รายการผีเสื้อเดินทาง พาไป เที่ยวเมืองปิซ่า ในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.นี้

พิมพ์ลภัส เดินผ่านซุ้มกำแพงประตูของ จัตุรัสแคมโป หรือ กัมโป เดย์ มีราโกลี (Campo dei Miracoli) เข้ามาแว๊บแรกเห็นนักท่องเที่ยวทำท่ายอดฮิตที่ทุกคนพยายามถ่ายเพื่อให้ดูเหมือนว่ากำลังผลักหอเอน (Torre) ที่กำลังเอียงลงมา และต้องตะลึง

รายการผีเสื้อเดินทาง พาไป เที่ยวเมืองปิซ่า ในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.นี้

เพราะสิ่งที่เห็นตรงหน้ามีขนาดใหญ่เต็มสองตา มหาวิหารดูโอโม (Duomo) ตั้งอยู่ตรงกลาง เก่าแก่มากตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 11 ภายนอกตกแต่งด้วยหินอ่อน ประตูสำริดสีเขียว มีลวดลายแกะสลักอย่างงดงาม นอกจากนี้ยังมี หอศีลจุ่ม(Baptistery) และ สุสาน (Camposanto) สิ่งก่อสร้างหลัก 4 อย่าง ได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกในชื่อ จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซา ใจกลางเมืองปิซ่า แคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี สมกับคำแปลในภาษาไทยว่า “จัตุรัสอัศจรรย์” จากนั้นพิมพ์ลภัส ตามรอยกาลิเลโอ ปีนหอเอนเมืองปิซ่า Leaning Tower of Pisa ขึ้นบันได 293 ขั้น เพื่อให้ได้มุมมองสุด เอ็กซ์คลูซีฟ สำหรับหอระฆังของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกนี้ เป็นทรงกระบอก 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว สูง 183.3 ฟุต เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.1173 สร้างเสร็จเมื่อปี 1350 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่การก่อสร้างหยุดชะงักเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 เนื่องจากพื้นใต้ดินเป็นพื้นดินที่นิ่ม ทำให้ยุบตัว

ต่อมาในปี ค.ศ.1272 โดย Giovanni di Simone สร้างให้เอนกลับไปอีกด้านหนึ่งเพื่อให้สมดุล แต่การก่อสร้างในครั้งนี้ ก็ต้องหยุดชะงักลงอีกครั้งเนื่องจากเกิดสงคราม ต่อมาก็มีการสร้างหอต่อขึ้นอีกและสร้างเสร็จ 7 ชั้น ในปี ค.ศ.1319 แต่หอระฆังถูกสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1372 โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมด 177 ปี หอเอนเมืองปิซายังเป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางอีกด้วย ซึ่งรัฐบาลอิตาลี พยายามหยุดการเอียงของหอเอนเมืองปิซา โดยรวมรวมเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เช่น วิศวกร นักคณิตศาสตร์ และนักประวัติศาสตร์ เพื่อให้มรดกโลกแห่งนี้สามารถคงอยู่ได้ ปิดท้ายด้วยการชิมอาหารพื้นเมืองของปิซ่า รสชาติหน้าตาเป็นอย่างไรต้องติดตามใน รายการผีเสื้อเดินทาง วันเสาร์ที 1 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 13:30 น. ทางช่องดาวเทียม MEDIA NEWS