เที่ยวตามรอยนัก พยากรณ์

Home / นักเที่ยวเชี่ยวทาง / เที่ยวตามรอยนัก พยากรณ์

  เป็นโอกาสดีสำหรับเราอีกครั้งแล้วที่ได้มีโอกาสติดตาม อ.คฑา ชินบัญชร นักพยากรณ์ไพ่ยิปซีชื่อดังของเมืองไทย ซึ่งรับหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ของโครงการ เที่ยวทั่วไทย สุขใจเสริมมงคล ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ปีที่ 3 ติดต่อกัน และปีนี้เป็นโอกาสพิเศษที่การท่องเที่ยวฯ ครบรอบ 50 ปี

เที่ยวตามรอยนัก พยากรณ์

เที่ยวตาม รอยนักพยากรณ์

นอกจาก อ.คฑา ชินบัญชรจะนำทริปเผยแพร่การท่องเที่ยวเชิงศาสนา วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์แล้ว ยังได้นำการท่องเที่ยวแบบย้อนยุคมาผสมผสานเข้ากับทริปได้อย่างลงตัวโดยทริปแรกของปีนี้ทางภาคเหนือก่อนเกาะกระแสปีเสือดุเสริมมงคลให้คนปีเสือภายใต้คอนเซปท์ ไหว้พระธาตุปีเสือ สืบตำนานล้านนา กับตำนานพระเจ้าเลียบโลก เสริมมงคลชีวิตตามเส้นทางสุโขทัย กำแพงเพชร แพร่  เห็นชื่อตอนยาวเหยียดออกแนวศาสนา ประวัติศาสตร์จ๋าขนาดนี้ อย่าเพิ่งจิตนาการไปเองว่าทริปนี้จะน่าเบื่อไม่โดนใจวัยโจ๋ แต่หากคิดอีกแบบการท่องเที่ยวแบบรู้ลึก รู้จริงในสถานที่นั้นๆ ก็ไม่ใช้เรื่องที่น่าเบื่อแต่อย่างใด เที่ยวแบบรู้จริงเหมือนคนท้องถิ่นสุขกาย สบายใจกว่าเป็นไหนๆ

เที่ยวตาม รอยนักพยากรณ์

กับการเดินทางที่สะดวกและประหยัดเวลาด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส  สายการบินเดียวที่เปิดเที่ยวบินไปยังเมืองมรดกโลกสุโขทัยแห่งนี้ บรรยากาศยามเช้าตอนเครื่องลงถึงเมืองหลวงเก่าของเรานั้นแสนจะเย็นสบาย ซึ่งว่ากันว่ายามเช้าที่นี่อากาศดีตลอดทั้งปี ก่อนจะแบกกระเป๋าเดินทางไปที่พักและท่องเที่ยวยังจุดหมายในที่ต่างๆ หากยังไม่อิ่มท้องจากอาหารบนเครื่อง ขอแนะนำให้ลองแวะเข้าไปชิมก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ที่ ร้านก๋วยเตี๋ยวลานบินที่อยู่ไม่ห่างจากตัวอาคารผู้โดยสารมีบริการจักรยานฟรีให้ผู้โดยสารปั่นชมบริเวณรอบๆ สนามบินอีกด้วย

เที่ยวตามรอยนักพยากรณ์ (ก๋วยเตี๋ยวลานบิน)

เที่ยวตาม รอยนักพยากรณ์

ทริปของเราเริ่มด้วยการสักการะ ศาลพระแม่ย่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองสุโขทัยเชื่อกันว่าหากใครมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจอะไรหากได้มาไหว้ ศาลพระแม่ย่า แล้วเรื่องทุกข์ร้อนใจจะคลี่คลายไปในทางที่ดี พระแม่ย่าองค์นี้สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับพระมารดาคือ นางเสือง การที่เรียกว่า “พระแม่ย่า” นี้เพราะว่า พ่อขุนรามฯ ทรงเรียกพระมารดาว่า “พระแม่” และชาวเมืองสุโขทัยเคารพพ่อขุนรามคำแหงเสมือนพ่อ หากใครจบจากรั้วรามคงจำได้จากบทบูมพ่อขุน พ่อกูขุนศรี แม่กูนางเสือง พี่กูบานเมือง……. (4-5)

