เที่ยวเกาะริชิริ-เกาะเรบุน
จุดเหนือสุดฝั่งตะวันตก ประเทศญี่ปุ่น
วันนี้เราจะพาทุกท่านไปยืนอยู่จุดเหนือสุด ทางฝั่งตะวันตกของประเทศญี่ปุ่นกัน……
ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาหลายครั้งหลายครา แต่ครั้งนี้พิเศษกว่าทุกครั้งตรงที่ เราจะได้ไปยืนอยู่จุดเหนือสุดทางฝั่งตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น ถ้าเทียบกับประเทศไทยก็คงจะคล้ายๆ จุดเหนือสุดแดนสยามบ้านเรา แต่ที่ญี่ปุ่นคือ เกาะเรบุน (Rebun) ซึ่งจุดเหนือสุดคือ Cape Sukoton (แหลมสุโคตง) นั่นเอง
ไหนๆ ก็ได้ข้ามมาเที่ยวยังเกาะริชิริแล้ว เราจึงจะข้ามไปเที่ยวเกาะเรบุน (Rebun) ด้วย ซึ่งการเดินทางเรานั่งเครื่องบินมาลงที่เกาะฮอกไกโด สนามบิน นิว ชิโตเสะ (New Chitose) และต่อเครื่องบินในประเทศมาลงสนามบินวักกะไน (Wakkanai) จากนั้นก็นั่งรถบัสเพื่อมายังท่าเรือ โอชิโดมาริ (Oshidomari Port) เพื่อไปยังเกาะริชิริ หลังจากเที่ยวประมาณเกือบ 1 วันบนเกาะนี้แล้ว ก็ข้ามไปยังท่าเรือ คะฟุกะ (Kafuka Port) เพื่อไปพักค้างคืนที่เกาะเรบุน เดินทางไม่ยาก พร้อม!!
BKK >> เกาะ ฮอกไกโด >> เมือง Wakkanai >>ข้ามเรือเฟอรี่ไปเกาะ Rishiri และ เกาะ Rebun
วักกะไน –> เกาะ Rishiri : ระยะทาง 52 กิโลเมตร
วักกะไน –> เกาะ Rebun : ระยะทาง 59 กิโลเมตร
เกาะ Rishiri –> เกาะ Rebun : ระยะทาง 19 กิโลเมตร
ซึ่งเดินทางโดยเรือเฟอรี่ลำใหญ่ Heart Land Ferry
ท่องเที่ยวบน เกาะริชิริ (Rishiri)
แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเกาะนี้ คือ ความเป็นธรรมชาติ ความสดของอาหาร และความใจดียิ้มแย้มของผู้คน
เกาะริชิริ (Rishiri) เป็นเกาะที่เกิดจากภูเขาไฟที่ระเบิดแล้วกลายเป็นเกาะ ซึ่งเกาะแห่งนี้มีเมืองใหญ่ๆ อยู่ถึง 2 อำเภอ ประชากรทั้งเกาะประมาณ 5,000 คน อาชีพหลักของคนบนเกาะคือ ทำประมง ได้แก่ จับปลา และ เก็บหอยเม่น เนื่องด้วยเกาะนี้มีความเป็นธรรมชาติสูง และประชากรไม่เยอะ จึงไม่มีพวกร้านสะดวกซื้อเหมือนในเมืองใหญ่ๆ แต่มีร้านขายของชำทั่วไปอยู่ 3 ร้าน และมีร้านขายยาเพียง 1 ร้านเท่านั้น
เมื่อมาเที่ยวเกาะริชิริแล้ว แหล่งท่องเที่ยวแนะนำและห้ามพลาด ตามไปกันเลย
ตามล่าหาหอยเม่น เนื้อหวาน นุ่ม ละมุนลิ้น
ใครที่ชอบทานหอยเม่น แนะนำให้มาที่เกาะริชิริ เพราะเกาะแห่งนี้ อาชีพหลักของชาวบ้านที่นี่คือ เก็บหอยเม่นขาย ได้ข่าวว่ารายได้ดีกว่ามนุษย์เงินเดือนซะอีก หอยเม่นที่เกาะแห่งนี้จะมีอยู่ 2 พันธุ์คือ บับฟึ่น และ มุราซากิ ลักษณะจะเป็นตัวกลมๆ เล็กๆ ขนแหลมๆ จะไม่เยอะมาก แต่ที่เด็ดกว่านั้นคือ ทั้ง 2 ชนิดขึ้นชื่อว่า “อร่อยมากและแพงมาก” เนื้อหอยเป็นสีส้มและไม่เยอะมาก และหอยเม่นที่เราจะไปเก็บ และนำมาทานก็คือ พันธุ์มุราซากิ ซึ่งเนื้อหวานมาก ฉ่ำ ได้กลิ่นของน้ำทะเลหน่อยๆ แต่ไม่คาวเลย ใครที่ได้มานั้นไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง โดยเฉพาะที่ UNI HUNTING TOUR ( Kamui Kaigan Park)


วิธีการแกะหอยเม่น:
- เมื่อเก็บมาแล้ว จะนำหอยเม่นมากระเทาะเปลือกออก ซึ่งเค้าจะมีที่แกะให้ ลักษณะคล้ายๆ คีม ตั้งคีมให้ตรง นำปากครีมเจาะลงตรงกลางหลังหอยเม่น และกดลงไปประมาณ 1 เซน หรือ จนได้ยินเสียงเปลือกหอยเม่นแตกออกจากกัน จากนั้นง้างปากคีมออก เท่านี้ เปลือกหอยเม่นก็จะแตกออกมา
- แยกเฉพาะเนื้อหอยเม่นสีส้มออกมา แล้วนำไปล้างน้ำเอาเศษผง เศษเปลือกหอยออก เท่านี้ก็หม่ำสดๆ ได้เลย!


