ที่เที่ยวญี่ปุ่น ร้านอาหารญี่ปุ่น

UNSEEN 20 ร้านอาหารญี่ปุ่น ไปญี่ปุ่นแล้วไม่กินถือว่าพลาด!

Home / นักเที่ยวเชี่ยวทาง / UNSEEN 20 ร้านอาหารญี่ปุ่น ไปญี่ปุ่นแล้วไม่กินถือว่าพลาด!

สายกินมารวมตัวกันตรงนี้!!! ไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีแต่ดันมีงบจำกัด เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงระดับต้นๆของโลก เวลาหันไปทางไหนทั้งอาหารทั้งของใช้เลยดูแพงไปหมด วันนี้พรีเมี่ยมเวิลด์ทัวร์เลยอยากชวนเพื่อนๆ มาอิ่มอร่อยสะใจกับหลากหลายอาหารสไตล์ญี่ปุ่น บุฟเฟ่ต์ อาหารจานยักษ์ และอื่นๆอีกมากมาย ด้วยงบ 1000 เยน (ประมาณ 300 กว่าบาท)

งานนี้นอกจากจะประหยัดเงินในกระเป๋าแล้ว ยังรับประกันเรื่องรสชาติที่ฟินเกินคาดคุ้มเกินราคาอีกด้วย ตามมาดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีอะไรน่ากินบ้าง…

UNSEEN 20 ร้านอาหารญี่ปุ่น
ไปญี่ปุ่นแล้วไม่กินถือว่าพลาด!

1. ทงคัตสึมัตสึโนยะ (TonkatsuMatsunoya)

ทงคัตสึแบบตู้กดฉบับจานด่วน เหมาะแก่ผู้หิวโซแบบสุดๆ อารมณ์เดินช็อปปิ้งระแวกย่านชิจูกุมาเหนื่อยๆ แวะร้านนี้ปุ๊บ อิ่มปั๊บภายใน 10 นาที เข้าไปในร้านตอนแรกมุ่งหน้าสู่ตู้กดเมนูเลยค่ะ สามารถเลือกเมนูได้ทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ ในส่วนของเมนูก็มีให้เลือกทานมากมาย เช่น Pork Loin Cutlet Miso Sauce, Chicken Tenderloin Cutlet เป็นต้น หรือถ้าใครอยากทานแบบอื่นทางร้านมีเมนูให้เลือกอีกมากมายเลยค่ะ ทำไมต้องไปทานร้านนี้? ร้านทงคัตสึมัตสึโนยะ มีเมนูขึ้นชื่อคือ โรสุคัตสึเทโชคุ (เซตทงคัตสึหมูสันนอก) เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยและซุปมิโสะ เนื้อหมูสันนอกหันหนาชิ้นใหญ่ ทอดแบบกรอบนอกนุ่นใน ซึ่งหาทานที่ร้านไหนไม่ได้อีกแล้ว ที่สำคัญราคาถูกสุดๆ แค่ 500 เยนเท่านั้น!! แถมใกล้สถานีรถไฟใต้ดินHigashi-Shinjuku อีกต่างหาก

ทงคัตสึแบบตู้กดฉบับจานด่วน เหมาะแก่ผู้หิวโซแบบสุดๆ อารมณ์เดินช็อปปิ้งระแวกย่านชิจูกุมาเหนื่อยๆ แวะร้านนี้ปุ๊บ อิ่มปั๊บภายใน 10 นาที เข้าไปในร้านตอนแรกมุ่งหน้าสู่ตู้กดเมนูเลยค่ะ สามารถเลือกเมนูได้ทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ ในส่วนของเมนูก็มีให้เลือกทานมากมาย เช่น Pork Loin Cutlet Miso Sauce, Chicken Tenderloin Cutlet เป็นต้น หรือถ้าใครอยากทานแบบอื่นทางร้านมีเมนูให้เลือกอีกมากมายเลยค่ะ

 ทงคัตสึมัตสึโนยะ (TonkatsuMatsunoya)

 ทงคัตสึมัตสึโนยะ (TonkatsuMatsunoya)

 ทงคัตสึมัตสึโนยะ (TonkatsuMatsunoya)

 ทงคัตสึมัตสึโนยะ (TonkatsuMatsunoya)

ทำไมต้องไปทานร้านนี้? ร้านทงคัตสึ มัตสึโนยะ มีเมนูขึ้นชื่อคือ โรสุคัตสึเทโชคุ (เซตทงคัตสึหมูสันนอก) เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยและซุปมิโสะ เนื้อหมูสันนอกหันหนาชิ้นใหญ่ ทอดแบบกรอบนอกนุ่นใน ซึ่งหาทานที่ร้านไหนไม่ได้อีกแล้ว ที่สำคัญราคาถูกสุดๆ แค่ 500 เยนเท่านั้น!! แถมใกล้สถานีรถไฟใต้ดินHigashi-Shinjuku อีกต่างหาก

การเดินทาง:สาขาฮิกาชิชินจูกุ (Higashi Shinjuku) จากสถานีรถไฟใต้ดิน Higashi-Shinjuku สาย Tokyo Metro Fukutoshin line เดินไปร้านแค่ 2 นาทีเท่านั้น

เวลาทำการ:เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด

เว็บไซต์:matsuyafoods.co.jp


2. ทงคัตสึ ราเมน ฮากะตะ ฟูริว (Tonkotsu Ramen Hakata Furyu)

ราเมนซุปกระดูกหมู ชามใหญ่เบิ้มแบบฉบับตู้กด(อีกแล้ว) เมนูเลือกได้ทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ ตอนยื่นตั๋วให้พนักงานเราสามารถเลือกระดับความแข็งของเส้นราเมนได้ 4 ระดับ คือ แข็งมาก แข็ง ธรรมดา และนุ่ม อือหือ…ไฮโซไปอีก~

ทงคัตสึ ราเมน ฮากะตะ ฟูริว (Tonkotsu Ramen Hakata Furyu)

