ที่เที่ยวน่าน ที่เที่ยวอำเภอปัว อำเภอปัว

7 ที่เที่ยวอำเภอปัว เย็นสบายกลางสายฝน ปักหมุดชมธรรมชาติสุดชิลล์

Home / ข้อมูล 77 จังหวัด / 7 ที่เที่ยวอำเภอปัว เย็นสบายกลางสายฝน ปักหมุดชมธรรมชาติสุดชิลล์

อำเภอปัว จังหวัดน่าน เมืองเล็กๆ แสนโรแมนติก เหมาะกับการใช้ชีวิตเรียบง่าย และเงียบสงบ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดเป็นทุ่งนา ถ้าเรามาช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม แม้ต้นข้าวจะยังไม่โตเต็มที่ เพราะชาวบ้านเพิ่งเริ่มดำนากัน แต่เราจะได้ภาพผืนนาสีน้ำตาลกว้างไกลตัดกับต้นกล้าสีเขียว สวยงามมาก สะกดทุกสายตาของผู้มาเยือนแน่นอน นอกจากธรรมชาติแล้ว แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ประเพณี ก็ยังน่าหลงไหล ไปดูกันเลยดีกว่าว่า 7 ที่เที่ยวอำเภอปัว ที่เราจะพาไปนั้น มีอะไรน่าสนใจบ้าง

7 ที่เที่ยวอำเภอปัว
ปักหมุดชมธรรมชาติสุดชิลล์

1. ดอยภูแว

ดินแดนแห่งขุนเขาและสายหมอก ดอยภูแว ยอดดอยอันสูงชัน ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยภูคา เป็นยอดเขาทุ่งหญ้า ไม่มีต้นไม้ใหญ่ มีความงดงาม รูปทรงแปลกตา เต็มไปด้วยหินผา และทุ่งหญ้าปกคลุม

หากมาเที่ยวดอยภูแวหน้าฝน หลังฝนตกจะมีโอกาสเจอทะเลหมอกสุดแสนตระการตา ตัดกับทุ่งหญ้าสีเขียวบนยอดภู พร้อมกับอากาศหนาวเย็นจับใจ

2. วัดภูเก็ต

ขอบคุณภาพจาก : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง

วัดภูเก็ต ไม่ได้อยู่ภูเก็ตแต่อย่างใด แต่ตั้งชื่อตามหมู่บ้านเก็ต และตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ซึ่งทางภาคเหนือเรียกกันว่า ภู หรือ ม่อน จึงกลายเป็นชื่อวัดภูเก็ต ที่นี่นอกจากเราจะได้เข้ามาไหว้พระขอพรแล้ว ยังมีลานชมวิวที่เราสามารถมองเห็นวิวทุ่งนาได้กว้างไกลสุดสายตา อีกทั้งยังมีลำธารด้านล่าง ที่เราสามารถให้อาหารจากลานด้านบนผ่านท่อไหลลงไปให้กับฝูงปลาได้

3. ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ และลำดวนผ้าทอ

ขอบคุณภาพจาก ลำดวนผ้าทอ ตำบลศิลาแลง อ.ปัว

นั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ที่ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ มีลักษณะเป็นซุ้มไม้เล็กๆ ตกแต่งสไตล์ไทลื้อ ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนา ซึ่งยามหน้าฝนแบบนี้ นาข้าวจะเขียวขจีเต็มท้องทุ่ง พร้อมวิวของเทือกเขาดอยภูคาสูงตระหง่านเป็นฉากหลัง และมีสะพานไม้ทอดยาวเชื่อมต่อกับร้านลำดวนผ้าทอ สามารถแวะมาซื้อของที่ระลึกก่อนกลับ ทั้งผ้าทอเมืองน่าน, ผ้าไทลื้อ, ผ้าทอพื้นเมือง, ชุดเสื้อผ้าสำเร็จรูปสไตล์พื้นเมือง และของที่ระลึกอีกมากมาย ในราคาย่อมเยา