แผนที่ UNI HUNTING TOUR ( Kamui Kaigan Park)
**************************************************************
ให้อาหารแมวน้ำที่ (Senpoushimisaki Park)
บริเวณแห่งนี้ เคยเป็นภูเขาไฟมาก่อน ดังนั้นจึงยังเห็นร่องรอยของลาวาที่แข็งตัวแล้ว กลายเป็นก้อนหินดำๆ อยู่โดยรอบ กิจกรรมในครั้งนี้คือให้อาหารเจ้าแมวน้ำที่เค้าเลี้ยงไว้ น่ารักมากๆ


แผนที่ Senpoushimisaki Park
**************************************************************
จุดชมวิว ออตตาโตมารินูมา พอนด์ (Otatomarinuma Pond)
ที่สวนแห่งนี้เราสามารถมองเห็นภูเขาริชิริ ได้อย่างจังอีกมุมหนึ่ง ว่าแต่ภูเขาริชิริคือที่ไหนกัน ถ้าพูดให้จำง่ายๆ ก็คือ รูปภูเขาที่อยู่บนกล่องขนมยอดฮิตอย่าง “Shiroi Koibito” นั่นเอง เป็นขนมยอดฮิตที่ซื้อติดไม้ติดมือกันสุดๆ เพราะอร่อย เข้มข้น หวานมัน แต่วันที่เราไปฝนตกหนักจึงมองไม่เห็นภูเขาริชิริ


แผนที่ Otatomarinuma Pond
**************************************************************
ท่องเที่ยวบนเกาะ เรบุน (Rebun)
เกาะเรบุน (Rebun) เป็นอีกหนึ่งเกาะที่แยกออกมาจากเกาะฮอกไกโด ซึ่งอยู่ห่างจากฮอกไกโดประมาณ 59 กิโลเมตร และห่างจากเกาะริชิริ ประมาณ 19 กิโลเมตร การเดินทางจะต้องโดยสารทางเรือเป็นหลัก ใครที่เดินทางมายังเกาะเรบุน ท่าเรือของเกาะแห่งนี้ชื่อว่า “กาฟุกะ พอร์ท” (Kafuka Port)
นอกจากนี้เกาะเรบุน มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “เกาะดอกไม้” เพราะอุดมไปด้วยพันธุ์ไม้แถบภูเขาสูงนานาชนิด และยังเป็นแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่มีดอก “เระบุน-อะสึโมะริ-โซ” ดอกไม้นี้มีลักษณะเป็นถุงสีขาว จัดอยู่ในจำพวกกล้วยไม้ประเภทรองเท้านารีนี้ เป็นพันธุ์ไม้ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ แถมเจ้าดอกนี้ยังได้เป็นมาสคอตประจำเกาะด้วย ชื่อว่า อะสึมง (Atsumon)
แผนที่ ท่าเรือ Kafuka Port
เมื่อนั่งเรือมาจนถึงเกาะเรบุนแล้ว แหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดที่เราอยากจะแนะนำ ไปตามรอยกันเลยจ้า
หลงใหลในดินแดนมหัศจรรย์ที่
แหลมสุไก (Cape Sukai)
เมื่อเดินมาถึงที่แห่งนี้ เราแทบจะหยุดหายใจกับธรรมชาติและวิวที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า สวยเกินคำบรรยายจริงๆ แหลมสุไก (Cape Sukai) หรือ เรานิยมเรียกง่ายๆว่า Cape Sky เพราะความงดงามของที่แห่งนี้นั่นเอง การเดินขึ้นมาก็ไม่ยาก และไม่ชัน ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาทีเท่านั้น ตามทางก็จะมีดอกไม้ต้นหญ้าให้เชยชมสองข้างทาง น้ำทะเลที่นี่จะมีสีมรกตไปจนถึงสีน้ำเงินเข้ม ลักษณะของแหลมเป็นเหมือนปากอ่าว จึงทำให้เราชมวิว สัมผัสธรรมชาติได้อย่างใกล้ๆ
แผนที่ Cape Sukai
**************************************************************
แหลมสุโคตง (Cape Sukoton)
จุดเหนือสุดทางฝั่งตะวันตก ของประเทศญี่ปุ่น
แหลมสุโคตง (Sukoton) เป็นอีกหนึ่งจุดที่เป็นอุทยานแห่งชาติ และที่สำคัญคือ เป็นจุดเหนือสุดทางฝั่งตะวันตก ของประเทศญี่ปุ่น จากจุดนี้มองไปจะมีเกาะเล็กๆ อยู่ด้านหน้า เราเรียกว่าเกาะแมวน้ำ หากโชคดีจะมีฝูงแมวน้ำพลุบๆ โผล่ๆ ให้เห็นบริเวณนี้ ไฮไลท์ที่ต้องทำเมื่อมาถึงแหลมสุโคตงแล้วก็คือ การทานไอศกรีมคอมบุ หรือ ไอศกรีมสาหร่าย นั่นเอง เพราะเกาะ เรบุน มีชื่อเสียงด้านสาหร่ายคอมบุเป็นอย่างมาก ขึ้นชื่อว่าของอร่อยและราคาสูงอีกด้วย