ทงคัตสึ ราเมน ฮากะตะ ฟูริว (Tonkotsu Ramen Hakata Furyu)

ทงคัตสึ ราเมน ฮากะตะ ฟูริว (Tonkotsu Ramen Hakata Furyu)

ทำไมต้องไปทานร้านนี้?ร้าน Tonkotsu Ramen Hakata Furyu ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ชินจูกุฝั่งตะวันออก มีเมนูขึ้นชื่อของร้านคือ‘ทงคัตสึราเมนต้นตำรับ’ น้ำซุปเข้มข้นหอมกลิ่นหมูและกระดูกหมู ปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลืองรสหวานกับมิรินที่ทำจากผักโขมและกระเทียมลงไปบอกเลยว่าอร่อยมากๆ และชามใหญ่มาก มีท็อปปิ้งให้เลือกใส่เพิ่มได้อีกด้วย เช่น ไข่ต้ม ซาหร่าย เป็นต้น และที่พิเศษกว่านั้น…ทางร้านสามารถให้เราเพิ่มเส้นได้ฟรีอีก 2 ก้อนกันเลยทีเดียว!! สำหรับคนที่ชอบรสเค็มแนะนำให้สั่งซุปโชยุ หรือถ้าชอบรสเผ็ด คาระมิโสะทงคตสึราเมนก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี สงวนราคา 580-880 เยนเท่านั้น!!

ทงคัตสึ ราเมน ฮากะตะ ฟูริว (Tonkotsu Ramen Hakata Furyu)

การเดินทาง:สาขาชินจูกุฝั่งตะวันออก (Higashiguchi) ใช้เวลาเดิน 3 นาทีจากสถานี JR Shinjuku Station ทางออกด้านตะวันออก

เวลาทำการ: จันทร์ – เสาร์ 11.00 น. – 2.00 น. / อาทิตย์ 11.00 น. – 20.00 น. ในกรณีวันจันทร์ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ ร้านจะเปิดทำการวันอาทิตย์จนถึงตี 2

เว็บไซต์:fu-ryu.net


3. อุนะโตโตะ (Unatoto)

มาถึงญี่ปุ่นทั้งทีจะพลาดข้าวหน้าปลาไหลได้อย่างไร!! แต่พอจะสั่งกินปุ๊บ…อือหือราคาแพงเว่อร์ แต่ที่ร้าน‘อุนะโตโตะ’ ซึ่งเป็นร้านเล็กๆ แต่บรรยากาศน่านั่งและพนักงานน่ารัก เขากลับขายแค่ 500 เยนเท่านั้น!!

อุนะโตโตะ (Unatoto)

อุนะโตโตะ (Unatoto)

ทำไมต้องไปทานร้านนี้?เพราะที่ร้านอุนะโตโตะใช้ปลาไหลญี่ปุ่นสดๆ ทำให้รสชาติอร่อย ไม่มีกลิ่นคาว เนื้อนุ่ม เหนียวนิดๆ ทางร้านพิถีพิถันย่างเกรียมกำลังดี ราดด้วยซอสถั่วเหลืองคุณภาพสูงที่คัดสรรมาแล้ว รสชาติเค็มนิดหวานหน่อยฟินสุดๆ สามารถเพิ่มปริมาณเป็นขนาดใหญ่ 600 เยน และใหญ่พิเศษ 700 เยนได้ด้วย ราคาถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับรสชาติและปริมาณที่ได้รับซึ่งหากเทียบกับที่ไทยแล้วราคาถือว่าถูกกว่ากินที่ไทยพอควรเลยค่ะ อร่อยกว่ามากด้วย

การเดินทาง:สาขาตึกชินจูกุเซ็นเตอร์ (Shinjuku Center Building) ใช้เวลาเดิน 10นาทีจากสถานี JR Shinjuku ทางออกฝั่งตะวันตก

เวลาทำการ: จันทร์ – ศุกร์ 11.00 น. – 23.00 น. / เสาร์ 11.00 น. – 14.00 น. หยุดวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ของญี่ปุ่น

เว็บไซต์:unatoto.com


4. อิโซมารุ ซุยซัง (Isomaru Suisan)

จัดไปกับร้านอิซากายะ‘ร้านอิโซมารุ ซุยซัง’ ซีฟู้ดชื่อดังผู้ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสดใหม่ของอาหารแต่ราคายุติธรรม ร้านนี้มีสาขาเยอะมากรวมๆ แล้วมากกว่า 100 สาขาซึ่งอยู่ที่โตเกียวเสียส่วนใหญ่

อิโซมารุ ซุยซัง (Isomaru Suisan)

อิโซมารุ ซุยซัง (Isomaru Suisan)

อิโซมารุ ซุยซัง (Isomaru Suisan)

อิโซมารุ ซุยซัง (Isomaru Suisan)

ทำไมต้องไปทานร้านนี้? ข้าวหน้าปลาดิบขายดีของทางร้านคือ‘มากุโร่นิโชะคุด้ง’ สงวนราคาเบาๆ แค่ 630 เยนเท่านั้น!! หรือถ้าอยากกินอาหารทะเลสดๆ ทางร้านก็จะหยิบจากตู้โชว์มาให้เราเดี๋ยวนั้นแล้วนำมาย่างทานบนเตาหน้าที่นั่งกันเลยทีเดียว(สดไปอีกกก)สดๆ อร่อยๆ ราคาสบายกระเป๋า แถมยังอำนวยความสะดวกให้เราได้ 24 ชั่วโมง

อิโซมารุ ซุยซัง (Isomaru Suisan)

การเดินทาง:Shinjuku Sanchomeใช้เวลาเดิน 2นาทีจากสถานี JR Shinjuku ทางออกฝั่งตะวันออก

เวลาทำการ: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด

เว็บไซต์: isomaru.jp


5. โกฮัง โดโกะโร อะดาชิ(GohanDokoro Adachi)

ใกล้ๆสถานีอากิฮาบาระจะมีร้านอาหารจานยักษ์ชื่อ ‘โกฮัง โดโกะโร อะดาชิ’ เสิร์ฟเป็นเมนูข้าวและกับข้าวแบบญี่ปุ่น ช่วงกลางวันทางร้านจะมีโปรโมชั่นพิเศษเป็นเซตอาหารจานยักษ์ ทุกเมนูในร้านราคาเพียง 980 เยนเท่านั้น!!

