วันนี้เราจะพาไปชม 15 หมู่บ้านสวยทั่วโลก กัน! ซึ่งแต่ละที่นั้นถือว่าสวยที่สุดของแต่ละประเทศ ทั้งความงามของธรรมชาติ บ้านเรือน อีกทั้งยังเป็นมรดกโลกอีกด้วย และในปัจจุบันก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
อัลบั้มภาพ 19 ภาพ
15 หมู่บ้านสวยทั่วโลก งดงามเหมือนต้องมนต์สะกด!
1. Bibury, England
Bibury หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในแคว้น Gloucestershire , Cotswolds ขนานนามว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยงามที่สุดของประเทศอังกฤษ และเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในโลก หากใครได้มาที่นี่จะรู้สึกเหมือนต้องสมต์สะกด มีบ้านหลังเก่าๆ ตั้งอยู่เรียงแถว รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ต้นไม้ใบหญ้าสีเขียว บรรยากาศร่มรื่นและเงียบสงบ รู้สึกและสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเมืองผู้ดีเก่า อีกทั้งยังมีฝูงสัตว์นก ปลา ในลำธารไหลเย็น.. เหมือนได้ใช้ชีวิตแบบเต็มที่โดยไม่ต้องรีบร้อนเหมือนอยู๋ในเมืองใหญ่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอมฮิตที่ผู้คนชอบมามากที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว
อ่านเพิ่มเติมที่ : ครั้งหนึ่งคนเดียว ที่ “Bibury” หมู่บ้านที่สวยที่สุดในอังกฤษ
…
2. Smögen Village, Sweden

หมู่บ้านชาวประมงดั้งเดิม ตั้งอยู่บนเกาะ Smögen ชายฝั่งทะเลตะวันตกที่สวยงามแห่งหนึ่งของประเทศสวีเดน อีกทั้งยังเป็นท่าเรือประมง ท่าเรือยอร์จ ผู้คนนิยมเดินทางมาพักผ่อน ท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อน ที่นี่จะมีบ้านพักมีสไตล์โดดเด่น ก็คือ สร้างด้วยไม้ และแต่ละหลังจะทาด้วยสีสันสดใส ตั้งอยู๋ตามแนวชายฝั่ง ถือเป็นมนต์เสน่ห์ที่น่ามาสัมผัสไม่ว่าจะช่วงฤดูไหนก็ตาม
…
3. Najac, France


Najac เป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดในประเทศฝรั่งเศส หมู่บ้านเก่าแก่ที่สร้างขึ้นไปตามแนวภูเขา เคยใช้ที่แห่งนี้เป็นจุดทางยุทธศาสตร์ ในอดีตมีความเจริญรุ่งเรืองและเป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ หากมองขึ้นไปยังด้านบนยอดก็จะเห็นป้อมปราการเก่าตั้งอยู่ และจากบนนั้นสามารถมองเห็นวิวเมืมองได้แบบ 360 องศา ตามทางเดินก็จะได้พบกับบ้านเรือนเก่า สงบร่มรื่น ในช่วงฤดูหนาวจะพบผู้คนในแถบนี้น้อยมากๆ ไม่ถึง 100 คน ซึ่งแต่ต่างจากช่วงหน้าร้อนที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางกันมามากมาย ไม่ขาดสาย
…
4. Hallstatt, Austria
ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) เมืองริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก และยังเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศออสเตรีย (Austria) โดยเมืองฮัลล์สตัทท์ ตั้งอยู่ในรัฐอัปเปอร์ออสเตรีย (Upper Austria)
ความโดดเด่นของเมืองนั้น สิ่งแรกที่นักท่องเที่ยวจะสัมผัสได้ก็คือความเป็นเมืองชนบทเล็กๆ ที่มีอากาศแสนบริสุทธิ์ เหมาะอย่างยิ่งที่จะเดินทางมาพักผ่อนตากอากาศ และชมทัศนียภาพสวยๆ ของตัวเมืองที่ถูกโอบล้มไปด้วยทะเลสาบและเทือกเขาสูงตระหง่าน
อ่านเพิ่มเติม : ทำความรู้จัก เมือง ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt)
…
5. Colmar, France

เมืองกอลมาร์ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส เป็นเมืองหลวงของโอ-แร็ง, อาลซัส กอลมาร์เป็นบ้านเกิดของจิตรกรและช่างแกะพิมพ์มาร์ติน โชนเกาเออร์ และประติมากรเฟรเดริก โอกุสต์ บาร์ตอลดีผู้ออกแบบอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ กอลมาร์มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้ยังคงเป็นเมืองที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมและบรรยกาศของเมืองโบราณ ในตัวเมืองเก่าก็มีพิพิธภัณฑ์ คริสต์ศาสนสถาน และร้านค้าและที่อยู่อาศัยที่คงสภาพเหมือนเมืองในยุคกลาง
…
6. Reine, Norway

