เสน่ห์ หนองคาย … เมืองที่ใครๆ ก็แคร์ “ สังคม ”

Home / นักเที่ยวเชี่ยวทาง / เสน่ห์ หนองคาย … เมืองที่ใครๆ ก็แคร์ “ สังคม ”

หากเป็น เมื่อหลายปีก่อนเราคงคิดว่า จ.หนองคาย ช่างอยู่ไกลเกินกว่าที่จะเป็นตัวเลือกในการออกเดินทางค้นหา จนวันเวลาผ่านไปจึงได้รู้ว่า นี่เราพลาดสิ่งดีๆ ที่สมัยนี้มักจะเรียกกันว่า “อันซีน” หรืออะไรก็ตามแต่ ซึ่งถือเป็นความล้ำค่าของสถานที่นั้นๆ ที่หาจากที่ไหนไม่ได้ และที่ อ.สังคม จ.หนองคาย ก็มีหลายๆ สิ่งที่เขาว่ากันว่ามันคือ “อันซีน” อยู่มากมาย ในอำเภอเดียวเสียด้วย ทั้งความสวยงาม ความตื่นเต้น ความเป็นที่สุด และจุดหมายปลายทางของนักแสวงหาความอิ่มอร่อย มาที่นี่ทีเดียว เขาว่า “ครบถ้วนกระบวนความ

อ.สังคม จังหวัดหนองคาย
อำเภอสังคม ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัดหนองคาย จัดว่าเป็นอำเภอเล็กๆ ที่สงบเงียบและเรียบง่าย พราะมีพื้นที่เพียง 440 ตร.กม.และถือเป็นอำเภอชายแดนเพราะมีอาณาเขตทิศเหนือติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวโดยมีแม่น้ำโขงขวางกั้น วัฒนธรรมจากสองฟากฝั่งจึงกลมกลืนกันเสมือนเป็นหนี่งเดียวมาช้านาน แต่เดิมนั้นในท้องที่อำเภอสังคมมีขนาดเล็กมากเพียง 3 หมู่บ้าน คือ บ้านสังคม บ้านม่วง และบ้านแก้งไก่ ต่อมาได้มีชาวบ้านจากบ้านแก่นท้าวบ่อแตนและบ้านสารคามทางฝั่ง สปป.ลาว ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ อำเภอเชียงคาน ของจังหวัดเลย ได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานในท้อง ที่อำเภอสังคม จากชุมชนเล็กๆ ก็ขยายตัวขึ้นจนกลายเป็นอำเภออย่างในปัจจุบัน

อ.สังคม จังหวัดหนองคาย

และนี่เองที่เป็นเสมือนการเปิดประตูสู่โลกกว้างของ อ.สังคม ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวตามมาด้วย
ด้วยภูมิทัศน์งดงามและยังมีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เพียบพร้อมทั้งป่าไม้ ต้นน้ำลำธาร และพื้นที่เพาะปลูกที่ยังคงเป็นหัวใจหลักของชาวอ.สังคมซึ่งเป็นเกษตรกรเสีย ส่วนใหญ่ ทำให้เสน่ห์ของ อ.สังคม ยังไม่จางหาย พักหลังๆ เราจึงสังเกตเห็นนักท่องเที่ยวทั้งไกลและใกล้มักจะขับรถเที่ยวชมทิวทัศน์ เพราะจะได้เห็นแม่น้ำโขงทอดตัวยาวไปจนสุดสายตา แม้แต่ในหน้าร้อนที่ลำน้ำโขงแห้งขอด ก็จะบังเกิดความงามที่แปลกตาไปอีกแบบ คือจะมีสันดอนซึ่งเป็นสันทราย และเกาะแก่งเล็กๆ เรียงราย และจะสวยงามที่สุด เมื่อพระอาทิตย์ยามเย็นกำลังจะลับขอบฟ้า ตากล้องท่องเที่ยวทั้งหลายจึงมักจะมาจับจองพื้นที่เพื่อเก็บช็อตที่สวยที่สุดกันอยู่เนืองๆ

แต่เสน่ห์ของที่นี่ย่อมมีมากกว่านี้แน่ แถมยังจัดว่าเป็นเมืองที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวครบครันอย่างที่เกริ่นกันไป แล้ว ใครอยากไปไหว้พระ สักการะองค์พระคู่เมืองของชาว อ.สังคม ก็มักจะได้รับคำแนะนำให้ไป “วัดภูผาดัก” ที่นอกจากบรรยากาศจะขรึมขลังเป็นพิเศษด้วยทิวทัศน์เป็นหุบผาล้อมรอบ ก็ยังถือเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของเกจิอาจารย์ซึ่งญาติโยมและสานุศิษย์ให้ ความเคารพ และเมื่อสักการะเสร็จสิ้น นักท่องเที่ยวส่วนมากก็จะพากันไปยังจุดชมวิวที่เรียกว่า “ลานหินปุ่มซึ่งจะมองเห็นวิวโดยรอบแบบ 360 องศาไปถึงฝั่งสปป.ลาว แม้จะดูน่าเกรงขาม แต่ก็แฝงความงามและความอัศจรรย์ ซึ่งใครที่แวะไปที่ลานแห่งนี้ก็จะพบกับรอยเท้าประทับบนลานหิน ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นรอยเท้าของหลวงปู่ผางสมัยเมื่อครั้งมาจำพรรษาที่วัด แห่งนี้

