Travel.mthai ได้มีโอกาสออกเดินทางทริป “เที่ยวเหนือ เที่ยวไหน เที่ยวไป ถีบไป กินไป @แพร่ น่าน อุตรดิตถ์” กับทาง ททท. เป็นทริปที่จะชวนเพื่อนๆ ปั่นจักรยานไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในจังหวัดแพร่ น่าน และอุตรดิตถ์ ระยะทางไม่ไกลกันมาก แถมยังได้แวะตามสถานที่ท่องเที่ยว วัดวาอาราม และแวะชิมของอร่อยเยอะแยะไปหมด เอาล่ะรอช้าอยู่ทำไม ตามมากันเลย ..
พาแอ่วเหนือ! ปั่นจักรยาน เที่ยวไป ถีบไป กินไป @น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ (ตอนที่ 1)
>> พาแอ่วเหนือ! ปั่นจักรยาน เที่ยวไป ถีบไป กินไป @น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ (ตอนที่ 2)
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า เป็นครั้งแรกที่ได้ปั่นจักรยาน เที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แบบนี้ ได้ทั้งความสนุก ประสบการณ์ใหม่ๆ และอิ่มพุงกางกันเลยทีเดียว ^^ เริ่มต้นด้วยการบินจาก สนามบินดอนเมือง ใช้เวลาชั่วโมงนิดๆ ก็มาถึงสนามบินน่านนคร จังหวัดน่าน
ก่อนที่เราลุยปั่นจักรยานนั้น เราขอเพิ่มพลังที่ร้านนี้ก่อน ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวสุราษฎร์ธานี สาขา จ.น่าน ที่นี่มีเมนูขายดี คือ สุดแสบหม้อไฟ หมู/เนื้อ ชิ้นใหญ่ต้มน้ำซุปรสชาติเข้มข้น เสริ์ฟพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ

และ สองใจลังเล หมู/เนื้อ อันนี้สำหรับคนที่เลือกไม่ได้ว่าจะกินลวกจิ้ม หรือ ก๋วยเตี๋ยวดี ทางร้านก็เลยจัดเป็นเซทมาให้แบบนี้เลย ทั้ง 2 อย่างราคาเพียง 150.- ถูกมาก! รสชาติอร่อยด้วย

ขอตบท้ายด้วย ของหวาน วุ้นกะทิมะพร้าวน้ำหอม รสชาติหวานมัน มีเนื้อมะพร้าว อร่อยมาก >,<
ตั้งอยู่ที่ : 43 (กาดน่าน) ชั้น 2 ถ.มหายศ ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน จังหวัดน่าน 55000
ร้านเปิดทุกวัน : 9.30-16.00 น.
เบอร์ติดต่อร้าน : 089-431-0031
อ่านเพิ่มเติม : สูตรเด็ดต้นตำรับ! ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวสุราษฎร์ธานี จังหวัดน่าน
หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว เราก็มาเริ่มเช็คเส้นทางการปั่นจักรยานของเรากันค่ะ ทาง ททท. ได้จัดเส้นทางปั่นจักรยานไว้ 6 เส้นทาง (จังหวัดละ 2 เส้นทาง) ในจังหวัดน่านก็จะมี 2 เส้นทาง คือ อ.เมืองน่าน และ อ.ปัว เราเลือก เส้นทาง อ.เมืองน่าน ค่ะ
