ตะลอน เที่ยวแปดริ้ว งบนิดเดียว แต่เที่ยวคุ้ม

Home / นักเที่ยวเชี่ยวทาง / ตะลอน เที่ยวแปดริ้ว งบนิดเดียว แต่เที่ยวคุ้ม

เงินมหาศาลก็ไม่สามารถซื้อความสุขได้ ผมเชื่อแบบนี้เสมอ เพราะบางสิ่งบางอย่างถูกและดี ก็มีอยู่จริง..
ไม่รู้จะมีใครเป็นเหมือนผมไหม ผมเป็นคนหนึ่งที่มีหยุดวันไม่ได้ หยุดทีไรเป็นต้องเที่ยว แล้วนี่ก็เป็นหนึ่งในทริปประทับใจของผม กับการเดินทางง่ายๆ งบสบายๆ แต่ทว่าความสุขมหาศาล

จุดมุ่งหมายปลายทาง คือ ฉะเชิงเทรา เมืองเล็กๆ เมืองใกล้ๆ ที่หลายคนมองข้าม
ผมออกเดินทางจากบ้านตีห้า เพื่อโบกรถ มาขึ้นรถโดยสารฟรี ที่หัวลำโพง… ใช่ แล้วแหละครับ ตีห้า มุ่งหน้ามาขึ้นรถไฟไทย

 ตะลอน เที่ยวแปดริ้ว งบนิดเดียว แต่เที่ยวคุ้ม

แปดริ้ว

คงมีหลายคนตั้งคำถามว่า จะรีบไปไหน ใกล้แค่นี้ออกเช้าไปหรือเปล่า แล้วทำไมต้องไปรถไฟ ช้าจะตาย นั่งรถอื่นๆก็ได้เร็วกว่า

ผมขอบอกว่า อย่าเพิ่งด่วนสรุปครับ รอดูคำตอบของผมต่อจากนี้

แปดริ้ว1

05.55 น. เวลารถออก แต่กว่าเครื่องจะร้อน และล้อเคลื่อน ก็เลทไปประมาณ5 นาที แต่ก็โอเคครับ ผมรับได้ ปู๊น..ปู๊น.. ล้อของรถรางเหล็กเริ่มหมุน และก็ถือเป็นการเริ่มต้นเดินทาง

แปดริ้ว2

รถไฟ เคลื่อนขบวนผ่านบ้านเรือน ในเมืองกรุงเทพฯมาตามรางเรื่อยๆ ท่ามกลาง แสงสลัวๆของยามเช้ามืด ผ่านสี่แยกแล้ว สี่แยกเล่า ผ่านเสาไฟ สูงใหญ่ในเมือง วิวสองข้างทาง ก็ตึกรามบ้านช่อง สะพาน โรงงานล้วนๆ

แปดริ้ว3

และนี่ถือเป็นกำไร เมื่อได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นในเมือง ภาพแบบนี้หายากนะครับ เพราะน้อยคนนักที่จะมาใส่ใจกับวิวพระอาทิตย์ขึ้นในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วย ตึกสูงและสิ่งก่อสร้าง

พอฟ้าเริ่มสว่าง รถไฟก็เคลื่อนตัวมาถึงชานเมือง รถไฟเคลื่อนไปแบบช้า เนิบ สมชื่อ เพราะถ้าใครเคยนั่ง ก็มักจะได้ยินเสียงของเจ้ารถไฟมันบอกกับเราเสมอว่า ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง…

แปดริ้ว4

พ้นจากชานเมืองมาได้ บรรยากาศแสนตระการตา ชุ่มฉ่ำใจ มันอยู่ตรงนี้

ทุ่งนาเขียวขจี มีหมอกจางๆ มีนกโบยบิน และมีแสงพระอาทิตย์อ่อนๆ เหนือทุ่งนา อากาศเย็น บริสุทธิ์ยามเช้า แดดไม่จ้า… นี่แหละหนา…เสน่ห์ของรถไฟ

แปดริ้ว5

ชัดเจน ไหมล่ะครับ คำตอบของผม คือถ้าเกิดออกสายกว่านี้ แน่นอนว่า ทิวทัศน์ดีๆแบบนี้ก็คงไม่เห็น แล้วแถมยังแดดร้อนอีกต่างหาก หรือถ้าเลือกเดินทางด้วยทางอื่นๆ ผมรู้สึกว่า เราเสียโอกาส และใช้เวลาหมดไปโดยที่ไม่เกิดคุณค่าอะไรจากการเดินทาง… แล้วอีกอย่างคือ รถไฟสายนี้ ถึงไวดีครับ ตามกำหนดคือ 7 โมง40 นี่ 7 โมงครึ่ง ก็มาถึงแล้ว

แปดริ้ว6

07.30 น. Check-In At สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา มาถึงแล้วแปดริ้ว ไวเกินคาด พอลงรถไฟมาทีนี้ จะไปทางไหนต่อดีล่ะ รู้แต่ว่าตอนนี้ หิว!!!