โกฮัง โดโกะโร อะดาชิ(GohanDokoro Adachi)

โกฮัง โดโกะโร อะดาชิ(GohanDokoro Adachi)

โกฮัง โดโกะโร อะดาชิ(GohanDokoro Adachi)

ทำไมต้องไปทานร้านนี้?ร้านอยู่ใกล้สถานีรถไฟ Suehirochoถือเป็นอีกแหล่งร้านอาหารอร่อยที่ชาวญี่ปุ่นรู้จักเป็นอย่างดี อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากย่านอากิฮาบาระ จุดเด่นของร้านคือปริมาณข้าวที่ล้นชาม กินวันนี้อิ่มไปถึงพรุ่งนี้เลยทีเดียว ในส่วนของกับข้าวแต่ละอย่างเราสามารถเลือกได้ตามเมนูที่ทางร้านจัดไว้ให้ เช่น ไก่ทอด คร็อกเก้ ไข่ม้วน เส้นพาสต้าเทมปุระ และผักชนิดต่างๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูข้าวหน้าซาชิมิจานยักษ์อีกด้วย

โกฮัง โดโกะโร อะดาชิ(GohanDokoro Adachi)

การเดินทาง: เดินเพียง 3 นาทีจากสถานี JR Akihabara หรือ นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza Line มาลงสถานี Suehirochoแล้วเดินอีก 5 นาที

เวลาทำการ: จันทร์ – ศุกร์ 11.30 น. – 15.00 น. และ 17.00 น. – 23.30 น. / เสาร์ – อาทิตย์ 11.30 น. – 15.00 น.*ราคาพิเศษมื้อกลางวันเริ่มหลัง10.00 น.*

เว็บไซต์: GohanDokoro Adachi


6. ยาโร่ ราเมน(Yaro Ramen)

 ร้านยาโร่ราเมนเป็นร้านสีเหลืองโดดเด่นตั้งอยู่หัวมุมในย่านอากิฮาบาระระหว่างสถานีรถไฟ Akihabara และ Suehirocho เป็นร้านที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวที่อยากลองของ เนื่องจากราเมนชามยักษ์ที่มีน้ำหนักอยู่ที่ 1.5 กิโลกรัม บวกกับรสชาติที่อร่อยล้ำเกินใคร ต่อให้เยอะแค่ไหนก็ทานหมดไม่เหลือ ยิ่งทานคู่กับหมูชาชูเนื้อแน่นชิ้นใหญ่ที่ฉ่ำไปด้วยน้ำซอสนะ อื้อหือ…แค่พูดก็น้ำลายไหลแล้ว

 ยาโร่ ราเมน(Yaro Ramen)

 

 ยาโร่ ราเมน(Yaro Ramen)

 ยาโร่ ราเมน(Yaro Ramen)

ทำไมต้องไปทานร้านนี้?เป็นร้านที่มีชื่อเสียงในหมู่ต่างชาติ ถ้าไปญี่ปุ่นแล้วไม่ทานถือว่าเอ้าท์สุดๆ นอกจากจะเสิร์ฟในปริมาณเยอะกว่าราเมนปกติแล้ว สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือการบริการที่ดีของพนักงานที่สามารถสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าได้อย่างมาก

 ยาโร่ ราเมน(Yaro Ramen)

การเดินทาง: เดินเพียง 3นาทีจากสถานี JR Akihabara หรือ นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza Line มาลงสถานี Suehirochoแล้วเดินอีก 5 นาที

เวลาทำการ:ทุกวันเวลา 11.00น. – 22.00 น.

เว็บไซต์: yaroramen.com


7. บูตะงุมิชาบู(Butagumishabuan)

ใครชอบชาบูมาทางนี้ค่ะ เห็นทางขึ้นร้านตอนแรกถึงกับตกใจ ปูพรหมแดงมาเลยทีเดียว คิดในใจแพงแน่ๆเลย แต่!! ทางร้านมีจัดโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ชาบูมื้อกลางวัน ราคา 1000 เท่านั้น!!! อาหารให้เลือกทานอาจจะไม่มากเท่าตอนเย็น แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าสุดๆ แล้วกับราคาเท่านี้

บูตะงุมิชาบู(Butagumishabuan)

บูตะงุมิชาบู(Butagumishabuan)

บูตะงุมิชาบู(Butagumishabuan)

บูตะงุมิชาบู(Butagumishabuan)

ทำไมต้องไปทานร้านนี้? เนื้อหมูนุ่มที่สามารถทานได้ไม่อั้น เด็ดสุดคือข้าวแกงกะหรี่ที่จะเสิร์ฟพร้อมหมูชาบูแผ่นใหญ่ เต็มคำเต็มรสชาติ รวมถึงโอเด้ง ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง เต้าหู้ จิ้มกับน้ำจิ้มแสนอร่อย ตบท้ายด้วยสลัดผักแก้เลี่ยน ทานได้ถึง 50 นาทีนะคะ

บูตะงุมิชาบู(Butagumishabuan)

การเดินทาง:นั่งรถไฟสาย Chiyoda Line มาลงสถานี Nogizakaทางออกที่ 3แล้วเดินอีก 5 นาที

เวลาทำการ: จันทร์ – ศุกร์ 11.30 น. – 14.00 น.และ 18.00 น. – 20.30 น. / เสาร์ – อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11.30 น. – 14.00 น. และ 17.00 น. – 22.00 น. *บุฟเฟ่ต์อาหารกลางวัน 1,000 เยน (50 นาที) เริ่มหลัง 10.00 น.*

