มารยาท เที่ยวเยอรมนี

20 มารยาทที่ควรรู้ สำหรับการใช้ชีวิตที่เยอรมนี

Home / ทิปท่องเที่ยว / 20 มารยาทที่ควรรู้ สำหรับการใช้ชีวิตที่เยอรมนี

เยอรมนี (Germany : คนไทยชอบเรียก ประเทศเยอรมัน) เป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่คนไปยุโรปมักจะไปเยือน ที่มักจะพ่วงด้วย สวิสเซอร์แลนด์ ออสเตรีย ตามที่กรุ๊ปทัวร์จัดไว้ให้ แต่เยอรมนีก็ยังไม่ได้มีชื่อเสียงแค่แหล่งท่องเที่ยวเท่านั้น สถาบันการศึกษาต่างๆ ก็ยังเป็นที่นิยมของคนไทยไม่แพ้ออสเตรเลีย อังกฤษ รวมถึงเป็นประเทศที่สาวไทยแต่งงานกับหนุ่มเยอรมันเยอะสุดๆ อีกเช่นกัน ดังนั้น เราจึงมีข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ชีวิตที่เยอรมนีมาฝาก ว่าด้วยเรื่องมารยาทต่างๆ ที่ควรรู้ ดังนี้

20 มารยาทที่ควรรู้

สำหรับการใช้ชีวิตที่เยอรมนี

1. นัดก่อนเสมอ

คนเยอรมันเคร่งครัดเรื่องเวลาและความเป็นส่วนตัว ก่อนที่จะไปหาใครไม่ว่าที่ทำงานหรือที่บ้าน ให้ส่งเมลไปนัดก่อนเสมอ เพื่อที่จะให้อีกฝ่ายหนึ่งมีเวลาตั้งตัว อย่าจู่ๆ โผล่พรวดเข้าไปเพราะจะทำให้เกิดความตกใจ โกลาหล อลหม่าน และจะไม่ได้รับการต้อนรับที่ดี

2. อย่าทำให้ใครหยุดชะงักกลางทาง

เมื่อคนเยอรมันเริ่มออกจากอาคารแล้วกำลังมุ่งหน้าไปที่ใดสักแห่งอย่าได้พยายามทักเพื่อให้เขาหยุดเดินแล้วมาสนใจเรา เพราะก่อนออกจากอาคารเขาได้เช็คตารางการเดินรถเมล์หรือรถไฟไว้แล้ว และเขากะแล้วว่าเมื่อเริ่มออกจากอาคารเวลานี้จะต้องไปทันรถแน่ๆ หากเราทำให้เขาชะงัก เขาจะเสียเวลาไปไม่ทันรถ เขาจะโกรธเอาได้ ทางที่ดีควรเดินไปคุยกันไป หรือรอให้ไปถึงสถานีรถไฟฟ้าก่อนแล้วค่อยคุย หรืออาจจะคุยกันในรถไฟฟ้าก็จะดีกว่า เพราะเขาจะมีเวลาคุยด้วยเต็มที่หลังจากขึ้นรถแล้ว

3. อย่าเรียกชื่อหน้า

คนไทยนิยมเรียกชื่อหน้า เช่น คมสัน แต่เราจะเรียกชื่อหน้าของชาวเยอรมันไม่ได้ถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทกัน เช่น ดร. กุนเธ่อร์ มันสเก้ เราจะต้องเรียกว่า ดร. มันสเก้ ไม่ใช่ ดร. กุนเธ่อร์