แปดริ้ว7 แปดริ้ว8

ถ้าเกิดใครที่ยังไม่เคยมา อาจจะอึ้งๆเล็กน้อย ว่าไปไหนต่อดี จะไปเที่ยวยังไง ซึ่งสำหรับแปดริ้วง่าย มากๆ เพราะคนที่นี่ใจดี เอ่ยปากถามที ก็ได้คำตอบมากมายเลยครับ

การเดินทางในแปดริ้ว ค่อนข้างสะดวกครับ เพราะมีทั้งรถสองแถว รถมอเตอร์ไซต์ และรถสามล้อรับจ้าง
ถ้าเอาสบาย ก็สามล้อ ถ้าเอาเร็วก็มอไซต์ แต่ถ้าเอางบประหยัดสบายกระเป๋า ก็สองแถวได้เลยครับ

แปดริ้ว9

สองแถวที่นี่มีหลายสายมาก และก็มีมารอรับผู้โดยสารอยู่ที่สถานีรถไฟแล้วหากว่าคุณจะเดินทางเข้าตัว เมือง แต่ผมเลือกไปบางคล้าก่อน ในตอนเช้า

การเดินทางไปอำเภอบางคล้า ผมต้องข้ามถนนแล้วเดินเลยไปเยื้องๆกับฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟ เพื่อไปขึ้นรถสองแถวที่ สถานีขนส่ง รถสองแถวสีส้ม จอดรอให้บริการผมอยู่แล้ว แล้วผมก็จัดแจงขึ้นไปนั่งรถเวลารถออก

07.50 น. รถสองแถวออกจากขนส่ง มุ่งตรงไปยังอำเภอบางคล้า เพื่อนร่วมเดินทางเพียบครับ ไม่ต้องห่วง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นขาประจำ ขาจรอย่างผมมีน้อยครับ

แปดริ้ว10

08.30 น. รถสองแถวก็มาถึงอำเภอบางคล้า แต่ว่าไปไม่ถึงตลาดน้ำ เอาล่ะหว่าทำไงดี… แต่อย่างที่บอกแล้วว่าคนแปดริ้วใจดี พี่คนขับก็ยอมมาส่งที่ตลาดน้ำให้ฟรีๆ น่ารักจริงเชียว

แปดริ้ว11

ตลาดน้ำบางคล้า อยู่ไม่ไกลเท่าไรจากจุดจอดสองแถวครับ ประมาณ 500 เมตรได้ ของกินที่นี่ ละลานตามากๆ แม้จะไม่ต่างจากตลาดน้ำอื่นๆทั่วไป แต่ว่า อร่อยๆ เพียบ

แปดริ้ว12 แปดริ้ว13

ฝากท้องมื้อเช้ากับตลาดน้ำบางคล้าเรียบร้อย ผมก็เดินดูของที่วางขายไปเรื่อยๆ ก่อนจะบ๊ายบายตลาดน้ำ เพื่อไปเยี่ยมบางคล้าต่อ

ในอำเภอบางคล้า รถโดยสารที่โดดเด่น ถูกใจมากครับ เป็นรถสกายแลป คลาสสิคน่านั่งจิงเชียว มีทั้งแบบเป็นรถเครื่องและรถถีบ เลือกใช้บริการกันได้ ส่วนผมขอแค่ถ่ายรูป แล้วเล่นเดินเที่ยวเป็นพอ

แปดริ้ว14

ผมเดินมาสุดที่วัดโพธิ์บางคล้า วัดดังของอำเภอนี้

แปดริ้ว15 แปดริ้ว16

ที่ นี่มีค้างคาวเยอะมากครับ นับพันตัว นอนห้อยหัวเกาะกิ่งต้นโพธิ์ หลับตาพริ้มเชียว บรรยากาศในวัดร่มรื่นมากๆ ถือโอกาสไว้พระ และนั่งพักเอาแรงไปในตัว

