ยวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และตอนนี้กำลังมีความสุขกับการปั่นจักรยานที่เป็นทริปแบบปั่นไปเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ ยิ่งไปกันเป็นทีม ยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่ ผมจึงไม่รอช้า รีบสมัครเข้าร่วมกิจกรรมทันที
ทริปนี้เริ่มต้นที่สถานีรถไฟหัวลำโพง (กรุงเทพฯ) ตั้งแต่ 6.30 น. ทีมงานตั้งโต๊ะลงทะเบียนที่หน้าชานชาลา แจกเสื้อทีม พร้อมขนมและน้ำดื่มรองท้อง ก่อนจะถ่ายรูปร่วมกันและเตรียมตัวขนจักรยานขึ้นขบวนรถไฟพิเศษมุ่งหน้าสู่สถานีรถไฟหนองแซง อำเภอหนองแซง จังหวัดสระบุรี ทริปนี้มีนักปั่นที่เป็นแฟนหนังสือเข้าร่วมกิจกรรมถึง 60 คน ทุกคนล้วนเตรียมตัวมาอย่างดี และมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ระหว่างเดินทางมีการจัดกิจกรรมสันทนาการสนุกๆ จากทีมงานเรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี ทำให้บรรยากาศไม่น่าเบื่อ พร้อมทั้งมี SIX-P เวย์เจลลี่ รสช็อคโกแล็ตของอร่อยจากผู้สนับสนุนใจดีมีให้ชิมตลอดทาง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ถึงที่หมายตามกำหนดเวลาทันพอดี (ไม่น่าเชื่อ)
เมื่อถึงสถานีหนองแซง ก็ได้เวลาเปิดกิจกรรมอย่างเป็นทางการโดยนายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลพบุรีกล่าวเปิดงาน จากนั้นก็พร้อมปล่อยตัวทีมนักปั่นนำโดยนายอรรถพล และ โบ๊ท – ฝ้าย แห่ง Pakaprich โดยทริปนี้เราจะแวะชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอหนองแซงถึง 7 จุดสำคัญ จุดแรกเริ่มจากแวะดื่มกาแฟหอมๆ จากบ้านใร่กาแฟ ต้นตำรับกาแฟไทยโดยคนไทย พร้อมปาท่องโก๋ที่ทอดเสิร์ฟกันร้อนๆ ที่ ‘ร้านบ้านใร่ใบกะเพรา’ เพื่อเติมพลังก่อนปั่นต่อไปยัง ‘คลีนฟาร์ม’ ฟาร์มผักปลอดสารพิษ ที่นี่ได้รับเกียรติจาก ดร.วีระศักดิ์ วงสมบัติ และคุณธนิดา กุลนา กรรมการผู้จัดการ คลีนฟาร์ม ขึ้นบรรยายถึงการบุกเบิกวิธีปลูกผักปลอดสารพิษ พร้อมขี่จักรยานปั่นนำคณะชมโรงเรือนปลูกผัก และยังได้ชิมผัดสดๆ พร้อมน้ำสลัดอร่อยๆ ด้วย (แอบกระซิบว่าอร่อยจนผมต้องซื้อกลับบ้านมาถุงใหญ่เต็มๆ)
จากนั้นไปไหว้พระขอพรกันต่อที่วัดหนองสีดา วัดดังประจำอำเภอหนองแซง ซึ่งให้การต้อนนรับโดยท่านนายกริน อบต.หนองหัวโพ พร้อมชมค้างคาวแม่ไก่นับพันๆ ตัว ที่ลงหลังปักฐานห้อยตัวอยู่บนต้นไม้เฉพาะในเขตวัดหนองสีดาเท่านั้น มาถึงจุดนี้คาดว่าทุกคนคงเริ่มเหนื่อยกันไม่น้อย (ผมด้วย) พอใกล้เที่ยง จึงเริ่มปั่นจักรยานต่อไปยัง ‘หอวัฒนธรรมพื้นบ้านไท-ยวน’ ด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่นของต้นไม้ และความสวยงามของบ้านทรงไทยโบราณริมแม่น้ำป่าสัก ที่สร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 จึงทำให้เราลืมความเหนื่อยล้าก่อนหน้านั้นไปเป็นปลิดทิ้ง หอวัฒนธรรมพื้นบ้านแห่งนี้ยังเป็นศูนยรวมของ 3 วัฒนธรรมชาวไทย ลาว และยวนเราจึงรับประทานอาหารเที่ยงแบบขันโตกตามธรรมเนียม พร้อมชมการแสดงพื้นบ้านสี่ภาค โดยอาจารย์ทรงชัย วรรณกูล เจ้าของพื้นที่ให้การต้อนรับและดำเนินรายการ รวมถึงมีการพูดคุยกับ โบ๊ท – ฝ้าย และบรรณาธิการสำนักพิมพ์ Her Publishing ถึงความเป็นมาของหนังสือ ‘A Long Way Home 71 วัน ปลายทางคือบ้าน ระหว่างทางคือเรา’ ใบบรรยากาศที่เป็นกันเอง
เมื่อท้องอิ่ม ใจอิ่ม ก็มาลุยกันต่อกับจักรยานคู่ใจ เราใช้เส้นทางเดิมปั่นกลับกัน โดยแวะเหนื่อยกันอีกนิดที่ ‘สวนมะม่วงลุงน้อย’ เพื่อชมมะม่วงพันธุ์หนองแซงที่หาทานยาก และเหลือไม่กี่ต้นแล้วในประเทศไทย จากนั้นจึงเริ่มปั่นจักรยานฝ่าสภาพอากาศที่ร้อนจัดต่อไปอีกเกือบ 20 กิโลเมตร ไปยัง ‘พิพิธภัณฑ์บ้านใร่กาแฟ’ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งสุดท้ายในทริปนี้ เพื่อเรียนรู้ความเป็นมาของต้นกำเนิดกาแฟไทยและดื่มเครื่องดื่มให้ชื่นใจ พร้อมชื่นชมกับของเก่าหายากที่ทางเจ้าของได้เก็บสะสมไว้มากมายกว่า 10 ปี รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่เป็นจุดกำเนิดของบ้านใร่กาแฟในยุคแรกๆ (ปลายปี 2540) ด้วย กิจกรรมทั้งหมดจำต้องร่ำลากันอย่างเป็นทางการที่นี่โดยนายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลพบุรี กล่าวจบกิจกรรม คุณสายชล เพยาว์น้อย ผู้ก่อตั้งธุกรกิจบ้านใร่กาแฟ กล่าวขอบคุณในฐาะตัวแทนของชาวหนองแซง และทุกคนก็ได้ถ่ายภาพร่วมกันอีกครั้ง
เมื่อพักผ่อนหย่อนใจหลังจากเหน็ดเหนื่อยกันจนสดชื่นขึ้นมาแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องกลับไปรวมพลกันอีกครั้งที่สถานีรถไฟหนองแซง เพื่อขึ้นรถไฟขบวนเดิมเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในเวลา 16.00 น. ตลอดเส้นทางปั่นจักรยานท่องเที่ยว ถึงแม้อากาศจะร้อนแสนสาหัสและระยะทางกว่า 44 กิโลเมตรจะทำให้เหนื่อยหอบ และอาจมีนักปั่นบางคนที่ไปต่อไม่ไหว แต่ก็เต็มไปด้วยความประทับใจ ความสนุกสนาน อีกทั้งยังได้รับการดูแลจากทีมงานทุกส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเป็นทริปจักรยานในฝันที่คุ้มเหนื่อยจริงๆ