เรือไวกิ้งโบราณ ที่ทำการกู้ขึ้นมา ได้ทำการซ่อมแซมจนเรือบางลำเกือบอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
เดนมาร์ก กระทบไหล่บรรพบุรุษไวกิ้ง
เดนมาร์ก เป็นหนึ่งประเทศในกลุ่มนอร์ดิก ที่สืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษนักรบชาวไวกิ้ง ซึ่งแน่นอนว่า ต้องมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และซากทางโบราณคดีมากมาย ที่ยังหลงเหลือไว้ในชนรุ่นหลังได้ตามหาชาติพันธุ์ ซึ่งก็คงไม่ต้องไปที่ไหนไกล เพราะการเดินเข้าพิพิธภัณฑ์นี่แหละ จะสามารถตอบโจทย์ความเป็นมาตั้งแต่ครั้งอดีตได้ดีที่สุด ดังนั้น สาวเท้าตามกันมาให้ไวว่อง เพราะจะขอนำพาทุกคนไปลงเรือลำเดียวกัน
Viking Ship Museum (Roskilde) พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง ตั้งอยู่ที่เมืองโคเปนเฮเกน ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของประเทศเดนมาร์ก ที่จัดแสดงเรือ และเส้นทางการเดินเรือ ในยุคก่อนประวัติศาสตร์จนมาถึงยุคกลาง ของบรรพบุรุษชาวไวกิ้ง โดยมีการจัดแสดงเรือไวกิ้งในหลากหลายลักษณะ ขึ้นอยู่กับการใช้งานในยุคนั้น เช่น เรือสินค้า เรือรบ ล้วนแล้วแต่เป็นซากเรือโบราณทั้งสิ้น ซึ่งบางลำก็ได้มีการกู้ซากขึ้นมาได้จากใต้ท้องทะเลลึก เนื่องจากในสมัยนั้น ชาวไวกิ้งได้มีการจมเรือไว้ใต้ท้องทะเล เพื่อเป็นการป้องกันการโจมตีของข้าศึกทางน่านน้ำทะเลด้วย โดยเรือที่มีขนาดยาวที่สุดที่ทำการค้นพบได้ มีขนาด 36 เมตร และเรือลำล่าสุดที่ได้มีการค้นพบและกู้ซากขึ้นมา คือเมื่อปี ค.ศ.1990
เรือไวกิ้งโบราณแต่ละลำที่ได้ทำการกู้ซากขึ้นมา ล้วนอยู่ในสภาพปรักหักพัง แต่ทางการเดนมาร์กก็ได้ทำการบูรณะ ซ่อมแซม และบำรุงรักษาให้คงสภาพเดิมไว้ได้มากที่สุด จนเรือบางลำเกือบอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
ใน พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง มีการจัดแสดงวัตถุและซากเรือโบราณอยู่สองส่วน คือภายในและภายนอกอาคาร ซึ่งภายนอกอาคารนั้น จะเป็นการจำลองการขนถ่ายสินค้า หรือการเทียบเรือ ตลอดจนกระทั่งพื้นที่ที่ทำการบูรณะ ซ่อมแซม สภาพเรือที่เสียหาย
ภายในพิพิธภัณฑ์มีคำบรรยายทั้งภาษาเดนมาร์ก เยอรมัน และอังกฤษ สามารถเดินอ่าน เดินชม ลัดเลาะกันได้รอบพิพิธภัณฑ์ โดยที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ออกจากพิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้งได้ไม่นาน ก็ขอตามติดด้วยการเข้าปราสาทต่อเลยละกัน แต่ที่นี่ไม่ใช่แค่ปราสาทธรรมดา เพราะปราสาทแห่งนี้ได้ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ด้วย ก็เลยต้องไปตามหาชาติพันธุ์ชาวเดนนิชกันต่อที่
Rosenborg Castle (ปราสาทโรเซนบอร์ก) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโคเปนเฮเกน และเป็นอีกหนึ่งปราสาทในสมัยของพระเจ้าคริสต์เตียนที่4 ตั้งแต่ศตวรรษที่17 ซึ่งแต่เดิมถูกสร้างเป็นศาลาพักร้อน ต่อมาได้ใช้เป็นที่พำนักของกษัตริย์ และเชื้อพระวงศ์ของเดนมาร์กในกรณีฉุกเฉิน คือเมื่อครั้งแรกที่พระราชวังคริสเตียนบอร์กถูกเผาในปีค.ศ.1794 และครั้งที่สองค.ศ.1801 เมื่อโคเปนเฮเกนถูกโจมตีจากอังกฤษ
