ณ สัทธา อุทยานไทย ที่เที่ยวราชบุรี ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ ราชบุรี เที่ยวราชบุรี เที่ยวใกล้กรุงเทพ

ใส่สไบไปเที่ยว ‘ณ สัทธา อุทยานไทย’ แลนด์มาร์คใหม่ ราชบุรี ความรู้แน่น มุมถ่ายรูปเพียบ

Home / ข้อมูล 77 จังหวัด / ใส่สไบไปเที่ยว ‘ณ สัทธา อุทยานไทย’ แลนด์มาร์คใหม่ ราชบุรี ความรู้แน่น มุมถ่ายรูปเพียบ

ใส่ชุดไทยสวยๆ เดินเที่ยวเก็บเกี่ยวสาระความรู้นอกตำรา ที่มาพร้อมความสุขและความสนุก ณ สัทธา อุทยานไทย สถานที่ท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้และอนุรักษ์ความเป็นไทย แหล่งพักผ่อนหย่อนใจใหม่ใกล้กรุงเทพ ที่อ.บางแพ จ.ราชบุรี

ใส่สไบไปเที่ยว ‘ณ สัทธา อุทยานไทย’
แลนด์มาร์คใหม่ จ.ราชบุรี

“เพราะ…สาระความรู้ ไม่ได้มีแค่ในห้องเรียน เพราะ…ความสงบสุขไม่ได้มีเพียงในวัดวาอาราม” นี่คือคอนเซปต์ของ ณ สัทธา อุทยานไทย ที่สอดแทรกความศรัทธา ความรู้ คติธรรม ความเชื่อ และขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมไทย ไว้อย่างลงตัว

ด้านในมีทั้งหมด 8 โซนหลัก คือ มหาราชกษัตรา มหาราชกษัตรา, ณ สัทธานุสรณ์, ณ สัทธาปฎิมา, ถ้ำพุทธชาดก, อริยสัทธา, สัทธาถิ่นเรือนไทย, ลานภิรมย์ และ ลานอวโลสัทธา ทุกโซนเดินเชื่อมถึงกันได้ผ่านสวนธรรมชาติอันร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้ขึ้นปกคลุมสองข้างทาง บรรยากาศดี ไม่ร้อน ตามเราเข้าไปดูเลยดีกว่าค่ะ

อ๊ะๆ แต่เดี๋ยวก่อน เราแนะนำให้โหลดแอพพลิเคชั่น NaSatta ไว้ในมือถือก่อนเข้าชมนะคะ เพราะบางจุดเราสามารถแสกนคิวอาโค้ด เพื่อรับชมคลิป การ์ตูน ภาพยนตร์สั้น หรือเพลิดเพลินไปกับเกมต่างๆได้ ด้วยเทคนิคสุดล้ำ ทั้ง AR , Interactive และ Photograme โดยสามารถเชื่อมต่อผ่าน wifi ได้จากการที่เราเอาบัตรประชาชนเสียบเข้าเครื่องแสกนบัตร ตรงจุดทางเข้า แล้วนำเลขบัตร 6 ตัวท้าย มาใช้เป็นรหัส เพื่อเข้าสู่อินเทอร์เน็ตและระบบแอพพลิเคชั่นได้ค่ะ

มหาราชกษัตรา

โซนแรก เราจะพบกับ ประติมากรรมพระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระเจ้าตากสินมหาราช พระปิยมหาราช ซึ่งเป็น 3 มหาราชผู้กอบกู้เอกราชไทย

ณ สัทธานุสรณ์

เดินถ่ายรูปมาเรื่อยๆ เราก็ถึงจุดหมายต่อไป คือโซน ณ สัทธานุสรณ์ โซนนี้จะแบ่งออกเป็น สองชั้นด้วยกัน คือ ชั้นแรก จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสของบุคคลสำคัญ เรื่องราวชีวิต เกียรติประวัติ และคุณงามความดี แล้วยังจำลองสถานที่ที่บุคคลท่านนั้นเคยอยู่จริง บอกคำเดียวว่าเหมือนจนขนลุกเลยล่ะค่ะ

