ทริป “เที่ยวเหนือ เที่ยวไหน เที่ยวไป ถีบไป กินไป @แพร่ น่าน อุตรดิตถ์” กับทาง ททท. ในวันแรกเราได้ปั่นจักรยานชมวิถีชีวิต โบราณสถาน วัดวาอาราม และแวะทานของอร่อยกันไปแล้ว เข้าวันที่สองนี้เราจะออกเดินทางไปยัง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ กันค่ะ
พาแอ่วเหนือ! ปั่นจักรยาน เที่ยวไป ถีบไป กินไป @น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ (ตอนที่ 2)
>> พาแอ่วเหนือ! ปั่นจักรยาน เที่ยวไป ถีบไป กินไป @น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ (ตอนที่ 1)
เมื่อวานนี้เราปั่นจักรยานรอบตัวเมืองน่าน เช้าวันที่สอง เราจะออกเดินทางไปยัง จ.อุตรดิตถ์ กันค่ะ ระยะทางประมาณ 170 กิโลเมตร แต่ก่อนที่เราจะต้องนั่งรถเป็นเวลาหลายชั่วโมง ขอแวะเติมพลังให้อิ่มท้องกันหน่อย ร้าน “เจ้เล็ก ข้าวมันไก่” ร้านตึกแถว ตั้งอยู่ตรงถนนข้าหลวง ขับผ่านสี่แยกข่วงเมืองน่านมาไม่ไกลมากนัก
ร้านเจ้เล็กนั้นมีเมนูให้เลือกเยอะมากๆ ทั้งข้าวมันไก่, ข้าวมันไก่ทอด, ข้าวขาหมู, ข้าวหมูแดง, ข้าวหมูหรอบ, กระเพาะปลา .. เราอยากกินไปซะทุกอย่าง ก็เลยสั่งมาแบบรวมทุกอย่าง เพิ่มเครื่องในด้วย แล้วก็สั่งข้าวมันแยกเป็นจาน
ไก่นุ่ม หมูกรอบอร่อย เนื้อขาหมูก็เริ่ด แถมน้ำราดหมูแดง น้ำจิ้มขาหมู อร่อยติดใจเลยค่ะ คอนเฟิร์ม ^^
เนื่องจากเราวางแพลนไว้ว่าจะปั่นจักรยานที่ อ.ลับแล ช่วงบ่าย เพราะฉะนั้นเรายังพอมีเวลาว่างเที่ยว จ.น่าน ช่วงเช้าๆ เราเดินทางไปสักการะ “พระธาตุแช่แห้ง” กันค่ะ อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 3 กิโลเมตร
“พระธาตุแช่แห้ง” ตั้งอยู่ที่อำเภอภูเพียง เดิมเป็นวัดราษฎร์ ปัจจุบันเป็นพระอารามหลวง องค์พระธาตุสีทองเหลืองอร่าม เป็นอนุสรณ์ของความรักและความสัมพันธ์ ระหว่างเมืองน่านกับเมืองสุโขทัยในอดีต และยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิด ของคนที่เกิดปีเถาะ (ปีนักษัตรกระต่าย) ด้วย
ตรงทางเข้าประตูก็จะมีดอกไม้ ธูป เทียน วางไว้ให้ แล้วก็มีกระต่ายหลากหลายสี ให้เลือกนำเข้าไปสักการะพระธาตุกันด้วย สีของกระต่ายน่าจะเป็นสีของคนที่เกิดในแต่ละวันค่ะ

บริเวณรอบๆ ก็จะมีให้เราปิดทองลูกนิมิตร
ทำบุญ “ด้ายสีสาย” เพื่อ สะเดาะเคราะห์ เสริมศิริมงคล
บูชา “ไม้ค้ำชาตา” โดยเขียนชื่อ วัน เดือน ปี เกิด ติดไว้ที่ไม้ เสริมดวงชะตา ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง
เดินมาอีกนิดก็จะเห็น พระวิหารพระพุทธไสยาสน์ (พระวิหารพระเจ้านอน) ค่ะ
จากนั้นเราก็เดินทางไปยัง “พระธาตุเขาน้อย” กันต่อ ที่วัดนี้ถือเป็นแลนด์มาร์กอีกหนึ่งที่ สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองน่านที่สวยงามด้วยค่ะ
บริเวณลานชมทิวทัศน์ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานพร “พระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีเมืองน่าน” บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร บนยอดพระเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท สร้างขึ้นเนื่องในมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ ทรงเจริญ พระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542
