เที่ยวโมนาโก ตอนที่ 1 แผ่นดินแห่งการเปลี่ยนผ่าน

Home / ท่องเที่ยวรอบโลก / เที่ยวโมนาโก ตอนที่ 1 แผ่นดินแห่งการเปลี่ยนผ่าน

โมนาโก เป็นประเทศเอกราชที่เล็กที่สุดเป็นอันดับสองของโลก มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุดในโลก

โมนาโก หรือราชรัฐโมนาโก คือ นครรัฐในยุโรปตะวันตกที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเป็นประเทศเอกราชที่เล็กที่สุดเป็นอันดับสองของโลก มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุดในโลก ประชากรส่วนใหญ่พูดภาษาฝรั่งเศส

เที่ยวโมนาโก ตอนที่ 1 แผ่นดินแห่งการเปลี่ยนผ่าน

โมนาโก1

ประวัติความเป็นมาของประเทศโมนาโกนั้นน่าสนใจตรงที่ กว่าจะกอบกู้แผ่นดินจนเป็นที่รู้จักต่อชาวโลกได้นั้น ใช้เวลาและการต่อสู้อยู่นานพอควร โดยเริ่มจากราชวงศ์กรีมัลดี ตั้งแต่ปีค.ศ. 1299 ที่บุกเข้ามายึดป้อมปราการโมนาโกได้สำเร็จ แต่ก็ครองประเทศโมนาโกอยู่ได้ไม่นานก็ถูกขับไล่ และเปลี่ยนถ่ายการครอบครองโดยกษัตริย์เรื่อยมาจนถึง เจ้าชายเรนิเยร์ที่ 3 ขึ้นครองราชเป็นประมุขแห่งโมนาโก ที่ทำให้ประเทศโมนาโกเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก เพราะการเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับ เกรซ เคลลี่ ดาราภาพยนต์สาวชาวอเมริกัน เมื่อปีค.ศ.1956 และทรงเป็นประมุขที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดของประเทศถึง 55 ปี

ถึงแม้โมนาโกจะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ก็มีดีกรีความงามของภูมิประเทศที่ไม่เป็นรองใคร ซึ่งสถานที่ที่น่าสนใจและจะดึงดูดให้ไปเยือนก่อนเป็นที่แรกก็คือ

โมนาโก2

Monaco Ville เป็นหนึ่งในเขตการปกครองของโมนาโก ตั้งอยู่บนแหลมหินที่ยื่นลงไปในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สันนิษฐานว่าเขตนี้ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงอาณานิคมที่ก่อตั้งขึ้นโดยชาวกรีก ในศตวรรษที่ 6 และได้ใช้เป็นป้อมปราการในช่วงศตวรรษที่ 13 เมื่อเวลาผ่านไป ป้อมปราการถูกพัฒนาให้การเป็นที่พำนักของพระเจ้าอัลเบิร์ตที่ 2 และเจ้าชายแห่งโมนาโก

แม้สถานที่แห่งนี้จะตั้งอยู่ใจกลางของเมืองโมนาโก เมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุดของโลก แต่ก็เป็นเขตพื้นที่ที่เงียบสงบ และทางรัฐบาลก็ให้ใช้แต่ยานพาหนะท้องถิ่นที่ได้รับอนุญาติเท่านั้น และบริเวณใกล้เคียง ก็ยังมีสถานที่ที่สำคัญอีกมากทั้ง โบสถ์ วิหาร พระราชวัง และพิพิธภัณฑ์ ซึ่งจะขอนำทางพาไปเข้าโบสถ์กันก่อนก็แล้วกันที่

โมนาโก3

Chapelle de la Misericorde หรือ โบสถ์แห่งความเมตตา สร้างขึ้นระหว่างปีค.ศ. 1747-1770 เป็นศิลปะแบบบาร็อค โดยสถาปนิกนามว่า Bernardo Vittone ภายในโบสถ์เน้นความโค้งเว้ารูปทรงไข่ วิจิตรงดงามด้วยงานจิตรกรรม และรูปปั้นแกะสลัก โดยสื่อถึงความรุ่งเรืองด้วยการใช้ทองในการตกแต่ง แต่ต่อมาในยุคปัจจุบัน บริเวณใกล้เคียงมีสิ่งปลูกสร้างขึ้นมากทั้ง สวนสาธารณะ และรถไฟใต้ดิน จึงทำให้เกิดผลกระทบกับโครงสร้างของตัวอาคาร จึงได้สั่งปิดโบสถ์แห่งนี้ป็นเวลาสองปี เพื่อการซ่อมแซมในส่วนที่ได้รับผลกระทบ แล้วจึงเปิดเพื่อใช้งานต่อ

โมนาโก4

นอกจากความวิจิตรภายในตัวโบสถ์แล้ว เครื่องใช้สักการะภายในโบสถ์ก็วิจิตรตระกานตาเช่นกัน อีกทั้งยังมีห้องสมุดที่รวบรวมหนังสือเก่าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไว้มากมาย

โมนาโก ถึงแม้จะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ก็มีสถานที่ที่สวยงามมากมาย ทั้งโบสถ์ วิหาร และพระราชวัง หากอยากรู้จักโมนาโกให้มากกว่านี้ ต้องตามกันมาที่ตอนต่อไป

เรื่องโดย Omyim

บทความน่าอ่านจาก http://www.emaginfo.com ร่วมกับ travel.mthai.com