สถาปัตยกรรมของปราสาทโรเซนบอร์ก เป็นแบบเรอเนซองค์ ภายในตกแต่งด้วยศิลปะ และวัตถุที่ล้ำค่า มีมากมายหลายห้อง ซึ่งปัจจุบันได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวผู้สนใจได้เข้าชม มีทั้งเก้าอี้ที่ใช้ในพระราชพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์ ราชบัลลังก์ มงกุฏ ตลอดจนอาวุธยุทโธปกรณ์ และเสื้อเกราะของอัศวิน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นของล้ำค่าในศตวรรษที่17 ทั้งสิ้น
ออกจากปราสาทมุ่งหน้าตรงดิ่งไปที่ย่านการค้าเพื่อยืดเส้นยืดสาย พร้อมละลายทรัพย์กันบ้างที่ย่านนี้เลย
Nyhavn (นูฮาวน์) คือแหล่งบรรเทิงย่านริมน้ำของเมืองโคเปนเฮเกน ซึ่งเป็นย่านค้าขายและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ หากอยากจะมาสัมผัสชีวิต และกิจกรรมในวันว่างของชาวเดนนิชก็ต้องที่นี่เลย
เพราะ มีทั้งร้านค้า ภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ทอดตัวยาวสองฝั่งแม่น้ำ สถาปัตยกรรมบ้านเรือนสีสันฉูดฉาดสวยงาม มีทั้งรูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบเก่า และแบบใหม่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว
อีกทั้ง ในลำน้ำยังเป็นที่เทียบเรือ ทั้งเรือใบ เรือสินค้า ที่พร้อมหน้ามาทอดสมอรอนักท่องเที่ยวมาแชะภาพกันได้ตามอัธยาศรัย และไม่ไกลกันนั้น หากเดินเลียบๆ เคียงๆ มาเรื่อยๆ ก็จะได้พบกับจุดท่องเที่ยวที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศเดนมาร์ก คือ “เงือกน้อย”
Little Mermaid (เงือกน้อย) หากติดตามกันมาตั้งแต่เดนมาร์ตอนแรก ที่ได้กล่าวแนะนำตัวไว้ว่า เป็นถิ่นกำเนิดของเงือกน้อยผจญภัย จากนิทานที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกของ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน ตอนนี้เธอได้อยู่ตรงหน้าเราแล้ว เพราะเธอเป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองโคเปนเฮเกน ที่ตั้งอยู่ริมอ่าว นักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศแทบทุกคนจะต้องมายืนแชะภาพกับเธอ ประหนึ่งว่าถ้าไม่มีรูปคู่เธอ ก็เปรียบเสมือนมาไม่ถึงเดนมาร์กประมาณนั้น แต่สีหน้าเธอดูเศร้าสร้อย เอาแต่นั่งเฝ้าคอยเจ้าชายคนรักดั่งเนื้อเรื่องในนิทานมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ ไม่รู้ แต่ที่รู้ตอนนี้เธอมีน้องสาวด้วย ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกันนัก แต่น้องสาวเธอดูจะเป็นสาวสมัยใหม่สมกับยุคปัจจุบัน เพราะประติมากรจงใจที่จะสร้างเธอขึ้นมาเพื่อรำลึกถึง ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน ผู้แต่งนิทานเรื่องนี้ โดยมีชื่อเสียงไปทั่วโลก จนทำให้เดนมาร์กเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป
และแล้วการเดินทางในประเทศเดนมาร์กก็สิ้นสุด ด้วยความตื่นเต้นและดีใจที่ได้มาพบกับเงือกน้อยในตอนสุดท้ายพอดี แม้ว่าเธอผจญภัยมาแสนนาน จนสามารถค้นพบจุดที่จะมานั่งรอเจ้าชายของเธอ ก็ขอเอาใจช่วยให้เธอสมหวัง ส่วนตัวเราขอผจญภัยต่อไปในโลกกว้าง เพื่อตามหาเจ้าชายของเราเช่นกัน
เรื่องโดย Omyim
บทความน่าอ่านจาก http://www.emaginfo.com ร่วมกับ travel.mthai.com