Reine หมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในประเทศนอร์เวย์ เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่หลายคนเรียกกันว่า “จิตวิญญาณแห่งนอร์เวย์” อีกทั้งยังได้รับการขนานนามว่าเป็นสถานที่โรแมนติคที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย ตั้งอยู่ห่างจากออสโลประมาณ 1,300 กิโลเมตร รอบเกาะรายล้อมไปด้วยมหาสมุทะแอตแลนติกและทะเลนอร์วีเจียน สมัยก่อนผู้คนส่วนใหญ่จะทำอาชีพจับปลา จนในปรัจจุบันก็ยังคงทำอยู่ เพื่อเป็นการอนุรักษ์วิถีชีวิตแบบดั้งเดิม อีกทั้งบรรยากาศของที่นี้แสนสงบ ..
…
7. Albarracín, Spain

Albarracín (อัลบาร์ราซิน) เป็นหมู่บ้านยุคกลางตั้งอยู่บนภูเขา ทาง
…
8. Cong, Ireland

Cong เป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไอร์แลนด์สำหรับการตกปลา และในเรื่องประวัติศาสตร์ ที่แห่งนี้รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่เงียบสงบ ที่ทำให้ผ่อนคลายในช่วงในพักผ่อนได้ดีที่สุด บริเวณใกล้เคียงก็มีโรงเรียน, พระราชวัง, พิพิธภัณฑ์ ที่มีชื่อเสียงให้เดินชม
…
9. Brendan’s Adventures


เมืองกรูแยร์ (Gruyeres) ตั้งอยู่ในรัฐฟรีบูร์ (Fribourg) เป็นเมืองเล็กๆ ที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำชีส และเป็นต้นกำเนิดของชีสกรูแยร์ ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายยุคเก่า และบ้านเรือนยังคงสภาพแบบสถาปัตยกรรมยุคกลาง ในเมืองแห่งนี้เราสามารถสนุกไปกับการเดินเล่น ชมความงามของตึกรางบ้างช่อง วิถีชีวิตดั้งเดิม เดินชมปราสาทและป้อมปราการทอดยาวที่สามารถมองเห็นวิวสวยๆ ของเมืองได้แบบพาโนรามา ร้านค้า ดนตรี และโรงงานชีสแสนอร่อย
…
10. Bled, Slovenia


เบล็ด (Bled) หนึ่งในสถานที่ที่โรแมนติคที่สุดในโลก เป็นเมืองที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาป รายล้อมด้วยหุบเขาจูเลียนแอลป์ (Julian Alps) ซึ่งบนเกาะกลางนั้นเป็นที่ตั้งของของโบสถ์พระแม่มารี (Assumption of Mary) หรือโบสถ์อัสสัมชัน (Assumption of Mary Pilgrimage Church) สร้างในศตวรรษที่ 11 ในศิลปะแบบบาโรก ประดับตกแต่งด้วยจิตรกรรมฝาผนังที่มีการบำรุงรักษาเป็นอย่างดี
นอกจากนี้แล้วยังมีอาคารขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ด้านหลังโบสถ์ ที่ถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับงานแต่งงานตามประเพณี เล่ากันว่าหากคู่สมรสคู่ใดได้มาโยกระฆังในโบสถ์จะมีชีวิตคู่ยืนยาว โดยเจ้าบ่าวจะต้องอุ้มเจ้าสาวขึ้นบันไดมาจากท่าเรือจนถึงประตูโบสถ์
…
11. Manarola, Italy

มานาโรล่า (Manarola) หนึ่งในเมืองมรดกโลกของประเทศอิตาลี เป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ โดยบ้านเรือนจะปลูกตามไหล่เขา ทาด้วยสีสันสดใส ด้านล่างเป็นหน้าผาที่มองเห็นทะเลได้สุดลูกหูลูกตา เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เราสามารถเดินชมบ้านเรือน วิถีชีวิตแบบเรียบง่ายได้ตลอดทางเดิน ที่ฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่น่าถึงดูด และกิจกรรมสุดฮิตของที่นี่ก็คือการปืนเขา
…
12. Pučiśća, Croatia

Pučiśća หมู่บ้านที่สวยที่สุดในประเทศโครเอเชีย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตสำหรับช่วงฤดูร้อน ตั้งอยู่บนเกาะ Brač เป็นเมืองที่เงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน มีประชากรอาศัยอยู่เพียง 2000 กว่าคนเท่านั้น
…
13. Telč, Czech Republic

เต้วช์ (Telč) เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีความงดงามมากแห่งหนึ่งของสาธารณรัฐเชค สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 โดยพื้นที่ของเมืองเต้วช์จะล้อมรอบด้วยทะเลสาบทั้ง 3 ด้าน อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสถานที่มรดกโลกจากยูเนสโก บ้านในนี้มีเพียง 71 หลัง ก่อสร้างด้วยอิฐปูน แต่งเติมสีสันสดใส ซึ่งแต่เดิมสร้างด้วยไม้แต่เกิดเหตุไฟไหม้ เมื่อสร้างใหม่จึงก้อด้วยหิน-ปูนแทน ในสไตล์เรเนสซอง