เว็บไซต์: butagumi.com


8. โมยัน กะหรี่ 246(Moyan Curry 246)

รอบนี้เอาใจคนรักแกงกะหรี่กันบ้าง จัดให้เลยกับบุฟเฟ่ต์อาหารกลางวัน เต็มอิ่มไม่อั้นแค่ 1000 เยนเท่านั้น!! เอาให้เอียนแกงกะหรี่กันไปข้าง เข้าไปในร้านอย่างแรกจะได้กลิ่นหอมอบอวลของเครื่องเทศ เฟอร์นิเจอร์เป็นเครื่องไม้ มีโต๊ะให้เลือกทั้งแบบเดี่ยวและกลุ่ม เราสามารถเลือกตักแกงกะหรี่ได้ 3 แบบ คือ เนื้อ หมู และเผ็ดจัด แถมเมนูอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ไก่ทอด สลัด และขนมหวาน เรื่องรสชาติรับรองเลยว่าเข้มข้นถึงใจแน่นอน!!

โมยัน กะหรี่ 246(Moyan Curry 246)

โมยัน กะหรี่ 246(Moyan Curry 246)

โมยัน กะหรี่ 246(Moyan Curry 246)

โมยัน กะหรี่ 246(Moyan Curry 246)

ทำไมต้องไปทานร้านนี้? อย่างแรกคือเนื้อแกงสีเข้มและรสชาติที่เข้มข้นมากถึงมากที่สุด บวกกับเนื้อชิ้นโตที่อัดแน่นอยู่ในแกงกะหรี่หม้อใหญ่ที่ผ่านการเคี่ยวนานหลายชั่วโมง นุ่มมากจนไม่ต้องเคี้ยวมีเมนูเด็ดที่ห้ามพลาดคือ ข้าวแกงกะหรี่ใส่ชีส (ChiizuKare) ซึ่งจะรสชาติเข้มข้นกว่าแกงกะหรี่อื่นๆ ทานตอนอุ่นๆ ชีสยืดๆ จัดว่าเด็ด!! ใครที่ไปแถวชิบุยะอย่าลืมแวะไปทานนะคะ

โมยัน กะหรี่ 246(Moyan Curry 246)

การเดินทาง:สาขาชิบุยะ นั่งรถไฟลงสถานี Shibuya แล้วเดินอีก 10 นาที(คลิกที่รูปภาพเพื่อดูแผนที่เต็ม)

เวลาทำการ:บุฟเฟต์อาหารกลางวัน 11.30 น. – 15.30 น. ออร์เดอร์สุดท้าย 14.30 น. และตอนกลางคืน 18.00 น. – 23.30น. ปิดบริการวันอาทิตย์

เว็บไซต์: moyan.jp


9. จิมโบโชวโชคุนิคุเซนตะ(JimbochouShokunikusenta)

ยังคงไม่หมดกับบุฟเฟต์ รอบนี้จัดไปสำหรับสายบุฟเฟต์ปิ้งย่างมื้อกลางวัน ราคาเบาๆ แค่ 950 เยน  สามารถทานได้ 45 นาที เข้าไปในร้านจะแอบทึ่งกับเฟอร์นิเจอร์ลังพลาสติกที่เอาไว้ใส่ของซึ่งทางร้านเอามาตั้งไว้แทนโต๊ะและเก้าอี้

 จิมโบโชวโชคุนิคุเซนตะ(JimbochouShokunikusenta)

 จิมโบโชวโชคุนิคุเซนตะ(JimbochouShokunikusenta)

 จิมโบโชวโชคุนิคุเซนตะ(JimbochouShokunikusenta)

ทำไมต้องไปทานร้านนี้? เป็นเนื้อย่างร้านเก่าแก่รับประกันความสดของเนื้อ เพราะเนื้อถูกคัดสรรส่งตรงมาจากฟาร์มที่ได้มาตรฐานส่งตรงวันต่อวัน เนื้อทั้งหมดหมักซอสมิโซะที่ส่งกลิ่นหอมยวนใจเมื่อย่าง ระหว่างรอเนื้อหมูหวานฉ่ำ ทางร้านก็จะออเดิร์ฟข้าว หอมใหญ่สไลด์ และซุปให้เราก่อนแนะนำว่าไม่ต้องย่างหมูให้สุกมาก เอาพอฉ่ำๆแล้วกินคู่กับหอมใหญ่ บอกเลย…ฟินมากก

 จิมโบโชวโชคุนิคุเซนตะ(JimbochouShokunikusenta)

การเดินทาง:นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Shijuku Line มาลงสถานี Jimbochoแล้วเดินอีก 5นาที

เวลาทำการ: บุฟเฟต์อาหารกลางวันทุกวัน11.30 น. – 14.30 น.

เว็บไซต์: JimbochouShokuniku


10. ลิตเติ้ลแลมบ์(Little lamb)

ใครที่เบื่ออาหารญี่ปุ่นหรือบุฟเฟต์ชาบูปิ้งย่างมารวมกันตรงนี้ค่ะ!! เราขอแนะนำร้านอาหารบุฟเฟต์สไตล์อาหารจีน ซึ่งมีอาหารให้เลือกมากกว่า 10 อย่าง เช่น ข้าวผัด ผัดหมี่ ผัดผัก เกี๊ยวซ่า เป็นต้น มีน้ำซุปให้พร้อมเครื่องเคียง และน้ำชาดื่มฟรีอีกด้วย!! เรื่องรสชาติก็จัดว่าโอเคเหมาะสมกับราคา 680 เยน สุดยอดไปเลยอ่า~

 ลิตเติ้ลแลมบ์(Little lamb)

 ลิตเติ้ลแลมบ์(Little lamb)

 ลิตเติ้ลแลมบ์(Little lamb)