แปดริ้ว17 แปดริ้ว18

อันที่จริงในอำเภอบางคล้ามีที่เที่ยวอีกมากพอสมควร พวกวัดวาอาราม อนุสาวรีย์ หมู่บ้านทำน้ำตาลสด หรือระหว่างทางที่มาอำเภอบางคล้า ก็มีวัดที่เป็นโบสถ์แสตนเลส สวยงามมากๆ แล้วก็มีวัดสมานรัตนาราม ที่มีพระพิฆเนศวรปางนอนองค์ใหญ่ เพียงแต่ผมไม่ได้แวะเท่านั้นเอง

11.00 น. ออกจากบางคล้า ด้วยสองแถวสายเดิม เพื่อมาต่อรถที่บขส. โดยจุดหมายต่อไปของผมคือ วัดศักดิ์สิทธิ์ แสนโด่งของแปดริ้ว “วัดโสธรวรารามวรวิหาร” หรือวัดหลวงพ่อโสธร นั่นเอง

แปดริ้ว19 แปดริ้ว20

11.55 น. เบื้องหน้าคือโบสถ์หินอ่อนที่สร้างใหม่ ของวัดหลวงพ่อโสธร

ผมไม่ได้มากราบสักการะองค์หลวงพ่อโสธรมานานมากแล้ว มาอีกทีก็ปรากฏโบสถ์หลังใหม่ สวยงามด้วยหินอ่อนทั้งหลัง สุดยอดมากเลยครับฝีมือช่างชาวไทย

แปดริ้ว21 แปดริ้ว22

คนที่มากราบไหว้ ยังแน่นขนัดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน บางคนมาสักการะเป็นสิริมงคล บางคนมาพร้อมของไหว้แก้บน แต่ทุกคนก็มาด้วยใจเดียวกัน คือความศรัทธา หลังจากที่ผมสักการะ ขอพร และแหวกออกมาจากผู้คนที่เนืองแน่นได้สำเร็จ บอกตามตรง น้ำตาไหลพรากด้วยเหตุจากควันธูป ข้ามมายังฝั่งตรงข้ามวัด ขนมของฝากเนืองแน่นเช่นเคยครับ มีประมาณ3-4ตรอก ทุกตรอกเต็มไปด้วยแผง ขนม อาหาร ของฝาก นานาชนิด ขนมจากเอย ข้าวหลามเอย ปลาหมึกแห้งเอย น้ำตาลสดเอย และก็อีกมากมายครับ

แปดริ้ว23

ระหว่างที่ผมเดินดู แม่ค้าทุกคนก็ต่าง หยิบยื่นของดีของร้านมาให้ชิม ซึ่งบอกตามตรงผมเกรงใจ เพราะไม่ได้กะจะซื้อ แต่คุณลุง คุณป้าทั้งหลาย ก็พยายามยื่น แล้วบอกผมว่า ชิมเถิดพ่อหนุ่ม ไม่ซื้อไม่เป็นไร

มีประโยคหนึ่งที่โดนใจผมมากครับ คือ ลุงคนหนึ่งที่ขายข้ามหลาม ก็บอกกับผมในขณะที่ยื่นข้าวหลามให้ผมชิม แกบอกว่า “ไม่ซื้อไม่ว่า แต่อยากให้ชิม จะได้รู้ว่าของแปดริ้ว ก็มีดีเช่นกัน” ผมเลยต้องชิมตามคำบอกของแกครับ

แปดริ้ว24

ผมยอมรับว่าตอนแรกผมสงสัย ข้าวหลามแปดริ้ว จะสู้หนองมนได้หรอ แต่พอชิมเท่านั้นล่ะ หูยยย อร่อยยยมากครับ ข้าวหลามเผาสดๆ หอมหวานมันกำลังดี แหม ติดใจ (แต่ไม่ได้ซื้อนะครับ)

แปดริ้ว25

ความสงสัยผมไม่ได้หมดแค่นี้นะครับ อย่างน้ำตาลสดก็เช่นกัน ผมจำมาตลอดเลยว่า น้ำตาลสดต้องเพชรบุรี แต่พอมาที่แปดริ้วนี่ ผมเปลี่ยนความคิดไปตลอดกาล

ทีแรกผมเห็นน้ำตาลสดสีออกเทาๆ หน่อย ผมก็เอะใจละ ว่าเอ๊ะ มันไม่ต้องเป็นสีออกน้ำตาลเหลืองๆหน่อย แบบที่เคยกินหรอ?