แผนที่ Cape Sukoton
**************************************************************
Kitano Kanaria Park (สวน คิตาโน๊ะ คานาเรีย)
เป็นอีกหนึ่งวิวที่จะได้เห็นภูเขาริชิริฟูจิ (Rishirifuji) แบบเต็มๆ แต่วันที่เรามามีหมอกค่อนข้างเยอะ จึงเห็นไม่ชัดเท่าไหร่ และที่สวน Kitano Kanaria นี้ ยังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนชั้นประถม ที่เคยเป็นหนึ่งในฉากถ่ายหนังเรื่อง Kita-no-kanaria-tachi ของญี่ปุ่นอีกด้วย ที่นี่วิวสวยมากและอากาศก็ดีมากๆ


แผนที่ Kitano Kanaria Park
**************************************************************
ล่องเรือ “Heart Land Ferry” ข้ามเกาะ ชมวิวท้องทะเลญี่ปุ่น
สำหรับการเดินทางท่องเที่ยว ข้ามมาจากเมืองวักกะไน (Wakkanai) เกาะฮอกไกโด มาเที่ยวที่เกาะริชิริ และเกาะเรบุนนั้น จะต้องเดินทางโดยเรือเฟอรี่ลำใหญ่ที่ชื่อว่า ฮาร์ท แลนด์ เฟอรี่ (Heart Land Ferry) มีทั้งหมด 3 ลำด้วยกัน วิ่งรับส่งผู้โดยสารทุกวัน และเรือ 1 ลำ บรรจุผู้โดยสารได้ 600 คน ผู้คนเดินทางเยอะสุดจะอยู่แค่ 3 เดือน คือ มิถุนายน – สิงหาคม เนื่องจากทั้ง 2 เกาะเป็นช่วงที่ดอกไม้กำลังเบ่งบาน เป็นช่วงที่สวยงามที่สุด รวมไปถึงคนที่ชอบเดินป่า ผู้คนจึงนิยมเดินทางมาเที่ยวเยอะในช่วงนั้น
ด้านในเรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีที่นั่งให้เลือกหลากหมาย รวมไปถึงมีอาหารและขนมต่างๆจำหน่าย โดยเฉพาะไอศกรีมรสเกลือ และนมฮอกไกโด ถือว่าเป็นไฮไลท์ที่ห้ามพลาด เมื่อขึ้นมาบนเรือแล้วต้องซื้อ ไม่ซื้อไม่ทานเหมือนมาไม่ถึงจริงๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นรสชาติ ความเข้มข้น หวาน มัน ของไอศกรีมรสเกลือ และ นมฮอกไกโดนั้นถือว่าเป็นขั้นสุดจริงๆ และห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง



การเดินทางจากท่าเรือเมืองวักกะไน ไปยังเกาะริชิริ และ เกาะเรบุนนั้น ค่าโดยสารประมาณ 5,000 เยน โดยบนเรือจะมีที่นั่งให้เลือก 2 แบบ คือ
ที่นั่งชั้น 1 : ที่นั่งเฟิส คลาส (First Class) เบาะนั่งใหญ่นั่งสบาย ปรับเอนได้, มีที่เสียบปลั๊กไฟพร้อมฟรีไวไฟ, มีห้องรับรองสำหรับที่นั่งเฟิสคลาส ทำให้สงบ ไม่มีเสียงรบกวน นั่งชมวิวไปเพลินมากๆ
ที่นั่งชั้น 2: ที่นั่งชั้นสอง เป็นห้องกว้างๆ เลือกนั่ง หรือ นอนยืดขาได้ตามใจชอบ
ใครที่อยากมาท่องเที่ยวแบบธรรมชาติแบบนี้ รับรองว่าติดใจแน่นอนเพราะธรรมชาติเป็นสิ่งสวยงาม แถมอากาศดีมากๆ มาสูดอากาศเกาะริชิริ และ เกาะเรบุนให้ฉุ่มปอดกันได้เลย!
แผนที่ท่าเรือเกาะริชิริ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
อ่านรีวิว ท่องเที่ยวเมืองวักกะไน (Wakkanai)
สนใจเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://th.visit-hokkaido.jp/
ขอขอบคุณผู้สนับสนุนการเดินทาง : องค์กรการท่องเที่ยวฮอกไกโด