นอกจากนี้แล้ว นักท่องเที่ยวตามรอยบุญทั้งหลายเมื่อมายังวัดภูผาดัก ก็มักจะต้องแวะไปสักการะ “พ่อปู่อินทร์นาคราช และแม่ย่าเกตุนาคราช” ณ วัดถ้ำดินเพียง ที่มีประวัติและความเชื่อกันว่าถ้ำเพียงดินเป็นเมืองบาดาลของพญานาค ซึ่งปัจจุบันถ้ำเพียงดินก็ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปชมห้องต่างๆ อันมีประวัติความเป็นมาที่แตกต่างกันออกไป แต่ด้วยความอลังการอันกินอาณาบริเวณมากมาย นักท่องเที่ยวที่สนใจอยากจะลงไปชมถ้ำ ก็จำเป็นต้องมีมัคคุเทศก์ผู้เชี่ยวชาญคอยนำทางเสมอ เพราะว่ากันว่า ถ้ำแห่งนี้ยังมีพื้นที่อีกมหาศาลซึ่งยังตกหล่นจากการสำรวจ หากไม่คุ้นเคยแล้วล่ะก็ อาจจะหลงและสูญหายไปในพื้นที่ของสปป.ลาวได้

อ.สังคม จังหวัดหนองคาย

ชมวัดวาอาราม ตามรอยความเชื่อของท้องถิ่นกันไปแล้ว ก็ต้องไม่พลาดที่จะสำรวจธรรมชาติของ อ.สังคม ผ่านประสบการณ์ใหม่ของการผจญภัย และความเพลิดเพลิน เช่นที่ “ภูโล้นจุดชมวิวที่ใครๆ ต่างก็ยกย่องให้เป็นจุดที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของไทย แต่หากความสวยงามนั้นจะมาหเราชื่นชมง่ายๆ ก็คงไร้คุณค่า ฉะนั้นใครที่คิดว่าจะขึ้นภูโล้นไปชมวิวแบบชิลล์ๆ ล่ะก็ขอให้ตัดสินใจใหม่ เพราะหากจัดทริปไปกันเองก็ต้องพึ่งพาได้เฉพาะรถยนต์โฟร์วีล หรือจะเลือกภูมิปัญญาชาวบ้านทัวร์รถอีแต๋นก็ตามใจชอบ ฉะนั้นก็ลองคิดดูว่า การฝ่าฟันเส้นทางเพื่อที่จะขึ้นไปถึงภูนั้น มันจะสมบุกสมบันสักแค่ไหน

และอีกจุดหนึ่งซึ่งชาวบ้านในท้องถิ่นเขาภูมิใจนำเสนอคือ “ทะเลหมอกภูห้วยอีสันอันซีนทะเลหมอกสามฤดูที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกเช้าตรู่ ซึ่งหากเป็นในหน้าร้อนและหน้าฝนที่หลายคนสงสัยว่า ไม่น่าจะมีทะเลหมอกได้ แต่หากค่ำคืนไหนที่มีฝนตก รุ่งเช้าทะเลหมอกก็จะปรากฏขึ้นปกคลุมยอดไม้สวยงามดังต้องมนต์สะกด

อ.สังคม ยังมีเกาะแก่งที่ปรับเปลี่ยนตัวเองให้นักท่องเที่ยวมาเปิดประสบการณ์ใหม่ตาม ฤดูกาลที่ผันเปลี่ยนไป เช่นในฤดูแล้งที่แม่น้ำโขงแห้งขอด แก่งพาลที่นักท่องเที่ยวมาล่องเรือผจญภัยก็จะแห้งขอด แต่บังเกิดสันทรายให้ถ่ายรูปกับความแปลกตาที่ธรรมชาติสร้าง

นี่แค่เศษเสี้ยวหนึ่งของความมหัศจรรย์แห่ง อ.สังคม จ.หนองคาย เท่านั้น เพราะยังมีเสน่ห์อีกมากมายที่เรายังเก็บเกี่ยวได้ไม่หมดจากที่แห่งนี้ และที่น่าสังเกตอย่างหนึ่งคือในวันที่เราไปถึง เราพบนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกหลายคนที่ใช้เวลาพักผ่อนไปกับการปั่นจักรยาน จ๊อกกิ้ง และบุกตะลุยอันซีนต่างๆ กันอย่างสนุกสนาน สืบทราบจนได้ความว่า บางคนมาเยือนที่นี่ไม่ต่ำกว่า 1 ครั้ง และบางคนคุ้นเคยถึงขนาดร่วมวงเปิบข้าวกับชาวบ้านได้อย่างไม่เคอะเขิน เราจึงได้ทราบว่าในต่างประเทศ เมืองเล็กๆ แห่งนี้มีเสน่ห์เพียงใดในสายตาชาวต่างชาติที่หลงใหลในความเรียบง่าย ไม่ปรุงแต่ง แต่เข้มแข็งด้วยวัฒนธรรมดังเช่น อ.สังคม แห่งนี้

เราเองได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของบ้านแท้ๆ จะไม่เปิดใจให้ตกหลุมรักเมืองเล็กๆ เมืองนี้ อย่างที่ฝรั่งเขาแคร์ “ สังคม ” ของเรากันบ้างหรือ?

 

บทความน่าอ่านจาก http://www.emaginfo.com ร่วมกับ travel.mthai.com

 www.emaginfo.com