4. ให้จับมือด้วยทุกครั้ง

ชาวเยอรมันถือเรื่องการจับมือ อย่างน้อยในการทักทายควรยื่นมือขวาให้อีกฝ่ายหนึ่งจับ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ไม่ต้องคิดว่าจะเป็นการแต๊ะอั๋ง เพราะไม่มีใครคิดอย่างนั้นกัน ถ้าไม่ยอมจับมือจะเป็นการแสดงความรังเกียจอีกฝ่าย เวลาจับมือให้บีบแรงพอสมควร อย่าเกรงใจจนไม่ออกแรงบีบมือเลย เพราะคนเยอรมันจะถือว่าเหมือนกับเราไม่พอใจจะจับมือเขา แต่ก็อย่าบีบแรงเกินไปจนอีกฝ่ายหนึ่งเจ็บ

5. อย่าใส่หมวกเข้าไปในอาคาร

ให้ถอดหมวกทุกครั้งที่เข้าไปในอาคาร และหากพบกับใครนอกอาคาร ก็ควรถอดหมวกออกก่อนในเวลาที่กล่าวทักทายกันแล้วใส่กลับไปใหม่

6. ชายหญิงเท่าเทียมกัน

อย่าพยายามมองว่าหญิงชาวเยอรมันจะทำอะไรสู้ผู้ชายไม่ได้ บางทีเมื่อเราอยู่บนรถเมล์แล้วเห็นผู้หญิงยืนอยู่แล้วเราลุกให้เขานั่ง ถือว่าเป็นการสบประมาท เพราะเขาจะมองว่าเราดูถูกความสามารถของเขา เนื่องจากเขาถือว่าชายหญิงแข็งแรงเท่ากัน หญิงเยอรมันสร้างชาติกลับคืนมาหลังจากความพินาศย่อยยับหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และนายกรัฐมนตรีก็เป็นหญิง (นางอังเกล่า แมเกิ้ล)

7. อย่าลัดคิวเด็ดขาด

คนเยอรมันถือเรื่องคิวมากๆ ใครบังอาจลัดคิวมีเรื่องถึงเรียกตำรวจมาตักเตือน หรือไม่ทุกคนก็จะมองอย่างรังเกียจ

8. การแยกขยะถือเป็นมารยาทสำคัญ

ถังขยะที่เยอรมันจะมีหลายสีสำหรับขยะหลายประเภท เช่น กระดาษ พลาสติก แก้ว และเศษขยะ การทิ้งขยะในถังขยะไม่ถูกประเภทจะถูกมองว่าเป็นคนไร้การศึกษา เพราะชาวเยอรมันได้รับการสอนเรื่องการแยกขยะมาตั้งแต่เด็ก

9. คนเยอรมันรักความสะอาด

อย่าพยายามทำให้ห้องรกรุงรัง ทั้งห้องทำงานและห้องที่บ้านพัก เพราะถ้าเพื่อนๆ เข้ามาเห็นสภาพความรกรุงรังแล้วจะรับไม่ได้ เพราะคนเยอรมันชอบความสะอาด ชาวเยอรมันจะชอบให้ทุกอย่างสะอาดแบบหมดจดทั้งในที่สาธารณะและที่ส่วนตัว ดังนั้นเราต้องหมั่นทำความสะอาดห้องต่าง ๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของเราอยู่เสมอ

10. อย่าข้ามถนนในที่ ๆ ไม่ได้จัดไว้ให้ข้าม

คนจะข้ามถนนได้ก็ต่อเมื่อมีทางม้าลายและมีสัญญาณไฟให้ข้ามได้เท่านั้น ก่อนข้ามเราต้องกดขอสัญญาณก่อน จากนั้นรอสักพักจะมีไฟเขียวให้เราข้ามได้ หากยังเป็นไฟแดงแม้ว่าไม่มีรถก็อย่าข้าม เพราะหนึ่ง อาจจะมีรถมาอย่างเร็วมากและชนเราได้ เขาจะไม่ผิดด้วย เพราะสัญญาณบอกให้เขาไปได้ และสอง อาจมีตำรวจดักปรับเราอยู่อีกฝั่งหนึ่ง

