ชวนไปเคลื่อนเศรษฐกิจที่งาน“อินโดไชน่าแฟร์ 2010”
บ่ายอ่อน ๆ ในวันพุธกลางสัปดาห์เช่นนี้ ทีมงานจิงโจ้เป็นโล้เป็นพายข่าวได้รับจดหมายเชิญไปร่วมงานแถลงข่าวครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาติไทย (เว่อดีมั้ย?)
ขอตอบแทนข้อความในวงเล็บเลยว่า ไม่ได้เว่อเกินจริงแต่อย่างใด เพราะนี่คือกิจกรรมยักษ์ที่ ททท. ร่วมกับจังหวัดพิษณุโลกจัดงานอินโดไชน่าแฟร์ 2010 ขึ้นที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทในระยะเวลาอันสั้น
กระตุ้นยังไง?
ทำไมต้องพิษณุโลก?
ตอบทีละคำถามอาจจะง่ายเกินไป ขอตอบรวบหัวรวบหางทีเดียวเลยแล้วกัน
ประเทศในแถบอินโดจีนต่างจับมือกันร่วมพัฒนาเส้นทางเศรษฐกิจที่จะเชื่อมตั้งแต่ประเทศพม่าทะลุผ่านประเทศไทย ออกลาว ไปสิ้นสุดที่เวียดนาม และเส้นทางดังกล่าวพาดผ่านจังหวัดพิษณุโลกเต็ม ๆ
พูดแค่นี้ก็ยังเกิดคำถามว่า นอกจากจะผ่านพิษณุโลกแล้ว เส้นทางที่ว่าก็ยังผ่านจังหวัดอื่นด้วยนี่นา แล้วทำไมพิษณุโลกถึงโดดเด่นเป็นสง่าในแผนพัฒนาเส้นทางเศรษฐกิจนี้ล่ะ
คำตอบไม่มีอะไรลึกลับครับ เพราะนอกจากจะมีเส้นทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจจะวิ่งผ่านพิษณุโลกจากพม่าไปสู่เวียดนามในแนว‘ตะวันตก-ตะวันออก’ แล้ว ยังมีเส้นทางเศรษฐกิจอีกสายที่ลากยาวจากมาเลเซียขึ้นเหนือสู่ประเทศจีนในแนว‘เหนือ-ใต้’
คงเดากันไม่ยากใช่มั้ยครับว่า 2 เส้นทางดังกล่าววิ่งมาตัดกันที่จังหวัดไหน
ด้วยเหตุผลง่าย ๆ นี้เอง ทำให้พิษณุโลกกลายเป็นสมรภูมิสำคัญในการดักตีหัวนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ แล้วจะไม่ให้ผมพูดว่างานแถลงข่าวนี้สำคัญสุด ๆ ได้อย่างไร
ย้ำกันอีกครั้งว่างาน “อินโดไชน่าแฟร์ 2010” จะจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลก ในระหว่างวันที่ 4–13 ธันวาคมศกนี้ ภายในงานจะขนจะแห่แหนของดีชั้นนำของจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียงมาโชว์กันเต็มที่ ไม่ว่าจะ
– สินค้าโอท็อประดับ 3– 5 ดาว
– สินค้าส่งออกด้านทรัพย์สินทางปัญญา
– อาหารชั้นยอดคัดเลือกจากร้านชื่อดังในจังหวัด
– สินค้าธงฟ้าแฟรนไชส์ต่าง ๆ
– ผลไม้ขึ้นชื่อตามฤดูกาล
– คลินิกบริการร้านธุรกิจ เพื่อให้คำปรึกษาผู้ประกอบการในการเตรียมตัวรับมือการหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยว
– กิจกรรมบันเทิงตลอดทั้งวันทุกวัน จากศิลปิน ดารา และนักร้องชื่อดังคับคั่ง
– และที่สำคัญที่สุด งานนี้จะมีการเจรจาการค้าระหว่าง 6 ประเทศที่เข้าร่วมแผนเส้นทางพัฒนาเศรษฐกิจครั้งนี้
ผู้จัดได้ประกาศกร้าวในงานนี้ให้ฟัง (ซึ่งทีมงานจิงโจ้เป็นโล้เป็นพายข่าวถึงกับขนลุกชูชัน) ว่า
“เราจะร่วมกันสร้างประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ ‘We Make Great Together’ เพื่อตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของพิษณุโลกในฐานะที่เป็นศูนย์กลางบริการสี่แยกอินโดจีน และการจัดงานนี้จะเป็นการเปิดเมืองพิษณุโลกให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ”
ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ คนไทยด้วยกันเองอย่างเรา ๆ จะพลาดไปร่วมเป็นสักขีพยานได้อย่างไร
4– 13 ธันวาคมนี้ เจอกันหน้างานเลยครับ
สำหรับวันนี้ทีมงานจิงโจ้เป็นโล้เป็นพายข่าวขออำลาไปหาอะไรกินก่อน เพราะในงานแถลงข่าวครั้งนี้ไม่มีอาหารอะไรให้กินเลย (ยังคงสันดา.. เอ้ย สไตล์เดิมจริง ๆ)
จนกว่าจะพบกันใหม่ สวัสดีครับ
.
ของชำร่วยที่แจกหน้างาน เป็นกล้วยตาก 6 ชิ้น ไม่อยู่ท้องแน่นอน
.
ดารา(เคย)ดัง พิธีกรของเรา คุณภูวนาท คุณผลิน
.
การแสดงเปิดงานแถลงข่าวที่เนิบนาบไปเสียหน่อย ทำเอาผู้สื่อข่าวรายเจ้านั่งผงกหัวกันหงึก ๆ แต่ทีมงานจิงโจ้เป็นโล้เป็นพายข่าวไม่เป็นนะครับ เรานอนแผ่บนโซฟาเลย (จะบ้าเรอะ!?)
.
โฉมหน้าแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมแถลงข่าว คนกลางคือคุณสมพงศ์ อรุณโรจน์ปัญญา รองผู้ว่าพิษณุโลก ทีวันนี้ถือเป็นพระเอกของงานเลย พูดแถลงข่าวได้มันส์เร้าใจมากครับ ปรบมือให้เลย อยากให้ท่านไปพูดแถลงข่าวทุกงานเลยครับ
.