ทำไมต้องไปทานร้านนี้? อย่างแรกคือใกล้สถานีซูกาโม่ ใช้เวลาเดินทางแค่ 1 นาทีเท่านั้น ถ้าเป็นปกติอาหารที่ร้านจะเป็นเซตชาบู แต่มื้อกลางวันจะเป็นบุฟเฟต์อาหารจีนซึ่งหาทานยากมากในญี่ปุ่น แถมราคาก็ถูกสุดๆ แค่ 600 เยนเท่านั้น!!! ทานอิ่มได้ไม่อั้น นับเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่กำลังอยากทานอาหารอื่นๆ ที่นอกเหนือจากอาหารญี่ปุ่น

 ลิตเติ้ลแลมบ์(Little lamb)

การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Me­­tro สาย Mita Line หรือ JR Yamanote Line มาลงสถานี JR Sugamoแล้วเดินอีก 1นาที(คลิกที่รูปภาพเพื่อดูแผนที่เต็ม)

เวลาทำการ: บุฟเฟต์อาหารกลางวันทุกวัน 11.30 น. – 14.30 น. ไม่มีวันหยุด

เว็บไซต์: Little lamb


11. บุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่น (Kyoto Ginyuba)

บุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นนี้ตั้งอยู่ในห้องอาหารชั้น 1 โรงแรม APA Ikebukuro ภายในตกแต่งแบบสไตล์โรงแรมทั่วไป มีความเรียบง่ายทว่าแฝงด้วยความหรูหรา แต่ราคาอาหารย่อมเยาแค่ 850 เยนเท่านั้น!!! อาหารเครื่องเคียงก็มีให้เลือกมากมาย เช่น มันฝรั่งทอดสลัดบาร์ ก๋วยเตี๋ยวผัด ผักโขม ซุปมิโซะ เป็นต้น แถมฟรีเครื่องดื่ม ชา กาแฟ และน้ำผลไม้อีกต่างหาก สุดยอด!!!

บุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่น (Kyoto Ginyuba)

บุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่น (Kyoto Ginyuba)

บุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่น (Kyoto Ginyuba)

บุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่น (Kyoto Ginyuba)

ทำไมต้องไปทานร้านนี้? ร้านเกียวโต กินยุบะ เป็นห้องอาหารที่อยู่ภายในโรงแรม APA Hote ซึ่งจะสะดวกสบายมากหากเราพักที่นั่นหรือถ้าไม่สถานที่นี้ก็อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟเกียวโตแค่ 500 เมตรเท่านั้น ราคาอาหารก็ไม่แพงแถมยังอร่อยมากอีกด้วย บริการก็ดีเยี่ยมระดับ 5 ดาวเลยทีเดียวนับว่าพลาดมากถ้าไม่มาลองทานอาหารที่นี่!

บุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่น (Kyoto Ginyuba)

การเดินทาง:เดินเพียง 5 นาทีจากสถานี Ikebukuro Station

เวลาทำการ: บุฟเฟต์อาหารกลางวันทุกวัน 11.00 น. – 15.00 น. ไม่มีวันหยุด

เว็บไซต์: gin-yuba.com


12. อาซากุสะอิมะฮัง(AsakusaImahan)

ในบรรดาอาหารญี่ปุ่นระดับออริจินัล ต้องถือว่าสุกี้ยากี้เป็นหนึ่งในเมนูที่สะท้อนความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างเด่นชัด ร้านอาซากุสะ อิมะฮัง เป็นร้านสุกี้ยากี้แท้ต้นตำรับญี่ปุ่น เปิดทำการมาแล้วกว่า 120 ปีด้วยเนื้อที่ได้คุณภาพและซอสสุกี้ยากี้สูตรลับของทางร้าน ทำให้สุกี้ยากี้ของที่นี่อร่อยไม่เหมือนใคร ทำให้เป็นที่โด่งดังและที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก แม้จะมีราคาที่ค่อนข้างแพงมากก็ตาม

อาซากุสะอิมะฮัง(AsakusaImahan)

อาซากุสะอิมะฮัง(AsakusaImahan)

อาซากุสะอิมะฮัง(AsakusaImahan)

อาซากุสะอิมะฮัง(AsakusaImahan)

ทำไมต้องไปทานร้านนี้? อย่างแรกคือคุณจะได้ทานสุกี้ยากี้แบบต้นตำรับแท้ซึ่งหาทานจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว สุกี้ยากี้ของแท้จะปรุงอาหารบนกระทะไม่ใช่หม้อ ตอนแรกจะเทซอสต้นตำหรับของร้านที่ทำมาจากส่วนผสมของซอสโชยุ น้ำตาล และซุปดาชิที่ได้จากปลาลงไปก่อน แล้วน้ำเนื้อชั้นดีลงไปย่างกับซอสพอขลุกขลิก จากนั้นก็คีบใส่ถ้วยที่ตีไข่ไว้เรียบร้อยแล้วทานเป็นคำแรกซึ่งคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่เขาปฏิบัติกัน รสชาติจะนุ่มลิ้น เนื้อหวานละมุนอย่าบอกใคร สงวนราคา 5000- 14000 เยน แล้วแต่เซตเนื้อที่เราเลือกค่ะ

อาซากุสะอิมะฮัง(AsakusaImahan)

การเดินทางเดิน5 นาที จากสถานีรถไฟใต้ดิน Tawaramachi หรือ เดิน 5 นาทีจากสถานี Asakusa

เวลาทำการ:เปิดทุกวัน เวลา 11.60 น. – 21.30 น.