4. ต้นดิ๊กเดียม วัดปรางค์

ขอบคุณภาพจาก tourismthailand

ชมต้นไม้ที่มีอารมณ์ขันอยู่คู่วัดปรางค์แห่งอำเภอปัวมานานนับร้อยปี ด้วยไม้ต้นนี้มีความแปลกพิสดาร ตั้งแต่อากัปกริยาของมันที่หันหน้าเข้าวัด แต่หันหลังให้แดด และที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่านั้น คือ เพียงแค่ลูบเบา ๆ บริเวณลำต้น ทั้งกิ่งก้านใบของมันจะสั่นไหว คล้ายบอกว่ามันกำลังรู้สึกจั๊กจี๋

5. วัดพระธาตุเบ็งสกัด

ขอบคุณภาพจาก : วัดพระธาตุเบ็งสกัด นครน่าน เมืองปัว

วัดพระธาตุเบ็งสกัด ตั้งอยู่บนเนินสูง ที่มองเห็นหมู่บ้านเบื้องล่างโอบล้อมด้วยผืนป่า หากมาในช่วงฤดูฝน จะพบความงามของผืนนาเขียวขจีเต็มพื้นที่ มีโบราณสถานที่สำคัญคือ องค์พระเจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวปัวเคารพและศรัทธาอย่างมาก ตั้งอยู่ข้างๆ กับวิหารทรงตะคุ่มแบบศิลปะพื้นบ้านไทลื้อ

6. วัดร้องแง

ขอบคุณภาพจาก : Tat Phrae

เป็นวัดโบราณอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดน่าน มีวิหารที่โดดเด่นด้วยศิลปกรรมแบบไทยลื้อ ลักษณะของวิหารหน้าบันเป็นลายพันพฤกษา วิหาร มีหลังคาคลุมต่ำ ในวิหารมีพระประธานปางมารวิชัย และจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพุทธประวัติและเนมีราชชาดก

ด้านหน้าวัดมีทางเดินผ่านทุ่งนาไปยัง หอเทพญารินทร์เจ้าหลวงช้างเผือกงาเขียว ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกัน ในช่วงฤดูทำนา วิวระหว่างทางเดินเห็นวิวทุ่งนาปลูกแทรกไปกับบ้านของชาวบ้าน รวมถึงด้านหลังหอคำหลวงสามารถเห็นวิวทุ่งนาได้แบบกว้างไกล

7. วังศิลาแลง

ขอบคุณภาพจาก Pua108

วังศิลาแลง อีกหนึ่งที่เที่ยวทางธรรมชาติที่ได้ฉายาว่า แกรนด์แคนยอนเมืองปัว มีความโดดเด่นอยู่ที่สายน้ำกูนไหลคดเคี้ยวผ่านซอกหินผา กัดเซาะหินรอบข้างทั้งสองด้าน จนเกิดเป็นลวดลายที่สวยงามแปลกตา เเละมีวังน้ำอยู่ประมาณเจ็ดวังด้วยกันในระยะ 400 เมตร โดยในช่วงฤดูเเล้งนั้น น้ำที่ไหลลงมาจะเป็นนำใสๆ สามารถมองทะลุลงไปจนถึงข้างล่างเลยทีเดียว ส่วนในฤดูฝนนั้นไม่ค่อยเหมาะกับการเล่นน้ำเท่าไหร่ เพราะน้ำออกจะขุ่นเเละไหลเชี่ยว

7. วังน้ำปัว

ขอบคุณภาพจาก : วังน้ำปัว

วังน้ำปัว ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านนาฝาง เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางสายน้ำใสไหลเย็น มีแพไม้ไผ่และแคร่ให้นั่งเล่น พร้อมบริการอาหารพื้นบ้านอร่อยๆ และเครื่องดื่มเย็นชื่นใจ ให้นั่งกินไป เอาเท้าหย่อนน้ำไปเพลินๆ หรือจะนอนกางเต็นท์ เฝ้ารอดูดวงดาวยามค่ำก็ชิลล์ดี ส่วนใครเป็นสายลุย ชอบอะไรมันส์ๆ ที่นี่เขาก็มีกิจกรรมล่องห่วงยางในน่านน้ำปัว ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร มีอุปกรณ์เซฟตี้อย่างดีค่ะ

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก : khaosan-nannakorntourismthailand