แปดริ้ว26

แล้ว ก็ถึงบางอ้อครับ ว่า น้ำตาลสดที่ผ่านการเผา และไม่ขัดสี จะมีสีเทาแบบน้ำตาลสดบางคล้าตามที่เห็นนี่แหละครับ แล้วคือ มันอร่อย และก็หอมมาก ความหวานกำลังดี ไม่มากเกินไม่แสบคอ จนทำให้ผมติดใจหิ้วกลับบ้านจนได้ครับ

หลุดจากตลาดของฝากตรงข้ามวัดโสธรได้ บอกเลยว่าอิ่มครับ อิ่มทั้งท้อง อิ่มทั้งใจ ขอบคุณทุกของฝากที่หยิบยื่นให้ผมชิม พร้อมกับสีหน้าที่แสนจะยิ้มแย้มของคุณลุงคุณป้าทุกคนนะครับ ผมประทับใจมากเลยจริงๆ
แล้วก็ถึงเวลาลุยต่อ…

13.00 น. ผมสอบถามการเดินทางของพ่อค้าแม่ค้าที่นี่เรียบร้อย ก่อนจะโบกรถสองแถวไปต่อที่จุดหมายปลายทาง ตลาดบ้านใหม่ ที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก

ประมาณไม่เกิน 10 นาที ผมก็มาถึงหน้าตลาดบ้านใหม่ แต่ยังไม่ได้เดินเข้าไป เพราะผมแวะเข้าไปไหว้พระเรียกทรัพย์ ในวัดจีนประชาสโมสรก่อน

แปดริ้ว27

เพื่อนผมเล่าให้ฟังว่าในวัดนี้ คนจะแวะมาขอพรเสริมทรัพย์กันมาก ที่นี่คือ 1 ใน 3 วัดมังกร โดยเป็นวัดส่วนท้องมังกร หัวมังกรคือวัดเล่งเน่ยยี่ ที่กรุงเทพฯ ส่วนหาง คือวัดเล่งฮัวยี่ ที่จันทบุรี

ใครที่มาที่นี่จะแวะมาลูบท้องมังกร เพื่อเรียกทรัพย์เข้ากระเป๋า และกราบไหว้เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักรักษา คุ้มครองอยู่ที่วัดเล่งฮกยี่แห่งนี้…เฮง เฮง อยู่ดี มีสุข สาธุ

แปดริ้ว28

13.30 น. แล้วก็ถึงเวลาหิวอีกครั้ง ข้ามฝั่งมายัง ตลาดโบราณ ที่ชื่อว่าบ้านใหม่ ซึ่งเป็นตลาดเก่าโบราณ ติดริมแม่น้ำบางปะกง สายน้ำแห่งชีวิต

แปดริ้ว29

บรรยากาศ ห้องแถวไม้ ที่เปิดเป็นร้านขายอาหาร ข้าวของ เรียงราย ละลานตระการตา

แปดริ้ว30

ตลาดบ้านใหม่ เป็นตลาดที่ผสมผสานความเก่าเข้ากับยุคสมัยใหม่ได้อย่างดี บ้านเรือนยังคงความเก่าแก่ วิถีชีวิตริมฝั่งน้ำยังมีให้เห็น

แปดริ้ว31

วัฒนธรรมการค้าขายแบบเก่ายังคงอยู่ ทั้งร้านกาแฟโบราณ ร้านอาหารโบราณอย่างข้าวห่อใบบัว ร้านขายขนมกุยช่าย กง กะลอจี๊ ห่อหมกใบจาก

แปดริ้ว32

ที่ๆ ผมฝากท้องมื้อบ่ายๆ ของทริปนี้ คือ ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ ซึ่งเป็นร้านไฮไลท์ของเมืองแปดริ้ว ซึ่งใครพลาด นี่น่าเสียดายมากๆ น้ำซุปกลมกล่อม กระดูกหมูเปื่อยๆ ลูกชิ้นเอ็นหมูอร่อยๆ ทานคู่กับปากหม้อหลากไส้ เข้ากันได้อย่างดีเหลือเชื่อ