เว็บไซต์: asakusaimahan.co.jp


13. พันโชชิบูยะ (Pancho Shibuya)

สปาเก็ตตี้ก็มา~~ ร้าน Panchoค่อนข้างมีชื่อเสียงมากในเรื่องเมนูสปาเก็ตตี้ มีสาขาอยู่หลายแห่งในญี่ปุ่น บรรยากาศในร้านอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ตกแต่งด้วยผ้าปูโต๊ะลายสก็อตสีแดงขาว มีเมนูให้เลือกมากมายโดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 750 เยน แต่ถ้าใครอยากลองของ ทางร้านมีเมนูขึ้นชื่อคือ ‘NaporitanSeijin’ เป็นสปาเก็ตตี้จานยักษ์หนัก 2.3 กิโลกรัม ราคา 1,680 เยน แต่เมนูจานยักษ์จะมีเสิร์ฟแค่ 6 สาขาเท่านั้น คือ Shibuya Kichijoji Akihabara Shimbashi Okachimachiและ Ikebukuro ค่ะ

พันโชชิบูยะ (Pancho Shibuya)

พันโชชิบูยะ (Pancho Shibuya)

พันโชชิบูยะ (Pancho Shibuya)

ทำไมต้องไปทานร้านนี้? เป็นร้านที่มีชื่อเสียงด้านสปาเก็ตตี้ในญี่ปุ่น ชาวต่างชาติส่วนใหญ่เลือกจะมาทานอาหารกันที่นี่ ด้วยความที่ทางร้านมีเมนูขึ้นชื่อเรื่องสปาเก็ตตี้จานยักษ์ ที่ทั้งราคาถูกและอร่อยมากจัดว่าเป็นร้านอาหารที่ต้องไปลองสักครั้งถ้ามีโอกาส

พันโชชิบูยะ (Pancho Shibuya)

การเดินทาง:เดินแค่ 1 นาทีจากสถานี Shibuya หรือ นั่งรถไฟ JR สาย Yamanote มาลงสถานี Shibuya ใช้เวลาประมาณ 5 นาที

เวลาทำการ: ทุกวัน เวลา 11.00 น. – 23.00 น.

เว็บไซต์: naporitanpancho.com


14. โอวาริยะ (Owariya)

ร้านโอวาริยะเป็นร้านเก่าแก่เปิดมาแล้ว 146 ปี อยู่ระหว่างสถานีรถไฟอาซากุสะและสถานีรถไฟทาวาระ อาหารขึ้นชื่อของร้านนี้จะเป็นโซบะเส้นนุ่มแสนอร่อย แต่ก็มีเมนูอาหารอื่นๆ ที่น่ากินเช่นกัน เช่น กุ้มเทมปุระขนาดใหญ่ รสชาติอร่อยเนื่องจากพิถีพิถันในการใช้น้ำมันงาทอดกรอบ และปิดท้ายด้วยอุด้งเส้นอวบเหนียวนุ่มกำลังดี ราคาอาหารเริ่มต้น 1000 – 1500 เยน

โอวาริยะ (Owariya)

โอวาริยะ (Owariya)

โอวาริยะ (Owariya)

ทำไมต้องไปทานร้านนี้? เป็นร้านโซบะและเทมปุระชื่อดังที่การันตีความอร่อยมา 146 ปี ใครไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วไม่ไปทานถือว่าพลาดมาก ใครจะไปทานต้องรอคิวนานหน่อยนะคะ ที่สำคัญใกล้สถานีอาซากุสะแหล่งอาหารชื่อดังอีกด้วย

โอวาริยะ (Owariya)

การเดินทาง: นั่งรถไฟ Tobu Isesaki Line มาลงสถานี Asakusaแล้วเดินต่ออีก 5 นาที

เวลาทำการ: เสาร์ – พฤหัสบดี เวลา 11.30 น. – 20.30 น.หยุดทุกวันศุกร์

เว็บไซต์: asakusa-umai.ne.jp/


15. ฮยองบูโชคุโด(HyungbooShokudo)

ไปเที่ยวญี่ปุ่นแต่อยากกินอาหารเกาหลี พรีเมี่ยมเวิลด์ทัวร์จัดให้ค่ะ (แอบแหวกแนวจากหัวข้อนิดหน่อย) มีเมนูให้เลือกทานมากมาย เช่น ซุปกิมจิ บิบิมบับ ไก่ตุ๋นโสม ซี่โครงหมู เป็นต้น สงวนราคาอยู่ที่ 880 – 1370 เยน เรื่องรสชาติรับประกันความอร่อยเพราะมี 4 ดาวเป็นที่รับรองของชาวญี่ปุ่นเรียบร้อย สุดยอด!

 ฮยองบูโชคุโด(HyungbooShokudo)

 ฮยองบูโชคุโด(HyungbooShokudo)

 ฮยองบูโชคุโด(HyungbooShokudo)

ทำไมต้องไปทานร้านนี้?อย่างแรกคือเป็นร้านเกาหลีชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น ต่างชาติส่วนใหญ่ชอบมาทานกันร้านนี้ มีพรีเซ็นเตอร์ดารานักร้องเกาหลีมาทานกันมากมาย ฮยองบูเป็นร้านอาหารเกาหลีชื่อดังที่ได้ระดับ 4 ดาว จากเว็บรวมรวมร้านอาหารชื่อดังของญี่ปุ่นอย่าง gurunabiเลยทีเดียว รสชาติก็เกาหลีแท้ๆ เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่เบื่ออาหารญี่ปุ่นแล้วอยากทานอาหารอย่างอื่นบ้าง

 ฮยองบูโชคุโด(HyungbooShokudo)

การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Chiyoda Line มาลงสถานี Akasaka แล้วเดินต่ออีก 2 นาที

เวลาทำการ: เปิด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด

เว็บไซต์: hyungboo.com


16. โซเมะทาโร่ โอโคโนะมิยากิ (SometaroOkonomiyaki)

ใครที่ชื่นชอบอารมณ์แปลกใหม่แนะนำร้าน Sometaro เลยค่ะ เข้าไปในร้านปุ๊บจะเห็นโต๊ะนั่งแบบญี่ปุ่นที่วางบนเสื่อทาตามิ ให้ความรู้สึกดั่งเดิมแบบสุดๆ กระทะจะมีให้ทุกโต๊ะ สามารถเลือกเมนูและท็อปปิ้งต่างๆ มาผัดกินเองได้เลย แต่ถ้าอยากนั่งกินสบายๆ สามารถเรียกพนักงานมาผัดให้ก็ได้ค่ะ เมนูขึ้นชื่อของที่นี่คือ ‘โอโคโนมิยากิ’ อร่อยฟินจนต้องบอกต่อเลยทีเดียว ราคาเริ่มต้นที่ 690 เยน