เริ่มต้นที่ “ศูนย์บริการท่องเที่ยวเทศบาลเมืองน่าน” จุดประทับตราที่ 1 เพื่อนๆ จะได้หนังสือแผนที่ปั่นจักรยานหน้าตาแบบรูปภาพข้างบน เมื่อกางออกมาก็จะมีช่องให้ประทับตราเมื่อเราไปถึงยังจุดหมายตามเส้นทางที่เขียนไว้ เอาะล่ะ งั้นขอปั๊ม 1 ดวงที่นี่กันก่อนเลย ^^
หากเพื่อนๆ ได้มีโอกาสมาปั่นจักรยานที่ 3 จังหวัดนี้ ในโครงการ “เที่ยวเหนือ เที่ยวไหน เที่ยวไป ถีบไป @แพร่ น่าน อุตรดิตถ์” ทาง ททท. ก็มีของที่ระลึกให้ด้วย เป็น ชุดไฟกระพริบพรีเมี่ยม เอาไว้ติดจักรยานค่ะ แต่พิเศษเฉพาะ 100 คนแรกเท่านั้นนะ! ประทับตราให้ครบทุกจุดในเส้นทางที่เราเลือก จากนั้นก็ส่งไปรษณีย์มารับของที่ระลึกกันได้เลย
หากใครอยากทราบข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ที่พัก ร้านขายของที่ระลึก บริการรถรางนำเที่ยว หรือการเดินทางในเมืองน่านก็สามารถสอบถามกับพี่เจ้าหน้าที่ได้เลย พี่เขาใจดี ^^
ที่อยู่ : ถนนผากอง ตรงข้ามวัดภูมินทร์
เปิดบริการ : ทุกวัน 8.30-16.30 น.
พิกัด GPS : 18.775212, 100.771994
เบอร์โทรศัพท์ : 054-751-169
หลังจากที่เราได้ตราประทับดวงแรกแล้ว ก็ขอใช้เวลาปั่นจักรยานรอบๆ บริเวณนี้ซะหน่อย ศูนย์บริการท่องเที่ยวเทศบาลเมืองน่าน ตั้งอยู่บริเวณสี่แยก “ข่วงเมืองน่าน” มีวัดวาอาราม สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดน่านที่สวยงามหลายที่เลยค่ะ
ที่แรกที่เราไปนั้นคือ “วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร” ตั้งอยู่ตรงสี่แยก ตรงข้ามศูนย์บริการท่องเที่ยวเทศบาลเมืองน่าน วัดแห่งนี้เป็นวัดหลวงประจำเมืองน่าน และเจดีย์สีทองอร่ามที่เพื่อนๆ เห็นทางด้านหลังนั้น คือพระธาตุเจดีย์เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งปัจจุบันพระธาตุช้างค้ำได้รับการบูรณะ ซ่อมแซมและหุ้มด้วยแผ่นทองเหลืองทั้งองค์ สวยงามมากๆ ค่ะ
ลวดลายกนกของวัดนี้จะเหมือนลวดลายที่เสา ในวิหารวัดภูมินทร์ ภายในวัดประดิษฐานเจดีย์ช้างค้ำ ซึ่งเป็นศิลปะสมัยสุโขทัย โดยรอบเจดีย์มีรูปช้างปั้นเพียงครึ่งตัว
และถัดมาอีกโบสถ์ก็มีพระพุทธรูปทองคำปางลีลาคือพระพุทธนันทบุรีศรีศากยมุนี ซึ่งเจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่14 แห่งราชวงศ์ภูคาเป็นผู้สร้าง

บริวเณรอบโบสถ์ มีความสวยงาม และเงียบสงบ ร่มเย็น