ด้านหน้าพระพุทธรูปปางประทานพร “พระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีเมืองน่าน”
องค์พระธาตุ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2030 สมัยเจ้าปู่แข็ง เป็นศิลปะพม่าผสมล้านนา ภายในบรรจุพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัม พุทธเจ้า และได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ระหว่างปี พ.ศ. 2449-2454 โดยช่างชาวพม่า

วัดพระธาตุเขาน้อย เป็นปูชนียสถานที่สำคัญ และเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของ จ.น่าน สันนิษฐานว่ามีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพระธาตุแช่แห้ง ตั้งอยู่บนดอยเบาน้อย สูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 240 ม. หน้าวัดมีทางขึ้นเป็นบันไดนาค 303 ขั้น
สักการะวัดพระธาตุเขาน้อยเสร็จ เราก็ออกเดินทางไปยัง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิถต์ นั่งรถมาได้สักพักก็แวะ ร้าน Tree Park Coffee กินกาแฟ ขนมเค้ก ยืดเส้นยืดสายกันหน่อย ต้นไม้เยอะ บรรยากาศร่มรื่น
ที่อยู่ : ต.แม่จั๊วะ อ.เด่นชัย จ.แพร่
โทรศัพท์ : 054-613063 , 086-1924456
เรามาถึงอุตรดิถต์ช่วงเที่ยงๆ บ่ายๆ ได้เวลาข้าวกลางวันแล้วอีกแล้วสิ และก็ต้องไม่พลาด ร้านก๋วยเตี๋ยวเป่าปากชามกะลา ร้านขึ้นชื่อเมืองอุตรดิตถ์
ก๋วยเตี๋ยวที่นี่มีเอกลักษณ์ก็คือ ชามกะลา และรสชาติของก๋วยเตี่ยวก็กลมกล่อมและเผ็ดจี๊ด ที่นี่เราสามารถสั่งได้ว่าอยากให้เผ็ดระดับไหน คือ เจ็บภูสอยดาวคือเผ็ดมาตรฐานเป่าปาก เจ็บเขื่อนสิริกิติ์คือเผ็ดกลาง และเจ็บลับแลคือไม่เผ็ด
นอกจากก๋วยเตี๋ยวก็ยังมีเนื้อ-ลูกชิ้นลวกจิ้ม เสิร์ฟกับน้ำจิ้มรสเด็ด, ไส้อั่ว, ลูกชิ้นยักษ์ และไอติมกะทิ
ที่อยู่ : แยกหนองผา ถนนเจษฎาบดินทร์ ตำบลท่าอิฐ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์
โทรศัพท์ : 085-8780522
กินอิ่มปุ๊บก็พร้อมลุย! ช่วงใกล้เข้าหน้าฝนแบบนี้อากาศเย็นสบาย แดดร่มลมตก ปั่นจักรยานกันชิลๆ ได้เลย
เส้นทางปั่นจักรยานจังหวัดอุตรดิถต์มี 2 เส้นทาง คือ อ.ลับแล กับ อ.เมือง เราเลือกเส้นทาง อ.ลับแล ค่ะ จุดแรกที่เราไปนั้นก็คือ “ศูนย์บริการท่องเที่ยววิถีเมืองลับแล” จุดประทับตราที่ 1 (ใกล้ซุ้มประตูเมืองลับแล)
มีพี่สาวสวย เจ้าหน้าที่คอยให้บริการและดูแลอย่างเป็นกันเอง ทางศูนย์เปิดบริการ 8.30-16.30 น. โดยบริเวณนี้ก็จะมีพิพิธภัณฑ์เมืองลับแล, ลานกิจกรรม, อาคารจำหน่ายสินค้า ที่นี่มีจักรยานให้เช่าด้วยค่ะ
พิกัด GPS : 17.651813, 100.044312
เบอร์โทรศัพท์ : 055-431076
ขอปั๊มก่อน 1 ดวง เสร็จแล้วเราก็เริ่มลุยปั่นจักรยานไปยังจุดหมายที่เหลืออีก 3 ที่กันเลย
เมื่อปั่นเข้าเมืองลับแลตามทางมาจนเจอ อนุสาวรีย์พระศรีพนมมาศ ขอแวะถ่ายรูปที่นี่กันก่อน