 โซเมะทาโร่ โอโคโนะมิยากิ (SometaroOkonomiyaki)

 โซเมะทาโร่ โอโคโนะมิยากิ (SometaroOkonomiyaki)

 โซเมะทาโร่ โอโคโนะมิยากิ (SometaroOkonomiyaki)

ทำไมต้องไปทานร้านนี้? เป็นร้านพิซซ่าญี่ปุ่นเก่าแก่ มีชื่อเสียงมานาน ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับวัดอาซะกุ วัตถุดิบนั้นก็ถือว่าสดดีมีคุณภาพจึงสามารถปรุงได้อย่างอร่อยมีเมนูเด็ดของร้าน คือ osome-yakiจะได้แป้ง ผัก ซอสที่มากกว่า ดังนั้นเมนูนี้พนักงานจะมาช่วยทำทุกขั้นตอน รอทานอย่างเดียวเลยค่ะ

 โซเมะทาโร่ โอโคโนะมิยากิ (SometaroOkonomiyaki)

การเดินทาง:นั่งรถไฟสาย Tokyo Metro Ginza Line มาลงสถานีรถไฟ Tawaramachi แล้วเดินต่อ 3 นาที หรือ นั่งรถไฟสาย Tobu Skytree Line มาลงสถานี Asakusa แล้วเดินต่อ 4 นาที

เวลาทำการ: เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 12.00 น. – 22.30 น.

เว็บไซต์: SometaroOkonomiyaki


17. คุระซูชิ (Kura Sushi)

เกือบลืมร้านซูชิเด็ดๆไปแล้ว จัดไปกับร้าน Kura Sushi เจ้าดัง ซึ่งเป็นที่นิยมมากๆในประเทศญี่ปุ่น ร้านนี้ใช้ระบบกดบัตรคิวและบริการตัวเองนะคะ เพราะคนค่อนข้างเยอะไม่เหมาะสำหรับคนที่หิวมากๆ ซูชิร้านนี้ถูกปั้นออกมาจากเครื่องแต่ไม่ต้องห่วงเรื่องความสดใหม่ เนื่องจากมีการตั้งเวลาเอาไว้ ถ้าเกินกำหนดเวลาก็จะถูกทิ้งทันที

สายพานซูชิของที่นี่แบ่งออกเป็น 2 ชั้น โดยชั้นบนจะเป็นซูชิสั่งทำพิเศษที่มีราคาสูง ส่วนสายพานด้านล่างเราสามารถหยิบได้ตามใจชอบเลยค่ะ ราคาอยู่ที่ 100 เยน แต่ที่สนุกสุดๆ เมื่อกินครบ 5 จานก็จะได้ลุ้นรับของเล่นและรางวัลจากกล่องใสที่บรรจุลูกบอลหลากสีเอาไว้ โดยเราจะต้องใส่จานที่กินหมดแล้วลงไปในช่องที่อยู่ตรงโต๊ะเพื่อเป็นการนับจาน สุดยอดไปเลยอ่ะ

คุระซูชิ (Kura Sushi)

คุระซูชิ (Kura Sushi)

คุระซูชิ (Kura Sushi)

ทำไมต้องไปทานร้านนี้? เพราะเป็นร้านซูชิชื่อดังที่คนต่อคิวรอทานเยอะที่สุด สามารถกดบัตรคิวทิ้งไว้แล้วไปเดินเล่นรอเป็นชั่วโมงก็ยังได้ ที่คนยังยอมรอนานขนาดนี้ก็เป็นเพราะรสชาติที่อร่อย ข้าวซูชิปั้นดีไม่แข็งเป็นก้อน เมนูยอดนิยมอย่างปลาทูน่าหยิบทานกันได้เลยบนสายพาน ถ้าจะสั่งเมนูพิเศษสามารถกดสั่งที่จอตรงโต๊ะได้เลย

คุระซูชิ (Kura Sushi)

การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line มาลงสถานี Ikebukuro แล้วเดินอีก 5 นาที

เวลาทำการ: เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 11.00 น. – 23.00 น.

เว็บไซต์: kura-corpo.co.jp


18. โคโคโนะเอะ (Kokonoe)

อะเกะมันจู หรือที่รู้จักกันในนามโมจิทอด เรียกบ้านๆ กว่านี้ก็ซาลาเปาทอดสอดไส้ มีร้านชื่อดังชื่อ ‘โคโคโนเอะ’ ซึ่งอยู่ใกล้กับวัดเซนโซจิทางร้านเขาจะทอดซาลาเปาขายกันสดๆ ขายดีแบบทอดไม่ทันกันเลยทีเดียว มีให้เลือกหลายไส้ เช่น ถั่วแดง งาดำ ฟักทอง คัสตาร์ด มันหวาน ชาเขียว หมู หรืออย่างในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะมีไส้ซากุระให้ลองทานอีกด้วย ในส่วนของรสชาติก็อร่อยดีค่ะ แป้งบางๆ ไม่หวานจนเกินไป ราคาตกอยู่ที่ชิ้นละ 120 – 200 เยนค่ะ

โคโคโนะเอะ (Kokonoe)

โคโคโนะเอะ (Kokonoe)

ทำไมต้องไปทานร้านนี้? ร้านอยู่ใกล้วัดเซนโซจิ ใครมาก็เป็นต้องแวะมาลองชิมทุกคน เพราะร้านนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ใครที่แวะมาที่วัดแล้วไม่ลองไปชิมถือว่าพลาดสุดๆ ยิ่งถ้าไปช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะได้ลองทานไส้ซากุระอีกด้วย ซึ่งหาทานจากที่ร้านไหนไม่ได้อีกแล้ว ถ้ามีโอกาสอย่าลืมลองแวะไปทานกันนะคะ

โคโคโนะเอะ (Kokonoe)

การเดินทาง: นั่งรถไฟสาย Asakusa Line มาลงที่สถานี Asakusa แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที

เวลาทำการ: เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 11.00 น. – 23.00 น.