กราบไหว้ที่วัดพระธาตุช้างค้ำเสร็จแล้ว เราก็ข้ามมาอีกฝั่งของสีแยกถนน ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติประจำจังหวัดน่าน” ที่นี่กว้างขวางและร่มรื่นมากค่ะ ภายในมีโบราณวัตถุที่สำคัญ จัดแสดงเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่และเครื่องใช้ของเผ่าชนต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดน่าน
บริเวณซุ้มต้นไม้นี้ถือเป็น Landmark ที่ใครมาท่องเที่ยวก็จะต้องแวะเวียนกันมาถ่ายรูป เช็คอิน! กันค่ะ
จากตรง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ก็สามารถมองเห็นพระธาตุเจดีย์สีทองอร่าม ของวัดช้างค้ำ
ไปลุยกันต่อเลย! ข้ามมาอีกฝากของสีแยก ก็จะมาถึงลาน “ข่วงเมืองน่าน” เป็นลานกว้าง เวลามีกิจกรรมหรืองานแสดงต่างๆ ส่วนมากก็จะจัดตรงบริเวณนี้ล่ะ
และมองตรงไปก็จะเป็นวัด “วัดภูมินทร์” วัดเก่าแก่ของจังหวัดน่านอีกวัดหนึ่งค่ะ
วัดภูมินทร์ เดิมชื่อ “วัดพรหมมินทร์” เป็นวัดหลวงเก่าแก่อีกที่หนึ่งของน่าน สร้างโดยเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ เมื่อปี พ.ศ. 2139 ต่อมาอีกประมาณ 300 ปี มีการบูรณะครั้งใหญ่ ในสมัยเจ้าอนันตวรฤทธิ์เดช เมื่อ พ.ศ.2410 (ปลายสมัยรัชกาลที่ 4) ใช้เวลาซ่อมแซมนานถึง 7 ปี
ความสวยแปลกของวัดภูมินทร์ ที่เป็นหนึ่งเดียว คือ เป็นวัดที่สร้างทรงจัตุรมุขหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่ดูคล้ายตั้งอยู่บนหลังพญานาคขนาดใหญ่ 2 ตัว แหนพระอุโบสถเทินไว้กลางลำตัว
ตรงใจกลางพระอุโบสถจัตุรมุข ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์ หันพรพักตร์ออกด้านประตูทั้งสี่ทิศหันเบื้องปฤษฏาค์ชนกัน ประดับนั่งบนฐานซุกชี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย (ขอบคุณข้อมูล http://www.nan.go.th/)

ภายในวัดมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง แสดงถึงเรื่องราววิถีชีวิต ตำนานพื้นบ้าน และความเป็นอยู่ของชาวน่านในอดีต ภาพที่เพื่อนๆ เห็นกันอยู่นี่เป็นภาพจิตรกรรม ปู่ม่านย่าม่าน หรือ หนุ่มกระซิบ แบบฉบับดั้งเดิมที่มีชื่อเสียงมาก หลายคนรู้จักกันในชื่อ ภาพกระซิบรักบันลือโลก และสิ่งนี้เหมือนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองน่านไปซะแล้ว ^^
แค่ที่แรกเราก็ได้ไหว้พระอิ่มบุญกันพอสมควรแล้ว ก็มาแวะกินน้ำให้ชื่นใจกันหน่อย ร้านชา TEA Phanaa มีชา กาแฟ ให้เลือกเยอะแยะเลยค่ะ เช่น ชาสตอเบอร์รี่ ชามัลเบอร์รี่ ชาส้ม ชาแอปเปิ้ล ชากีวี เป็นต้น ราคาแก้วละ 25.- บาท ปั่น 35.- ราคาไม่แพงแถมอร่อยชื่นใจ ^^ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้า ศูนย์บริการท่องเที่ยวเทศบาลเมืองน่าน