เที่ยวตาม รอยนักพยากรณ์ (ศาลพระแม่ ย่า)

เที่ยวตาม รอยนักพยากรณ์

ดังนั้น เราจึงเรียกพระมารดาของพ่อขุนว่า “พระแม่ย่า” นั่นเอง นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย (จำลอง) ขนาดเล็กกว่าองค์จริงที่มีลักษณะงดงามจำนวน 9 องค์ เรียกว่า 9 พระพุทธสุดแผ่นดิน ซึ่งประกอบด้วย พระพุทธรูปปางลีลา, พระพุทธสิหิงค์, พระสุโขทัยไตรมิตร, พระศรีศากยมุนี, พระพุทธชินสีห์, หลวงพ่อร่วง, พระพุทธไสยาสน์, พระศาสดา และพระร่วมโรจนฤทธิ์ ความสวยงามของแต่ละองค์ทำให้สถานที่แห่งนี้ขลังและอลังการ

image

4580-attachment

หลังจากนั้นเราก็ได้มาลิ้มลองอาหารกลางวันแบบพื้นเมืองกัน ณ สวนอาหารสินวนา รีสอร์ท รับประทานอาหารแสนอร่อยพร้อมกับสัมผัสอากาศเย็นสบาย ขอแนะนำเมนูที่ต้องลอง อาทิ ลาบเนื้อปลากรายทอด แกงเลียงปลาย่าง ฉู่ฉี่ปลาเค้า

เที่ยวตามรอยนักพยากรณ์

เมื่ออิ่มท้องกันแล้วเราเดินทางสู่ จังหวัดกำแพงเพรชกันต่อยัง อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร เมืองมรดกโลกริมแม่น้ำปิง และเราได้ข้ามแม่น้ำปิงไปยังฝั่งนครชุมนมัสการ องค์พระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดพระบรมธาตุนครชุม แต่เดิมพระบรมธาตุเจดีย์ เป็นพระเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ปัจจุบันเป็นเจดีย์ทรงไทยประยุกต์ผสมมอญ และที่นี่ยังมีต้นพระมหาศรีโพธิ์ 3 ต้น ขนาด 10 คนโอบ แต่ตอนนี้มีเหลือแค่ 2 ต้นเพราะ 1 ต้นริมตลิ่งได้ถูกน้ำเซาะโค่นลงแม่น้ำปิงไปแล้ว

เที่ยวตามรอยนักพยากรณ์ (ต้นพระมหาศรีโพธิ์)

พร้อมเข้าร่วมงาน ประเพณีนบพระเล่นเพลงในแผ่นดินพระเจ้าลิไทซึ่งเป็นประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ภายในงานมีขบวนแห่นมัสการพระบรมธาตุ การจัดแสดงสินค้า OTOP และการแสดง แสง สี เสียง เรื่องราวของการละเล่น วิถีชีวิต และการต่อสู้เพื่อรักษาแผ่นดินของบรรพบุรุษชาวกำแพงเพชร

เที่ยวตามรอยนักพยากรณ์

วันที่สองของการเดินทาง จุดหมายหลักของเราอยู่ที่จังหวัดแพร่นครแห่งวรรณกรรม อมตะลิลิตพระลอซึ่งเราจะมุ่งหน้าไปเยี่ยมชมวัดพระสุโทนมงคลคีรีที่มีพระนอนองค์ใหญ่ประจำคนเกิดวันอังคาร และ วัดพระธาตุช่อแฮ่ ที่ประดิษฐานของพระบรมธาตุประจำผู้ที่เกิดปีขาล แต่ก่อนจะไปจะไปนมัสการทั้ง 2 วัดนี้ เราได้แวะชม พิพิธภัณฑ์ผ้าทองคำ อำเภอศรีสัชนาลัย แหล่งรวมผ้าทอพื้นเมืองโบราณ ซึ่งผ้าแต่ละผืนล้วนเป็นผ้าทอมือที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวไทยพวนที่สืบทอดต่อกันมายาวนาน