เว็บไซต์: AgemanjuAsakusaKokonoe


19. เทนชิโนะนิวะ (Tenshinoniwa)

ร้านเค้กญี่ปุ่นน่ารักๆ Tenshinoniwa มีชื่อแปลน่ารักๆ ว่า ‘ทูตสวรรค์ประจาสวน’มีสัญลักษณ์ของร้านคือปีกสีขาวที่ติดอยู่บนประตู ตัวร้านด้านนอกเป็นกระจกใสวางขอบสีฟ้าอ่อน ส่วนด้านในร้านก็ตกแต่งน่ารัก ดูอบอุ่นสดใสน่านั่งสุด

เทนชิโนะนิวะ (Tenshinoniwa)

เทนชิโนะนิวะ (Tenshinoniwa)

เทนชิโนะนิวะ (Tenshinoniwa)

ทำไมต้องไปทานร้านนี้? ที่ร้านจำหน่ายเค้กแบบ Gluten-free คือเป็นเค้กที่ไม่มีส่วนผสมของแป้งสาลี และยังเป็นเค้กที่ปราศจากการใส่สีหรือสารกันบูดอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเมนูเค้กทางเลือกสำหรับผู้ที่แพ้ไข่ไก่ โดยการทำ Sponge Cake เค้กเนื้อฟองน้ำให้อร่อยได้โดยไม่ต้องใส่ไข่ไก่ มีนับว่าเป็นร้านที่ใส่ใจลูกค้ามากๆ ในส่วนของรสชาติก็ไม่หวานมาก จัดว่าเหมาะกับคนกลัวอ้วน ราคาประมาณชิ้นละ 500 เยน

เทนชิโนะนิวะ (Tenshinoniwa)

การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย Higashiyamaหรือ นั่งรถไฟสาย Chuo Line มาลงที่สถานี Chikusaทางออกที่ 1แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5นาที

เวลาทำการ: ตั้งแต่ 11.00 น. – 18.00 น.หยุดวันอังคาร

เว็บไซต์: tenshinoniwa1125.jimdo.com


20. แพนเค้ก เฮ้าส์ ฮอยฮอย(Pancake House HoiHoi)

Pancake House HoiHoi เป็นร้านแพนเค้กชื่อดังแถวนาโกย่า การตกแต่งร้านน่ารักสไตล์ยุโรป นอกร้านมีเทอเรซยื่นออกมาเอาไว้นั่งรับลมสุดชิล

แพนเค้ก เฮ้าส์ ฮอยฮอย(Pancake House HoiHoi)

แพนเค้ก เฮ้าส์ ฮอยฮอย(Pancake House HoiHoi)

แพนเค้ก เฮ้าส์ ฮอยฮอย(Pancake House HoiHoi)

แพนเค้ก เฮ้าส์ ฮอยฮอย(Pancake House HoiHoi)

ทำไมต้องไปทานร้านนี้? เพราะเป็นแพนเค้กออริจินอลฝั่งยุโรปที่หาทานยากมากในญี่ปุ่น เอกลักษณ์แพนเค้กของที่ร้านทั้งรสชาติและการตกแต่งโดดเด่นเป็นสไตล์ฮาวาย การเลือกใช้แป้งก็พิถีพิถันเป็นบัตเตอร์มิลค์สูตรพิเศษที่ทางร้านคิดค้นขึ้นมาเอง ทำให้มีผู้คนมาต่อคิวยาวรอซื้อแทบทุกวัน เมนูมีให้เลือกทานมากมาย เช่น Tower pancake ซึ่งเป็นจุดเด่นของร้าน หรือ Strawberry whip, Chocolate chip เป็นต้น ราคาเริ่มต้นที่ 520 – 980 เยน

แพนเค้ก เฮ้าส์ ฮอยฮอย(Pancake House HoiHoi)

การเดินทาง:นั่งรถไฟใต้ดิน สาย Meijo Line มาลงสถานี Yabachoทางออกที่ 1 แล้วเดินต่ออีก 5 นาที

เวลาทำการ:อังคาร – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่ 11.00 น. – 19.00 น.วันหยุดปกติเป็นวันจันทร์ แต่ในกรณีวันหยุดนักขัตฤกษ์ตรงกับวันจันทร์ ทางร้านจะเลื่อนวันหยุดเป็นวันถัดไป *สั่งออเดอร์สุดท้ายได้ถึง 18.30 น.*

เว็บไซต์: pancake-hoihoi.com


เป็นยังไงกันบ้างคะ? อ่านจบแล้วอยากไปทานกันเลยล่ะสิ ใครที่ก าลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่ นหรืออยู่ที่ญี่ปุ่ นแล้ว แนะน าให้ลองไปทานเลยค่ะ ราคาส่วนใหญ่ก็ไม่แพงมาก แต่เรื่องรสชาติ(ย ้าอีกรอบ) อร่อยมากจริงๆค่ะ ของดีขึ ้นชื่อของประเทศญี่ปุ่ นทั ้งนั ้น สุดท้ายนี้ … ฝากติดตามเรื่องราวดีๆ จากประเทศญี่ปุ่นได้อีกเร็วๆ นี้ค่ะ

ข้อมูลและรูปภาพ, พรีเมี่ยมเวิลด์ทัวร์

ขอเชิญเพื่อนๆ ที่น่ารักทุกคน ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางซึ่งควรค่าแก่การ Follow ดังต่อไปนี ้…

Website : https://www.premiumworldtour.info
Fanpage: https://facebook.com/premiumworldtour.info
LINE@ : @premiumworldtour