จากนั้นก็เลี้ยวขวาปั่นจักรยานตามทางถนนเขาน้ำตก สองข้างทางนั้นเพื่อนๆจะได้เห็นบ้านเรือนแบบดั้งเดิม วิถีชีวิตแบบเรียบง่าย สงบ ไม่วุ่นวายมากนัก ^^ จนมาถึง จุดประทับตราที่ 2 “ร้านข้าวแคบคุณสาว” จะอยู่ติดกับสำนักงานเทศบาลศรีพนมมาศ(เมืองลับแล)
เป็นครั้งแรกที่เคยได้ยินชื่อ “ข้าวแคบ” และได้ลองกิน ข้าวแคบเป็นอาหารว่างอย่างหนึ่ง โดยการนำเอาแผ่นแป้งไปตากแดด (แบบรูปข้างล่าง) และเอาไปทำให้สุกโดยปิ้งหรือทอด อาจโรยงาเพิ่มความหอมอร่อย
ของคาวอีกอย่างที่น่าสนใจ (เพราะเพิ่งเคยลองกินอีกเหมือนกัน >,<) คือ ข้าวพัน โดยการใช้แป้งข้าวเจ้ามานึ่งคล้ายข้าวเกรียบปากหม้อ แต่ข้าวพันจะกินกับน้ำจิ้มสูตรเด็ด ไม่ใส่ไส้

หลังจากสุกแล้ว ก็จะม้วนขึ้นมาเป็นแผ่นกลมแบบนี้ จิ้มกินกับน้ำจิ้มสูตรเด็ดเผ็ดอร่อย
ร้านข้าวแคบคุณสาว เปิดให้บริการทุกวัน พิกัด GPS : 17.655042, 100.037202 เบอร์โทรศัพท์ : 089-5039617 ประทับตราจุดที่ 2 เสร็จก็บอกลาคุณป้า ร้านข้าวแคบคุณสาว ไปยังจุดหมายต่อไปกัน
เราปั่นจักรยานตามถนนเขาน้ำตกแล้วเลี้ยวเข้าซอยเขาน้ำตก 6 (จะอยู่ทางขวามือ) เพื่อลัดมาที่ถนนราษฎร์อุทิศ หรือ ถนนคนกิน ออกจากซอยเลี้ยวขวามาอีกสักหน่อยก็จะเจอ “ร้านป้าหว่างหมี่พัน” จุดประทับตราที่ 3 ของเรา (อยู่ติดถนนราษฎร์อุทิศ ซอย 5)
พอถึงร้านปุ๊บ! คุณป้าก็กำลังทำหมี่พันอยู่เลย “หมี่พัน” เป็นอาหารพื้นเมืองดั้งเดิมของคนลับแล จะเอาแผ่นข้าวแคบ (เหมือนร้านแรกที่เราไปจำได้เปล่า?) มาใส่ผัก เส้นหมี่ลงไป และห่อให้เป็นชิ้นกลมๆ การห่อแบบนี้ยังช่วยถนอมอาหารด้วยนะคะ เป็นภูมิปัญญาของคนลับแล
หน้าตาหมี่พันเป็นแบบนี้ รสชาติกลมกล่อม ออกเผ็ดนิดๆ อร่อยดีค่ะ ชิ้นละ 3 บาท ราคาน่ารัก ^^ ร้านป้าหว่างหมี่พัน เปิดทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ พิกัด GPS : 17.653923, 100.040084
หลังงจากประทับตราจุดที่ 3 เสร็จแล้ว เราปั่นจักรยานย้อนกลับไปทางถนนราษฎร์อุทิศ ก็จะเจอ “ร้านข้าวพันผักอินดี้” จุดประทับตราที่ 4
ร้านข้าวพันผักอินดี้ หรือร้านข้าวพันผักป้าตอ เมื่อมาลับแลแล้วจะพลาดร้านนี้ไม่ได้ สำหรับนักท่องเที่ยวและนักชิม เพราะข้าวพันผักอินดี้นั้นจะมีเมนูที่หลากหลาย ไม่ซ้ำกัน พ่อค้าจะคิดสูตรข้าวพันผักใหม่ๆ ขึ้นมาตลอด บางเมนูจะใส่ใข่ผสมกับแป้ง, ใส่เห็ดเข็มทอง เป็นต้น แถมรสชาติอร่อยด้วย ^^

อย่างวันนี้เราได้กิน ข้าวพันผักเนื้อเปื่อย, ไข้ม้วนเห็ดเย็นตาโฟ, ข้าวพันผักห่อไข่ โป๊ะไข่ดาว คอนเฟิร์มว่าอร่อย แบบไม่ต้องปรุงเลย รสชาติกลมกล่อมค่ะ ^^


แล้วถ้าใครมาแวะร้านนี้ ก็จะมาเขียนข้อความด้วย เขียนได้ทุกที่ในร้านเลย

สแตมป์ดวงที่ 4 เสร็จแล้ว เดินทางต่อไปยังจุดหมายสุดท้ายกันจากถนนคนกิน ก็ปั่นจักรยานกลับไปยัง ศูนย์บริการท่องเที่ยววิถีเมืองลับแล จะเจอกับ ร้านลับแลคลับ wifi cafe (Lublae Club Coffee) จุดประทับตราที่ 5 ค่ะ
ประทับตราเสร็จ ก็นั่งทานเครื่องดื่มให้หายเหนื่อย สดชื่น ^^ ร้านน่ารัก บรรยากาศดี มีมุมให้เลือกนั่งเยอะเลย