เที่ยวตามรอยนักพยากรณ์ (พิพิธภัณฑ์ผ้าทองคำ)

นอกจากนี้ยังมีผ้าซิ่นทองคำผืนเก่าที่มีอายุมากกว่าร้อยปี และมีผ้าซิ่นทองคำผืนใหม่ที่ถูกจัดทอขึ้นเพื่อใช้ในพิธีแต่งงานของลูกสาวสุดที่รักของผู้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ท่านผู้นั้นคือคุณลุงสาธร โสรัจประสพสันติ ซึ่งคุณลุงสาธรได้เป็นถ่ายทอดเรื่องราวความรู้ของผ้าทอลายต่างๆ รวมทั้งสิ่งของโบราณต่างๆ ที่ได้เก็บสะสมไว้ อย่างภาคภูมิใจ ให้แก่พวกเราคนรุ่นหลังได้ซึมซับเรื่องราวในอดีต ด้านหลังของพิพิธภัณฑ์นั้นได้มีการจัดแสดงเรือนไทยของ ชาวไทยพวนในสมัยโบราณ และมีการสาธิตกรรมวิธีในการทอ ผ้าซิ่นตีนจก ของชาวไทยพวนบ้านหาดเสี้ยวให้เราได้ศึกษาอีกด้วย

เที่ยวตามรอยนักพยากรณ์ (พิธภัณฑ์ผ้าทองคำ)

เที่ยวตามรอยนักพยากรณ์ (พิธภัณฑ์ผ้าทองคำ)

เที่ยวตาม รอยนักพยากรณ์

จากนั้นเราได้เดินทางต่อเพื่อมากราบนมัสการ วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรีที่อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ชมพิพิธภัณฑ์ทำด้วยไม้สักทองทั้งหลัง จำลองงานศิลปะภาคเหนือและวัตถุโบราณหาชมได้ยาก ไฮไลท์ที่วัดนี้ยังรวมถึงพระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์ใหญ่ยักษ์ โดยพระพักตร์แย้มสรวลละม้ายคล้ายคลึงกับพระนอนปากแดงที่พม่า ซึ่งพระปางไสยาสน์นี้เป็นพระพุทธรูปประจำวันอังคารอ.คฑา ชินบัญชร จึงนำทุกคนที่เกิดวันอังคารที่ร่วม ทริปในครั้งนี้สวดมนตร์เพื่อเสริมสิริมงคลให้แก่ตนเอง

เที่ยวตามรอยนักพยากรณ์ (พระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์ใหญ่ยักษ์)

เที่ยวตามรอยนักพยากรณ์

เที่ยวตามรอยนักพยากรณ์ ( อ.คฑา ชินบัญชร)

ระหว่างการเดินไป วัดพระธาตุช่อแฮ เราได้แวะที่ ชมกรรมวิธีการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าม่อฮ่อมดั้งเดิมจากธรรมชาติ โดยมีคุณป้าเหลืองผู้สืบทอดความรู้แบบภูมิปัญญาชาวบ้านนี้ต่อจากรุ่นคุณปู่ คุณย่า เป็นผู้ให้ความรู้ การทำน้ำเพื่อย้อมผ้าม่อฮ่อมนี้เราตัดกิ่งต้นฮ่อมมาผูกรวมกันเป็นมัดๆ และแช่น้ำเปล่าไว้ 2 วัน 2 คืน น้ำจะเป็นสีเขียวจากนั้นใส่ปูนขาวลงไปเพื่อช่วยในการแยกกาก ถ้าหากได้ที่แล้วน้ำจะกลายเป็นสีน้ำเงินและปล่อยให้มันตกตะกอน จากนั้นใช้น้ำขี้เถ้าผสมก็จะได้น้ำย้อมที่เก็บได้นานเป็น 10 ปี ผลิตภัณฑ์ผ้าม่อฮ่อมที่เป็นที่นิยมนอกจากแบบผ้าสีพื้นๆ แล้ว ยังมีผ้าแบบลงเทียนเพื่อให้มีลวดลายสวยงาม