11. ก่อนเข้าไปซื้อของ ถ้ามีกระเป๋า ให้ฝากไว้ที่ล็อคเกอร์ก่อน

สังเกตว่าซูเปอร์มาร์เก็ตบางแห่งจะมีล็อคเกอร์จัดไว้ให้ลูกค้า เราต้องมีเหรียญ 1 ยูโรติดตัวไว้ เพื่อที่จะเอาไว้เช่าล็อคเกอร์ (จะได้คืนเมื่อกลับมาเอาของ) หากไม่ยอมฝากของไว้ก่อน ตอนออกมาจ่ายเงินจะถูกค้นกระเป๋า ทำให้เสียเวลามาก และเกิดความหงุดหงิดทั้งเราและทั้งฝ่ายผู้ขาย นอกเสียจากบางห้างที่มีระบบกันขโมยอยู่แล้วจะไม่ต้องฝากกระเป๋า เพราะถ้าใครหยิบอะไรติดออกมาโดยไม่จ่ายเงินรับรองมีเสียงดังเกิดขึ้นแน่นอน

12. เวลาทักคนเยอรมัน ควรเริ่มทักเป็นภาษาเยอรมัน

อย่าคิดว่าคนเยอรมันจะรู้ภาษาอังกฤษ เขาอาจจะรู้บ้างแต่ไม่รู้มาก เมื่อเขาเห็นว่าเราเป็นคนต่างชาติเขาจะไม่เข้ามาทักเราก่อนค่อนข้างแน่นอน เพราะกลัวว่าจะพูดอังกฤษไม่ถูก ดังนั้น เราจึงควรแสดงความเป็นมิตรก่อนโดยการพูดภาษาเยอรมันสักคำ เช่น กู๊ด-เท่น-ท๊าค แปลว่า สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ อย่างน้อยเขาเห็นว่า เรามาแบบเป็นมิตร คนเยอรมันก็จะพยายามช่วยเรา โดยปกติคนเยอรมันจะใจดี แต่เขากลัวว่าจะสื่อสารกับเราไม่รู้เรื่องเพราะเป็นเขาเองที่ไม่รู้ภาษาอังกฤษ

13. เวลาพูดกับคนเยอรมันอย่าเยิ่นเย้อ ให้ตรงประเด็นไปเลย

คนเยอรมันเป็นคนตรง ๆ ไม่ชอบเวลาใครพูดอะไรเยิ่นเย้อ ถ้าเราอยากจะขออะไรจากคนเยอรมันก็ขอตรง ๆ ถ้าเขาทำได้ก็จะบอกว่าได้ ถ้าไม่ได้ก็จะบอกว่าไม่ได้ ไม่มีคำตอบแบบห้าสิบห้าสิบชนิดที่ต้องมาตีความกันว่าตกลงเขาจะให้หรือไม่ให้ อะไรอย่างนี้คนเยอรมันไม่มี ภาษาอังกฤษแบบสุภาพและวกไปวนมากว่าจะเข้าเรื่องนั้นอาจจะดีหากใช้กับคนอังกฤษ แต่สำหรับคนเยอรมันแล้วจะคิดว่า “นี่เขาต้องการอะไรกันแน่ เห็นฉันเป็นตัวตลกหรือมีเวลาว่างมากนักหรืออย่างไร ถึงได้พูดเสียอ้อมค้อมอย่างนั้น” สรุปแล้วตรงไปตรงมากับคนเยอรมันจะดีที่สุด

14. ต้องมีเหตุผล

ถึงคนเยอรมันจะเป็นคนตรง ๆ ขออะไรก็ขอได้ตรงๆ แต่ต้องมีเหตุผล ไม่ใช่ว่าจู่ ๆ มาขอโดยไม่มีเหตุผล เขาจะไม่ยอมให้แน่ คนเยอรมันต้องการเหตุผลที่เป็นความจริง (Fact) มากกว่าเหตุผลที่เป็นความรู้สึก เราจึงต้องบอกว่า เพราะอย่างนี้มันถึงต้องมาขอ ไม่ใช่บอกว่า ขอเถ๊อะ ขอเถ๊อะ ขอช่วยเราหน่อยเถ๊อะ แบบนี้คนเยอรมันจะว่าท่าจะบ้า ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย แบบนี้คงช่วยไม่ได้

15. ทำตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด

คนเยอรมันเวลาจะทำอะไรนั้นจะประชุมกันก่อน เมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็จะลงมือปฏิบัติตามนั้นแบบเป๊ะ ๆ ไม่มีการนอกคอก หากใครเกิดนอกคอกคนอื่นจะงงทันทีว่าทำไมถึงทำอย่างนั้น ไหนพูดกันไว้แล้วทำไมถึงไม่ทำตามที่ตกลงกันไว้ จะเกิดความสับสนทันที ดังนั้นหากต้องการจะเปลี่ยนแปลงอะไรควรต้องกลับมาประชุมกันอีกครั้งก่อนเพื่อตกลงกันใหม่ ไม่ใช่อยู่ ๆ ก็ทำตามใจตัวเองทันที

16. อย่าพูดเล่นถ้าไม่สนิท

คนเยอรมันถือว่าความจริงจังเป็นมารยาททางสังคม หากไม่ใช่เพื่อนสนิทกันอย่าพยายามพูดเรื่องตลก โจ๊ก หรือเรื่องล้อเล่นใด ๆ อย่างเด็ดขาด เขาจะมองว่าเราเป็นคนต่ำชั้นกว่าทันที ในการนำเสนออะไรให้คนเยอรมันฟังต้องเคร่งครัดเรื่องโครงสร้างการนำเสนอ ใช้คำพูด ท่าทาง และน้ำเสียงที่จริงจัง นำเสนอแต่ข้อมูลที่เป็นความจริง (Fact) อะไรที่คาดเดาเอาเองไม่ให้นำเสนอ และอะไรที่เป็นมุขตลกอย่าได้นำเสนอ แต่ถ้าเมื่อไรสนิทกันแล้วคนเยอรมันจะกลายเป็นคนที่สนุกสนานและเอาแต่คุยเรื่องตลก ก็แปลกดี

17. คนเยอรมันตัดสินใจด้วยข้อมูลรอบด้าน

อย่าได้ให้ข้อมูลด้านเดียว จงให้ข้อมูลทุกเรื่องและทั้งด้านดีและด้านไม่ดี เช่น หากมีคนสมัครเข้าทำงานอยู่ 10 คน อย่ากระโจนบอกว่าคนที่ดีคือคนที่ 1 3 และ 5 แต่จงไล่มาทีละคนว่าคนแรกเป็นใคร ดีอย่างไร ไม่ดีอย่างไร ต่อมาคนที่สองเป็นอย่างไร ดีอย่างไร ไม่ดีอย่างไร ทำอย่างนี้จนครบทุกคน จากนั้นให้สร้างเกณฑ์ที่ใช้ในการตัดสินขึ้นมา แล้วตัดสินไปตามเกณฑ์ ทำอย่างนี้อาจจะใช้เวลามากสักหน่อย แต่คนเยอรมันอดทนที่จะฟังข้อมูลให้ครบทุกด้านได้อย่างน่าประหลาดใจ เขาจะไม่พยายามตัดสินใจถ้าไม่ได้ฟังครบทุกด้านก่อน