นั่งพักพอหายเหนื่อยแล้ว เรามาเริ่มออกเดินทาง ปั่นจักรยานตามเส้นทางเมืองน่านกัน! จุดหมายปลายทางต่อไป ที่เราต้องไปประทับตราก็คือ “วัดน้ำล้อม” จุดประทับตราที่ 2
“วัดน้ำล้อม” เป็นวัดเก่าแก่แบบล้านนาของจังหวัดน่าน ไม่มีหลักฐานว่าใครสร้าง แต่ชาวบ้านบอกเล่าต่อกันมาว่า เดิมที่แห่งนี้เป็นเกาะกลางหนองน้ำ ชาวบ้านได้ช่วยกันสร้างอารามเป็นเรือนไม้มุงด้วยหญ้าคากลางเกาะขึ้น แล้วนิมนต์พระสงฆ์จากวัดอื่นมาจำพรรษา หลังจากนั้นเจ้าผู้ครองนครน่านก็ได้สร้างวิหารถวาย เมื่อปี 2429
ที่วัดน้ำล้อมนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ของทางวัด ที่จัดแสดงพระพุทธรูปไม้และสมบัติเก่าแก่ของเมืองน่านเอาไว้จำนวนมาก
ไหว้พระ และเดินชมของเก่าแก่ ภายในพิพิธภัณฑ์ของทางวัด เสร็จเรียบร้อย เราก็มาให้หลวงพ่อประทับตราให้อีกหนึ่งดวง
วัดน้ำล้อม ตั้งอยู่ที่ : 33 หมู่บ้านน้ำล้อม ถ.วรนคร ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน
พิกัด GPS : 18.799660, 100.790156
เบอร์โทรศัพท์ : 054-710-682
อย่างที่บอกว่าเรา เที่ยวไป ถีบไป กินไป เราก็เดินทางไปยังจุดหมายต่อไปกันเลย เราเลือก “ร้านกาแฟ Mix Academic Cafe” จุดประทับตราที่ 3 นอกจากเค้กจะอร่อยแล้ว พ่อค้าหล่อด้วยนะเออ
พอมาถึงปุ๊บ ร้านกาแฟ Mix Academic Cafe น่ารักมาก ตกแต่งสไตล์ Loft แฝงความเป็น Academic ในตัว เรียบง่ายแต่เก๋ไก๋สไลเดอร์ .. แถมทางร้านมีบริการให้ยืมจักรยานปั่นฟรีด้วย
พ่อค้าหล่อที่บอกก็นี่เลย ออกมาบริการลูกค้ายิ้มแย้มฟันขาวจั๊ว! งั้นของประทับตรากันก่อนเลยนะ หลังจากนั้นค่อยไปหาของหวานอร่อยๆ ทานกันในร้านค่ะ ^^
พอเดินเข้ามาในร้าน บรรยากาศอบอุ่น ตกแต่งน่ารัก พ่อค้าก็ดี๊ดี! ที่นี่มีให้บริการทั้งเบเกอรี่ เมนูเครื่องดื่มต่างๆ ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน
วันนี้เราสั่ง Strawberry Roll และ Green Tea Roll มากินค่ะ เป็นเมนู Recommend จากพ่อค้าเลยล่ะ
รสชาติอร่อย ความหวานมันของครีมเข้ากันได้ดีกับสตอเบอร์รี่สด ส่วนชาเขียวก็สอดไส้ถั่วแดง เวรี่กู๊ด!
เมนูเครื่องดื่ม
ที่อยู่ : 9/2 ถนนเปรมประชาราษฎร์ อ.เมือง
เบอร์โทรศัพท์ : 080-451-0083
พิกัด GPS : 18.789627, 100.782675
กินอิ่ม พุงกางกันอีกรอบ ก็บอกลาพ่อค้า เอ้ย! ร้าน Mix Academic Cafe เพื่อปั่นจักรยานไปยังจุดหมายปลายทางสุดท้าย “โฮงเจ้าฟองคำ” ที่ประทับตราที่ 4 ที่สุดท้ายของเส้นทางนี้กันค่ะ