เที่ยวตามรอยนักพยากรณ์ (ผลิตภัณฑ์ผ้าม่อฮ่อมดั้งเดิมจากธรรมชาติ

เที่ยวตามรอยนักพยากรณ์ (ผลิตภัณฑ์ผ้าม่อฮ่อมดั้งเดิมจากธรรมชาติ

แล้วเราก็เดินทางต่อไปยังวัดพระธาตุช่อแฮ เพื่อนมัสการพระเกศาธาตุและพระบรมสารีริกธาตุส่วนข้อศอกซ้ายของพระพุทธเจ้า ซึ่งถือเป็นพระบรมธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาล บรรยากาศในวัดดูคึกคักเพราะมีผู้คนมากมายทั้งเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ ต่างเดินทางมาร่วมทำบุญและนมัสการพระธาตุ

เที่ยวตามรอยนักพยากรณ์ (นมัสการพระเกศาธาตุและพระบรมสารีริกธาตุ)

เที่ยวตามรอยนักพยากรณ์ (พิธีห่มผ้าองค์พระธาตุ)

ส่วนทางทริปเราก็มีโอกาสดีที่ได้ร่วมกันทำพิธีห่มผ้าองค์พระธาตุ เพื่อความสิริมงคลตลอดทั้งปีขาลนี้ อย่างไรก็ตามเนื่องจากปีนี้เป็นปีขาลไม่ว่าจะเกิดตรงกับปีขาลหรือปีนักษัตรใดหากได้มาสักการะพระธาตุช่อแฮ่เชื่อกันว่าจะเกิดความสุขความเจริญเกิดเป็นสิริมงคลในชีวิต

เที่ยวตามรอยนักพยากรณ์ (พระธาตุช่อแฮ่)

ปิดท้ายการเดินทางของวันนี้ด้วยการแวะรับประทานอาหารเย็นกันที่ร้านอาหารม่อนลับแล ม่อนที่มีเสน่ห์การต้อนรับที่ประทับใจไม่รู้ลืม มีอาหารรสเลิศสไตล์พื้นบ้าน อาทิ แกงอ่อมหมู น้ำพริกมะขามสดไข่เค็ม  ยำสับปะรดห้วยมุ่น และเพิ่มความสดชื่นหลังการเดินทางด้วยพั้นซ์มะเฟืองชุ่มคอ

เที่ยวตามรอยนักพยากรณ์ (อาหารรสเลิศสไตล์พื้นบ้าน)

วันสุดท้ายของทริปนี้เราได้ย้อนสู่วิถีชีวิตธรรมชาติกัน กับการได้ไปศึกษาโครงการเกษตรอินทรีย์ ลิ้มชิมรสผักสวนครัวสดกรอบจากไร่ออร์แกนิค ซึ่งเป็นโครงการของสนามบินสุโขทัย เพื่อให้ได้บรรยากาศชาวไร่ชาวสวนอย่างแท้จริง เราได้นั่งพ่วงไถนาเปรียบเหมือนเรานั่งรถเปิดประทุนของที่นั่นแบบมีลมพัดโชยเป็นระยะๆ  เพื่อไปดูแปลงนาสวนผสมกัน เรามุ่งไปดูแปลงผักสวนครัวกันก่อนซึ่งที่มีผักหลายหลากชนิด อาทิเช่น ถั่วฝักยาว ผักกาดหอม และผักหวาน ซึ่งทุกๆ คนได้ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันเก็บผัก และอีกหลายคนก้อตั้งใจถ่ายภาพชอตเด็ดการเก็บผักของเพื่อนๆ ที่มีหลากหลายวิธีกันอย่างสนุกสนาน