หากใครโหลดแอพพลิเคชั่น NaSatta เรียบร้อยแล้ว ให้ลองเอาไปแสกนตรงสัญลักษณ์ AR ดู อย่างห้องที่แสดงหุ่นขี้ผึ้งสืบ นาคะเสถียร เมื่อเราแสกน QR ปุ๊บ จะมีช้างโผล่ขึ้นมาให้เห็น เดินวนไปมาบนแผนที่ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวให้เราฟังได้อย่างน่าสนใจ

สำหรับชั้น 2 จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติ และประติมากรรมพระรูปสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกในรัชกาลที่ 9

และอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเราประทับใจมาก คือห้องจัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งสมเด็จพระศรีนทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า ในพระอริยบถต่างๆ และยังจำลองบ้านที่ท่านเคยอาศัยอยู่ในวัยเด็ก ที่วัดอนงคารามอีกด้วย

ณ สัทธาปฎิมา

ชมความงดงามของประติมากรรมพระพุทธรูป 3 สมัย ได้แก่ สมัยสุโขทัย เชียงแสน และอู่ทองอยุธยา บนฐานขนาดเท่าของจริง ซึ่งในวันสำคัญต่างๆ อย่างวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาที่จะถึงนี้ ตรงบริเวณนี้จะมีให้กิจกรรมให้เราพับดอกบัว เพื่อนำไปถวายองค์พระ และหล่อเทียนพรรษา

นอกจากนี้ยังมีห้องมืดให้เราเข้าไปชมอนิเมชั่น ที่ใช้เทคนิค Mapping บนผนังโบสถ์ และองค์พระพุทธรูป บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของพระพุทธรูปสู่ประเทศไทย และความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธรุปในสมัยสุขโขทัย

ถ้ำพุทธชาดก

อีกหนึ่งไฮไลท์ห้ามพลาด! ถ้ำพุทธชาดก เป็นถ้ำที่จำลองขึ้นมา โดยใช้สื่อ Projector Mapping 270 องศา ผสมผสานเทคนิคแสง สี เสียง ถ่ายทอดเรื่องราวขององคุลีมาล มหาโจรผู้กลับใจเข้าหาธรรมะ บอกเลยว่าเอฟเฟคอลังการคุ้มค่าบัตรม๊ากมาก

อริยสัทธา

จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสพระอริยสงฆ์และพระเกจิชื่อดัง ที่เป็นที่เลื่อมใสในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศไทย ประดิษฐานบนกุฏิเรือนไม้ หอสวดมนต์ เหมือนเราได้เข้าไปกราบพระอริยสงฆ์ท่านนั้นๆ อย่างใกล้ชิด

บ้านน้ำสมุนไพร

พักเหนื่อยดื่มน้ำเย็นๆ กันสักครู่นะคะ ที่บ้านน้ำสมุนไพรนี้ มีทั้งน้ำเก๊กฮวย ชาดำเย็น กระเจี๊ยบ โอเลี้ยง น้ำซาสี่ รวมถึงขนมและของเล่นวัยเด็ก ที่เราแทบจะลืมไปแล้วว่าเคยสัมผัสของชิ้นนั้นมาก่อนนะเนี่ย

สัทธาถิ่นเรือนไทย

ดับกระหายชื่นใจด้วยน้ำสมุนไพรกันไปแล้ว เดินไปต่อที่ สัทธาถิ่นเรือนไทย เป็นบ้านไทยจำลอง 4 ภาค ตามลักษณะทางสถาปัตยกรรมของภูมิภาคต่างๆ ให้เราสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยในอดีต ผ่านการแสดงข้าวของเครื่องใช้ การกินอยู่ ศิลปวัฒนธรรม ราวกับได้ย้อนเวลาไปอยู่ในยุคนั้นจริงๆ

ระหว่างทางเดินไปยังเรือนไทย เราเจอกับชายคนนี้ (หุ่นขี้ผึ้ง) นั่งตกปลาอยู่บนเรือ ไม่รู้มีใครยังจำเขาได้อยู่รึเปล่า ‘ปู่เย็น เฒ่าทรนง’ บุคคลต้นแบบแห่งความพอเพียง

ลานภิรมย์

เป็นลานกลางแจ้งที่จัดแสดงศิลปะและความงดงามของต้นบอนไซหลากหลายขนาด โดยมีฉากหลังเป็นน้ำตก ทำให้การเดินชมรื่นรมย์สมชื่อ ลานภิรมย์ จริงๆ ค่ะ

