“ททท.” ชูทำการตลาดดิจิตอลในปี 54

Home / ข่าวท่องเที่ยว / “ททท.” ชูทำการตลาดดิจิตอลในปี 54

“ททท.” ชูทำการตลาดดิจิตอลในปี 54

.

image

       ททท. เปิดตัว โมบายล์แอพพลิเคชั่น “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์” บนแพลตฟอร์มยอดนิยมทั้ง iPhone BlackBerry และ Android รวมถึงอุปกรณ์เชื่อมต่อยอดนิยมอย่าง iPad และ iPod Touch ตอกย้ำความสำเร็จในการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านตลาดออนไลน์ เพื่อยกระดับสู่องค์กรดิจิตอล พร้อมเผยกลยุทธ์การตลาดดิจิตอล ปี 2554
      
       วันนี้ (23 ธันวาคม 2553) ณ โรงแรมแกรนด์ มิลเลเนียม สุขุมวิท นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในงานแถลงข่าวเปิดตัว “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์” โมบายล์แอพพลิเคชั่น เพื่อประโยชน์การใช้งานผ่านเทคโนโลยีเครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ โดยมีแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง
      
       นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการ ททท.เปิดเผยว่า “การเปิดตัว “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์” โมบายล์ แอพพลิเคชั่นในครั้งนี้ เกิดจากความสำเร็จในการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านตลาดออนไลน์เพื่อให้ทันกระแสโลกยุคดิจิตอล โดยใช้กลยุทธ์ Digital Marketing และ Social Media Marketing ซึ่งปัจจุบัน “Amazing Thailand” แฟนเพจบน Facebook มีจำนวนแฟนมากกว่า 120,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนแฟนเพจประเภทองค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก รวมทั้ง Twitter @ThailandFanClub สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและ @Go2Thailand สำหรับนักท่องเที่ยวคนไทย โดย ททท. ได้พัฒนา อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ โมบายล์ แอพพลิเคชั่น บนแพลตฟอร์มยอดนิยมทั้ง iPhone BlackBerry และ Android รวมทั้ง iPad และ iPod Touch ถือเป็นการเพิ่มช่องทางใหม่ในการเข้าถึงและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยไปยังกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพทั่วโลกมากกว่า 300 ล้านคน เป็นการต่อยอดจากฐานข้อมูลของเว็บไซต์ ททท. และสามารถขยายผลของการเพิ่มจำนวนฐานนักท่องเที่ยวในสื่อโซเชียลมีเดีย รวมทั้งเพื่อเป็นการรองรับสำหรับการทำตลาดรูปแบบใหม่ๆ ผ่านโมบายล์แอพพลิเคชั่นของ ททท. ในอนาคตอีกด้วย”
      
       นายสุรพล กล่าวเพิ่มเติมถึงจุดเด่นของ “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์” โมบายล์ แอพพลิเคชั่น ประกอบด้วยส่วนสำคัญหลัก ๆ คือ
      
       1. เนื้อหา (Content) มีจำนวนข้อมูลด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทยมากกว่า 10,000 ข้อมูล แยกเป็น เมนู Destinations และ Event ซึ่งในเมนู Destinations แบ่งเป็น Top 10 Destination และจังหวัดต่างๆ สำหรับการท่องเที่ยวในประเทศไทยที่มีข้อมูลแนะนำการท่องเที่ยวทั้ง How to go Where to go Where to stay Where to eat และ Shopping ส่วนเมนู Event จะมีข้อมูลงานเทศกาลและกิจกรรมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวทั่วประเทศไทยแบ่งเป็นรายเดือน
      
       2. สามารถค้นหาได้ทั้งคีย์เวิร์ดและในรูปแบบ Location-Based Service ด้วยเทคโนโลยี GPS ที่มีอยู่ในสมาร์ทโฟนที่นักท่องเที่ยวสามารถค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงได้ และยังสามารถเลือกแสดงผลของข้อมูลบนแผนที่ Google Maps ได้อีกด้วย
      
       3. นักท่องเที่ยวสามารถแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวบนมือถือผ่านโซเชียลเน็ทเวิร์คยอดนิยมทั้ง Facebook และ Twitter หรือจะส่งอีเมล์ถึงเพื่อนๆ ก็ได้เช่นเดียวกัน
      
       ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวในกลุ่มนักธุรกิจ (Business Travelers) คือนักท่องเที่ยวในกลุ่มแรกๆ ที่เป็นผู้มาใช้บริการจากเทคโนโลยีสำหรับการท่องเที่ยวผ่านสมาร์ทโฟน โดยนักท่องเที่ยวทั่วไป (Leisure Travelers) กำลังจะมีจำนวนการใช้บริการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
      
       สำหรับแผนการดำเนินการในอนาคตสำหรับการพัฒนา “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์” โมบายล์ แอพพลิเคชั่น จะพัฒนาแอพพลิเคชั่นในทุกแอพพลิเคชั่นในทุกแพลตฟอร์ม และทุกอุปกรณ์เชื่อมต่อ (device) ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังมุ่งเน้นการพัฒนาเนื้อหาและการใช้งานให้กับนักท่องเที่ยวได้ใช้งานได้สะดวกและหลากหลายมากยิ่งขึ้น เช่น การพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม อาทิ กลุ่ม Wedding กลุ่ม Diving เพื่อเจาะเฉพาะรายตลาดกลุ่มเป้าหมาย การพัฒนาลักษณะการใช้งานต่างๆ เช่น ระบบรีวิว การให้เรทติ้ง การจัดทำแผนการท่องเที่ยวส่วนตัว การตรวจสอบตารางสายการบิน การจองโรงแรม กิจกรรมโปรโมชั่นในรูปแบบเรียลไทม์เรียลโลเคชั่น (Real-time Real-Location) รวมทั้งกิจกรรมเช็ค-อิน เป็นต้น
      
       ทั้งหมดนี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญของ ททท. ในการยกระดับองค์กรสู่ยุคดิจิตอลอย่างแท้จริงตอบสนองพฤติกรรมการใช้สื่อของนักท่องเที่ยวและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป เพื่อส่งเสริมสนับสนุนรวมถึงสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่การท่องเที่ยวของประเทศไทย