18. รักษาตำแหน่งของตัวเอง

เมื่อคนเยอรมันได้รับมอบหมายให้ทำอะไรในตำแหน่งไหนแล้ว เขาจะรับผิดชอบในตำแหน่งนั้นอย่างถึงที่สุด ไม่ทิ้งตำแหน่งของตัวเอง นั่นคือการทำงานแบบเป็นกลไก (mechanism) สไตล์เยอรมันขนานแท้ เมื่อกลไกส่วนอื่นส่งงานมาให้เขา ทุกคนจะคาดหวังได้ว่าเขาจะต้องสานต่อได้ เหมือนสายพานการผลิต ไม่มีใครที่อยู่ ๆ ก็หายไปจากตำแหน่งของตัวเอง วิธีคิดเช่นนี้สังเกตได้ในการเล่นฟุตบอลของทีมชาติเยอรมัน อาจจะดูแข็ง ๆ และไร้จินตนาการ แต่ทุกคนรักษาตำแหน่งอย่างแข็งขันและเป็นระเบียบ แต่ข้อเสียของระบบนี้ก็คือหากมีใครหายไปสักตำแหน่งก็รวนกันทั้งระบบ ดูอย่างตอนที่แพ้สงครามโลกครั้งที่สองก็เพราะบางตำแหน่งโดนโจมตีพังไป ทำให้ต่อเกมส์กันไม่ติด ไม่มีการรวมศูนย์การตัดสินใจที่สามารถปรับเปลี่ยนระบบได้อย่างยืดหยุ่นพอ เมื่อต่างคนต่างคิดว่าจะเอาอย่างไรต่อไปก็ไม่ทันเสียแล้ว

19. งานมาก่อน ความสัมพันธ์ส่วนตัวมาทีหลัง

เวลาทำงานกับคนเยอรมัน เริ่มต้นมาก็ให้แนะนำตัวแค่บอกชื่อตัวเองก็พอ อย่าเสียเวลาคุยเรื่องส่วนตัวนาน ให้เข้าเรื่องงานเลยว่าตกลงพวกเราต้องทำอะไรกันบ้าง แล้วก็ตกลงว่าเราควรจะทำอย่างไร จากนั้นก็ทำไปตามที่ตกลงกัน เพื่อนเยอรมันคนหนึ่งเคยไปสิงคโปร์บอกว่ากว่าจะเริ่มงานได้ ชาวสิงคโปร์พูดคุยทำความรู้จักกันนานมาก จนเขารำคาญ ผมก็ว่ามันไม่เหมือนกัน ที่เอเชีย ความสัมพันธ์มาก่อน งานมาทีหลัง ถ้าความสัมพันธ์ไม่ดีงานจะไม่เดิน เพื่อนเยอรมันก็บอกว่าที่เยอรมันงานมาก่อน ความสัมพันธ์มาทีหลัง ถ้างานสำเร็จเสร็จเรียบร้อยแล้ว คนเยอรมันจะแสดงความเป็นมิตร เช่น พูดชวนไปทานกาแฟ เป็นต้น นั่นแสดงว่าเขาเปิดใจมาให้เราเป็นมิตรกับเขาแล้ว

20. ไม่ต้องกังวลถ้าคนเยอรมันไม่พูดชมซึ่งหน้า แต่เขาจะช่วยเราในเวลาคับขัน

คนเยอรมันเวลาชื่นชมผลงานของใครจะไม่พูดออกมาตรงๆ ว่าชอบ แต่จะแสดงออกว่าชอบคนๆ นี้โดยการหยิบยื่นช่วยเหลือให้ในยามคับขัน ดังนั้นไม่ต้องคาดหวังว่าจะได้คำพูดหวาน ๆ จากคนเยอรมัน แต่พวกเขากลับสามารถพึ่งพาได้อย่างดียิ่งเมื่อเกิดเรื่องร้ายแรงที่เราจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือ แต่ถ้าอยากรู้จากปากของเขาว่าเขาชอบงานของเราไหม ให้เอ่ยชมงานของเขาก่อน แล้วเขาจะเปิดใจพูดถึงงานเราบ้าง

ที่มา tourismlogistics.com/

ภาพจาก : แนะนำเส้นทางท่องเที่ยว www.raileuropeconnexion.com

เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ สำหรับผู้ที่จะไปใช้ชีวิตที่เยอรมนี (ระยะยาว)