ลานอวโลสัทธา

พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปางมหาราชลีลา พระผู้ทัศนาดูโลกเฝ้าดูแลและคอยช่วยเหลือสรรพสัตว์ที่ตกอยู่ในห้วงทุกข์ ซึ่งจำลองจากราชวงศ์ซ้อง ประเทศจีน

นอกจากนี้ภายในพื้นที่ 42 ไร่ ของ ณ สัทธา อุทยานไทย ยังมีอีกหลายโซนให้บริการ เช่น ร้านอาหารรสสัทธา, ไทยกาแฟ Thai-Kafe, ห้องประชุมและห้องจัดเลี้ยง, ลานไท ณ สัทธา รวมถึง ณ สัทธา Shop ร้านขายของที่ระลึก มีทั้งสินค้าท้องถิ่น งานแฮนด์เมด ตุ๊กตา และขนมกินเล่นอีกเพียบ

อีกหนึ่งจุดที่น่าจะถูกใจสาวๆ ที่อยากแปลงกายเป็นแม่หญิงการะเกด คือห้องแต่งกายชุดไทย จะอยู่บริเวณทางเข้า ซึ่งเราสามารถแต่งชุดไทยไปเที่ยวได้ค่ะ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศแบบไทยๆ ใครมีชุดแล้วก็ใส่จากบ้านมาได้เลย ส่วนใครไม่มี ก็มาเช่าชุดที่นี่ได้ สำหรับราคาเช่าชุดจะอยู่ที่  200-450 บาท แล้วแต่สไตล์ชุดที่เราเลือกค่ะ ถึงสไตล์จะต่างกัน แต่เนื้อผ้าดีทุกชิ้น เนี๊ยบทุกตัว

ณ สัทธา อุทยานไทย พร้อมเปิดประตูต้อนนักท่องเที่ยวในวันที่ 27 กรกฎาคม 2561 นี้ และพบกิจกรรมพิเศษ  “เปิด ลาน สัทธา” เชิญชวนผู้ที่สนใจมาร่วมหล่อเทียนพรรษา ไหว้พระเสริมสิริมงคล เนื่องในวันนอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ชมการแสดง ศิลปะวัฒนธรรม สนุกกับกิจกรรมเวิร์คชอป จับจ่ายสินค้าไทย อิ่มอร่อยกับอาหารไทย 4 ภาค ปิดท้ายด้วยกิจกรรมระบายสีศิลปะลายไทย โดยจะขึ้นระหว่างวันที่ 27 – 30 กค. 61 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.00 น.

เวลาเปิด-ปิด
– จันทร์-ศุกร์ : 09.00-16.30 น.
– เสาร์-อาทิตย์ : 09.00-17.00 น.

ค่าบริการ
– เด็กความสูงต่ำกว่า 90 ซม. เข้าชมฟรี
– ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 100 บาท
– คนไทย ผู้ใหญ่ 200 บาท / เด็ก 100 บาท
– คนต่างชาติ ผู้ใหญ่ 400 บาท / เด็ก 300 บาท

ทั้งนี้ ณ สัทธา ได้จัดให้มีที่จอดรถสำหรับผู้สูงอายุ ห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุ บริการให้ยืมรถเข็น (วีลแชร์) ฟรี ลิฟต์สำหรับขึ้นอาคารและเส้นทางอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวสูงอายุ

การเดินทาง

  1. รถทัวร์กรุงเทพฯ-ดำเนิน 78 : ขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ตลิ่งชัน สายกรุงเทพฯ-ดำเนิน (78) ลงตรงข้ามอุทยานได้เลยค่ะ (วัดหลวง บางแพ)

2. รถตู้ : สามารถขึ้นรถตู้ได้ที่ สถานีขนส่งหมอชิต และสถานีขนส่งสายใต้
– กรุงเทพ-ราชบุรี
– กรุงเทพ-โพธาราม
– กรุงเทพ-จอมบึง
ลงรถตู้ที่สี่แยกบางแพ แล้วต่อรถสองแถว (โพธาราม-ดำเนิน / โพธาราม-โพหัก / ราชบุรี-ดำเนิน) หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้าง จากสี่แยกบางแพ ระยะทางประมาณ 500 เมตร ลงตรงข้ามอุทยานได้เลยค่ะ (วัดหลวง บางแพ)