“โฮงเจ้าฟองคำ” เป็นเรือนไม้สองชั้น ประวัติของที่นี่ก็ เดิมเป็นคุ้มของเจ้าศรีบุญมา หลานเจ้ามหาวงศ์ เจ้าผู้ครองนครน่าน เป็นหนึ่งในเรือนเก่าแก่สวยงามที่ยังคงลักษณะตัวบ้านไว้แบบเดิม
ด้านบนโฮงจัดเป็นพิพิธภัณฑ์เครื่องมือเครื่องใช่เก่าแก่หาดูยากค่ะ
ส่วนชั้นล่าง ใต้ถุนเรือนนั้นก็จะมีการสาธิตผ้าทอพื้นเมือง ทอไหม
คุณแม่ประทับตราให้ เป็นจุดสุดท้าย ^^
เปิดให้เข้าชม : ฟรีทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 17.00 น. ยกเว้นวันจันทร์และอังคาร
ที่อยู่ : เลขที่ 8 ถนนสุมนเทวราช ซอย 2 บ้านพระเกิด ต.ในเวียง อ.เมือง
พิกัด GPS : 18.789618, 100.785608
เบอร์ติดต่อ : 054-710537
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ เราก็เริ่มเดินทางออกจาก โฮงเจ้าฟองคำ เพื่อไปยังที่พักกันต่อ แต่ระหว่างทางกลับนั้นผ่าน วัดพระเกิด เลยขอเข้าสักการะกันซะหน่อย อยู่เยื้องกับโฮงเจ้าฟองคำเพียงนิดเดียว พอไปถึงข้างในโบสถ์ เราก็เห็นกระดาษสาผืนยาวแขวนอยู่เต็มไปหมด สอบถามก็ได้รู้ว่า สิ่งนี้เรียกว่า “ตุง”
“ตุง” จะมีหลายชนิดแตกต่างตามงานบุญ สำหรับอันนี้เรียกว่า “ตุงค่าคิง” ทำถวายเพื่อสะเดาะเคราะห์ แก้ปีชง เสริมดวงชะตา งั้นเราขอทำบุญสะเดาะเคราะห์ซะเลย โดยวิธีการทำนั้นจะต้องหาตุงที่มีความสูงเท่ากับตัวเราเอง (ถ้าสูงกว่าก็ไม่เป็นไรค่ะ)
แล้วก็จะต้องนำ จมูก ปาก ตา และคิ้ว มาตกแต่งใบหน้า พร้อมติดกระดาษรูปสัตว์ ปีนักษัตรที่ตัวเองเกิดลงไปด้วยทั้งสองด้าน หลังจากนั้นก็นำมาถวายหลวงพ่อ เพื่อทำพิธีสวดสะเดาะเคราะห์ เสริมดวงชะตา และกรวดน้ำแผ่เมตตา ก็เสร็จเรียบร้อย ไปเข้าที่พักกันดีกว่า!
คืนนี้เราเข้าพักกันที่ เฮือนข่วงน่าน ที่พักขนาดเล็กน่ารัก มีห้องพัก 2 ชั้น ห้องสะอาด และสะดวกสบายต่อการเดินทางด้วย เพราะตั้งอยู่ใกล้สี่แยก ข่วงเมืองน่านเลยค่ะ ที่นี่มีบริการให้ยืมจักรยานเอาไว้ปั่นรอบเมืองฟรีด้วยนะ
ที่อยู่ : 14/1 ตรอกมณเฑียร (บ้านหัวข่วง) ถ.มหาวงค์ ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน
โทรศัพท์ : 054-772028 , 084-6116306
แผนที่ ที่พัก เฮือนข่วงน่าน
หลังจากนอนพักให้พอหายเหนื่อย ตอนนี้ก็ใกล้เย็นแล้ว เราไปปั่นจักรยานชมเมืองนี้กันอีกนิดหน่อย ยืมจักรยานของโรงแรมไปนี่แหละ พอเราปั่นจักรยานออกจากซอยก็จะเจอกับ วัดหัวข่วง เป็นวัดแรก วัดสวยงามสไตล์ล้านนาค่ะ จากนั้นก็ปั่นมาอีกนิดก็ถึงสี่แยก “ข่วงเมืองน่าน” (อยู่ขวามือของเรา) ใกล้ที่พักมากๆ