แปดริ้ว33 แปดริ้ว34

นอกจากอาหารและขนมแล้ว ยังมีร้านของเล่นเก่า ร้านขายของฝากของที่ระลึก น่ารักๆ เต็มไปหมด พาให้เราย้อนนึกถึงอดีตในวัยเด็ก

แปดริ้ว35

แล้วผมก็ได้โปสการ์ด 1 ใบ ส่งให้ตัวเองเป็นที่ระลึกกลับบ้าน เป็นการตอบแทนให้กับตัวเอง ก่อนที่ผมจะบอกลา ตลาดเก่าที่แสนน่าประทับใจในบรรยากาศอันแสนคลาสิคนี้ไป

แปดริ้ว36 แปดริ้ว37

16.00 น.โค้งสุดท้ายของทริปแปดริ้ววันนี้ โบกสองแถวสีขาว ย้อนมาที่แถวกำแพงเมืองแปดริ้ว โซนนี้มีที่เที่ยวเยอะครับ ทั้งตรอกซอกซอยบ้านเรือนๆเก่าๆ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สวนสาธารณะที่มักจัดนิทรรศการหลากหลายตลอดทั้งปี

แปดริ้ว38 แปดริ้ว39

หรือจะเลือกนั่งชิวริมแม่น้ำบางปะกงแบบผมก็ได้

แปดริ้ว40

มีคนแปดริ้วบอกกับผมว่า แม่น้ำบางปะกงเป็นแม่น้ำสองรส ที่ครึ่งปีเป็นน้ำจืด และครึ่งปีเป็นน้ำเค็ม แม่น้ำบางปะกงสายนี้ คือแม่น้ำที่หล่อเลี้ยงวิถีชีวิตของชาวแปดริ้วมาหลายรุ่นหลายสมัย ทุกชีวิตดำเนินไป

แปดริ้ว41 แปดริ้ว42

17.15 น. หมดเวลาสนุกแล้วสิ พระอาทิตย์คล้อยลงต่ำ เตรียมลับขอบฟ้า ผมเองก็ต้องรีบหารถสองแถว เพื่อไปจุดหมายสถานีรถไฟให้ทันเวลา

แปดริ้ว43

เพราะมัวแต่เพลิดเพลินกับลมเย็นๆ ริมแม่น้ำ และนิทรรศการภาพถ่ายมากเกินไปหน่อย จนลืมดูว่า ใกล้เวลารถไฟจะมาเต็มที รถไฟเที่ยวกลับที่ผมดูไว้ คือรอบ 18.00 น. ถ้าโชคดีรถไฟเลท ก็คิดว่าน่าจะหารถไฟได้ทัน

แปดริ้ว44

แล้วโชคก็เข้าข้าง เพราะมีสองแถวผ่านมาพอดี แล้วบวกกลับตรงที่ที่ผมรอรถอยู่นั้นไม่ไกลจากสถานีรถไฟเท่าไรนัก พอมาถึงสถานีรถไฟก็เข้าแถวรับตั๋ว และเตรียมเสบียง รอรถไฟที่กำลังจะมาใน 5 นาที

แปดริ้ว45

สำหรับ รถไฟสายอื่นที่ผมเคยนั่ง เหมือนว่าจะเลทและช้ามากนะครับ แต่สำหรับสายตะวันออกนี้ ผมว่า ค่อนข้างเร็วและตรงเวลา แต่ก็ไม่รู้จะเป็นเหมือนที่ผมเจอทุกวันไหม

แปดริ้ว46

18.05 น. บ๊ายบาย แปดริ้ว และวิวธรรมชาติสองข้างทาง ก่อนที่ตะวันจะลับขอบฟ้า หมดแล้วการเดินทางที่แสนคุ้มค่า และสุดประหยัด

แปดริ้ว47

นับๆ ดูแล้ว ค่าใช้จ่ายตลอดทริป

ค่ารถตลอดวัน 72 บาท(สองแถวล้วนๆ)

ค่ากินทั้งวัน 90 บาท

ค่าของฝาก 35 บาท

รวม 197 บาท

คุ้มค่า ราคาสบายกระเป๋าครับ

แปดริ้ว48

บทความน่าอ่านจาก http://www.emaginfo.com ร่วมกับ travel.mthai.com

www.emaginfo.com

เที่ยวอิ่มบุญ ไหว้พระ กับ 8 วัด สายตะวันออก

ระนองแคนย่อน เที่ยวพักผ่อน ท่ามกลางหุบเขาในระนอง