เที่ยวตามรอยนักพยากรณ์ (โครงการเกษตรอินทรีย์)

เท่านั้นยังไม่พอเราได้เดินทางไปดูชุมชนโรงสีข้าวของทางสนามบิน ข้าวที่นี่เป็นข้าวระดับพรีเมี่ยมที่คัดพิเศษเฉพาะข้าวที่เมล็ดสวยและสมบูรณ์ และมีให้เลือกหลากหลายทั้งข้าวกล้องหอมดำ ข้าวกล้องหอมแดง ข้าวกล้องหอมผสม และข้าวซ้อมมือสีชมพู นอกจากเดินชมการสีข้าวแล้วเรายังได้ชมการคัดเมล็ดข้าวของที่นี่ซึ่งไม่ได้ใช้เครื่องจักรอย่างหลายๆ โรงสีใช้กัน ที่นี่คัดเมล็ดข้าวอย่างละเอียดละออโดยการใช้แรงงานคนในการคัด ซึ่งแต่ละคนนั่งคัดเมล็ดข้าวแทบจะเมล็ดต่อเมล็ดกันเลยทีเดียว

เที่ยวตามรอยนักพยากรณ์ (ชุมชนโรงสีข้าว)

มีข้าวหลายยี่ห้อในท้องตลาดได้สั่งข้าวจากโครงการนี้เพื่อจัดจำหน่ายในรูปแบบบรรจุถุงสูญญากาศ รวมถึงทางสายการบิน บางกอกแอร์เวย์ส  ก็ได้ใช้บริการผักสวนครัวและข้าวจากโครงการเกษตรอินทรีย์ เพื่อปรุงเมนูแสนอร่อยคอยบริการลูกค้าบนเครื่องด้วย  และจากนั้นทางไร่ก็ได้นำผักสดๆ ที่เราเก็บกันกับมือมาปรุงเป็นอาหารจานเด็ดให้รับประทานกัน นั่นก็คือ ส้มตำผักหวาน เมนูแปลกใหม่แบบนี้ไม่ลองไม่ได้แล้ว  รับประทานส้มตำผักหวานแสนอร่อยพร้อมด้วยหมั่นโถวร้อนๆ ช่างเข้ากันได้ดีจริงๆ จากนั้นก้อลิ้มรสคุกกี้รำข้าว และตบท้ายด้วยน้ำใบข้าวปั่น ชื่นใจไปตามๆ กัน

เที่ยวตาม รอยนักพยากรณ์

จากการดื่มด่ำธรรมชาติกันอย่างเพลิดเพลินเกินเวลาที่กำหนด ทำให้เราทุกคนต้องรีบแปลงร่างเป็นนั่งวิ่ง 4×100 กัน เพื่อให้ทันเครื่องบินของทางสายการบิน บางกอกแอร์เวย์ส  ที่พร้อมทะยานขึ้นฟ้าทันทีที่คณะเราขึ้นเครื่องเรียบร้อย

เที่ยวตามรอยนักพยากรณ์ (บางกอกแอร์เวย์ส )

ความสนุกสานผสมผสานความรู้จากทริป 3 วัน 2 คืน กับการตามเส้นทางสุโขทัย กำแพงเพชร แพร่  ของ โครงการ เที่ยวทั่วไทย สุขใจเสริมมงคล”  นี้ ต้องขอขอบพระคุณ อ.คฑา ติดตาม อ.คฑา ชินบัญชร เป็นอย่างสูงที่ได้ให้โอกาสทาง Mthaiของเราได้ร่วมสัมผัสกับประสบการณ์ที่หาได้ยากเช่นนี้ หากเพื่อนๆ คนใดอย่างลองเที่ยวเมืองไทย สัมผัสประวัติศาสตร์ชาติไทยของเรา พร้อมทั้งได้ทำบุญไหว้พระ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองแล้วล่ะก้อ พลาดไม่ได้เด็ดขาดกับทริปดีๆ แบบนี้