จากข่วงเมืองน่าน เราเลี้ยวขวาปั่นจักรยานมาตามถนนเจ้าฟ้าค่ะ มองซ้ายมือเห็นวัดแกะสลักลวดลายสีขาว สวยสะดุดตามากๆ ไม่รอช้าเลี้ยวเข้ามาเลย ที่นี่ชื่อ “วัดมิ่งเมือง” ค่ะ มีเสาหลักเมืองประจำจังหวัดตั้งอยู่ (พิกัด GPS : 18.774653, 100.766923)

เราได้ทราบประวัติมาพอสมควรว่า วัดมิ่งเมือง สร้างขึ้นเมื่อปี 2400 แต่ก่อนภายในบริเวณเป็นวัดร้าง มีเสาหลักเมืองน่านเป็นไม้สักทองขนาดใหญ่ 2 คนโอบรอบ ฝังอยู่ในพื้นดิน เจ้าอนันตวรฤทธิเดช เจ้าผู้ครองเมืองนครน่านได้สถาปนาขึ้นใหม่ทั้งอารามและตั้งชื่อว่า “วัดมิ่งเมือง” โดยคนเฒ่าคนแก่พื้นเมืองจะเรียก เสาพระหลักเมือง ว่า เสามิ่ง นี่จึงเป็นที่มาของชื่อค่ะ
ศาลาจตุรมุข ด้านหน้าพระอุโบสถ เสาหลักเมืองสูงประมาณ 3 เมตร ฐานประดับด้วยไม้แกะลวดลายลงรักปิดทอง ยอดเสาแกะสลัก เป็นรูป พรหมพักตร์มีชื่อ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
ด้านหลังมีการสร้างอุโบสถใหม่ มีพระครูสิริธรรมภาณีเป็นผู้ออกแบบ สไตล์ล้านนาร่วมสมัย และนายเสาร์แก้ว นายช่างใหญ่ทำการปั้นลวดลาย ใช้เวลากว่า 5 ปี
ภายในอุโบสถก็มีภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบโบราณ เป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองน่านตั้งแต่เจ้าผู้ครองเมืองน่านคนแรกจนถึงคนสุดท้าย
พอออกจาก วัดมิ่งเมือง เราก็ปั่นจักรยานรับลมเย็นมาตามถนนเรื่อยๆ ก็เจอกับวัดสีทองเหลืองอร่ามตั้งอยู่ตรงหน้า ไม่รอช้าอีกเช่นเคย ขอแวะไปสักการะและถ่ายรูปกันซะหน่อย อยู่เยื้องๆ กับวัดมิ่งเมือง ระยะทางไม่ไกลกันมากค่ะ
“วัดศรีพันต้น” สร้างโดยพญาพันต้น เจ้าผู้ครองน่าน แหงราชวงศ์ภูคา บางสมัยเรียกว่า วัดสลีพันต้น (คำว่า สลี หมายถึง ต้นโพธิ์) ซึ่งในอดีตมีต้นโพธิ์ใหญ่อยู่ด้านทิศเหนือและทิศใต้ของวัด แต่ปัจจุบันถูกโค่นเป็นถนนแล้ว วัดศรีพันต้นได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี 2505
ใกล้มืดแล้วทางวัดก็เปิดไฟ ยิ่งทำให้เห็นความงามของวัด สีเหลืองทอง สวยแบบบรรยายไม่ถูกจริงๆ ต้องมาเห็นด้วยตาตัวเองนะ ^^ แล้วถ้าตอนกลางวันมีแสงอาทิตย์ส่อง จะสวยงามขนาดไหนเนี่ย
พอใกล้ค่ำ เราก็ปั่นจักรยานกลับที่พักกัน ตอนนี้ท้องเริ่มร้องแล้วเดี๋ยวต้องออกมาหาของอร่อยทานกันสักหน่อย ^^
ตอนเราปั่นจักรยานกลับที่พัก ก็ผ่าน วัดพระธาตุช้างค้ำ ทางด้านขวามือ เปิดไฟสวยงาม สังเกตุไหมว่าถนนบริเวณนี้ไม่มีเสาไฟฟ้าอยู่เลย โล่ง สบายมากๆ เลยค่ะ