เราก็ตระเวนเดินเล่นแถวลานวัฒนธรรมกันหน่อย ตรงนี้มีพิพิธภัณฑ์เมืองลับแล, ขายสินค้าพื้นเมืองเยอะพอสมควร
พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล จัดแสดงวิถีชีวิตคนเมืองในสมัยก่อน บอกเล่าเรื่องราวประเพณี วัฒนธรรม
เดินมาอีกนิดก็จะเป็นตัวอาคารที่ขายสินค้า สะดุดตาร้านนี้แหละ! “วันวานลับแล”
ขายของเล่น ของกิน ขนม สมัยวัยเด็ก เห็นแล้วคิดถึงชีวิตวัยเด็กจริงๆ 555
เดินเล่นกันจนเย็นแล้ว เราก็เดินทางกลับที่พักกัน โดยคืนนี้เราย้อนกลับไปพักที่ Mee bed and breakfast โรงแรมสุดฮิปในราคาหลักร้อย! จังหวัดแพร่ กัน
โรงแรมเปิดใหม่แถวตัวเมือง แค่ชื่อก็น่ารักแล้ว พอได้เห็นสถานที่จริง โอ้ว! ประทับใจ ตกแต่งแบบเรียบง่าย สไตล์ฮิปสเตอร์แบบที่ชอบเลย แถมราคานี่ดึงดูดสุดๆ ในราคาหลักร้อยเท่านั้น! ตั้งอยู่ที่ถนนราษฎร์ดำเนิน ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ เจ้าของใจดี และใส่ใจลูกค้ามากๆ และตั้งแต่ข้างหน้าโรงแรมจนขึ้นไปถึงห้องพัก เรายังไม่หยุดถ่ายรูปเลย สวยทุกมุม!
ห้องพักแต่ละห้องนั้นจะตกแต่งไม่เหมือนกันสักห้องเลย! มันเจ๋งตรงนี้แหละ เราไม่รู้ว่าเราจะได้พ้องพักแบบไหน ส่วนเราได้ห้องพักชั้นที่ 4 ห้อง 402 ผนังห้องทาด้วยสีขาว มีกรอบรูปเรียงเต็มไปหมด ชอบมากๆ! ที่นี่ส่วนมากเน้น ใช้ปูนเปลือยและอิฐแดง ห้องโปร่ง อากาศเย็นสบาย
อ่านเพิ่มเติม : Mee bed and breakfast โรงแรมสุดฮิปในราคาหลักร้อย! จ.แพร่
นอนเต็มอิ่มบนเตียงนุ่มสบายกันทั้งคืน ก็ต้องตื่นเช้าเก็บกระเป๋ากลับกันแล้ว ก่อนกลับก็แวะทานข้าวเช้า กับของหวานแถวแยกประตูชัยที่ ร้านกองหนุน มีของหวานเยอะแยะไปหมด เจ้าของใจดีจัด ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวทุเรียน ข้าวเหนียวสังขยา มาให้กินกัน รสชาติอร่อย หวานมัน แบบนี้น้ำหนักตัวขึ้นก็ไม่เสียใจนะ อิอิ
ที่อยู่ : ซอยรอบเมือง แยกประตูชัย ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่
โทรศัพท์ : 054-531597 , 086-1961869
นั่งรถมาได้แปบนึงก็มาแวะที่ พิพิธภัณฑ์บ้านเทพ มีของสะสมหายากในสมัยก่อนหลายอย่าง เช่นเงินพดด้วง, ตะเกียงเก่า, ไม้แกะสลัก, ชามลายครามต่างๆ เป็นต้น ที่นี่เปิดให้ชมฟรีทุกวัน ตั้งแต่ 09.00 น-17.00 น. ค่ะ
ที่อยู่ : 8/1 ถนนเทศบาล2 ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่
โทรศัพท์ : 08-79871164
ถึงเวลาต้องกลับบ้านแล้วสิ อยากเที่ยวไม่ครบเลย แต่คราวหน้าสัญญาว่าจะต้องเที่ยวให้ครบแน่นอน ทริป “เที่ยวเหนือ เที่ยวไหน เที่ยวไป ถีบไป กินไป @แพร่ น่าน อุตรดิตถ์” กับทาง ททท. ในครั้งนี้เป็นทริปที่สนุก และประทับใจมากๆ ^^ งั้นขอตัวลาไปก่อน เจอกันทริปหน้านะคะ ..
>> พาแอ่วเหนือ! ปั่นจักรยาน เที่ยวไป ถีบไป กินไป @น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ (ตอนที่ 1)
ขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ (พื้นที่รับผิดชอบ: แพร่,น่าน,อุตรดิตถ์)
เว็บไซต์ : http://www.tourismthailand.org/phrae