หันไปด้านซ้ายก็จะเป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติประจำจังหวัดน่าน
ค่ำแล้ว ก็ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วสิ! ไปหาของอร่อยเมืองน่านกินกัน เริ่มจากที่นี่เลย ร้าน U DEE KIN DEE (อยู่ดีกินดี) ร้านอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น ใครอิ่มของคาวก็สามารถต่อของหวานกันได้เลย เพราะที่นี่มีทั้งไอศกรีม เบเกอรี่ และร้านกาแฟ เลือกกินกันให้สมใจอยาก ^^
ร้านตกแต่งสไตล์เรียบง่าย ดูสบายตา เป็นห้องเพดานสูง มีโต๊ะนั่ง 3 ชั้น
เห็นแล้วน้ำลายไหล.. หน้าตาของอาหารที่เราสั่งมากินกันค่ะ อยากกินล่ะสิ >,<
ที่อยู่ : 30,30/1-3 ถนนข้าหลวง ต.ในเวียง จ.น่าน อ.เมืองน่าน
โทรศัพท์ : 089-4344354 , 054-771895
หลังจากจัดการกับอาหารบนโต๊ะกันร้านอยู่ดีกินดีไปแล้ว เราต้องไปต่อกับของหวานกันซะหน่อย ร้านที่เรากำลังไปนี้เป็นร้านขนมหวานชื่อดังของเมืองน่าน ชื่อเสียงความอร่อยของที่นี่ต้องยกให้ 10 ดาว! ใครมาน่านแต่ไม่มาร้านนี้เหมือนมาไม่ถึง “ร้านของหวานป้านิ่ม” ค่ะ ตั้งอยู่ตรงสี่แยกตรงข้ามกับวัดศรีพันต้น ที่เราปั่นจักรยานมาตอนเย็นไง

ใครมาร้านนี้ไม่ต้องห่วงเพราะมีที่จอดรถให้ ร้านเป็นบ้านทรงไทยสองชั้น พอเดินเข้าไปเท่านั้นแหละ กลิ่นหอมของขนมหวานลอยเตะจมูกเลยทีเดียว เมนูแนะนำคือ ไอติมข้าวเหนียวมะม่วง, บัวลอยไข่หวาน, ข้าวฟ่างน้ำกระทิ ตอนนี้ข้ามเรื่องน้ำหนักกันไปก่อนนะ! ตะลุยกินอย่างเดียว
เมนูร้านป้านิ่มสามารถมิ๊กซ์แอนด์แมทช์กันได้ด้วยนะ บัวลอยไช่หวาน, ไอติม(กะทิ) ใส่ บัวลอย, บัวลอยไข่, มะม่วง, เต้าส่วน, ลูกเดือย, สาคู, ข้าวเหนียวดำ อยากกินแบบไหนสั่งค่ะ! ป้านิ่มจัดให้ ^^ เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันพุธนะคะ
ที่อยู่ : 95/2 ถนนเจ้าฟ้า ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
โทรศัพท์ : 085-0366108 , 054-762229
การเดินทางของเราในวันแรกจบลงแล้ว ขอตัวเข้าพัก นอนหลับให้เต็มอิ่ม แล้วเดี๋ยวเช้าวันที่สองเราจะออกเดินทางไปปั่นจักรยานที่ เมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ กัน บอกเลยว่า ได้ทั้งความสนุก เห็นวิถีชีวิตคนเมือง พร้อมอิ่มพุงกางไปด้วยกันเหมือนวันนี้แน่นอน อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ บ้ายบาย ….
>> พาแอ่วเหนือ! ปั่นจักรยาน เที่ยวไป ถีบไป กินไป @น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ (ตอนที่ 2)