ที่เที่ยวปราจีนบุรี ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ ปราจีนบุรี เที่ยวปราจีนบุรี

13 ที่เที่ยวปราจีนบุรี สนุกครบจบในทริปเดียว

Home / ข้อมูล 77 จังหวัด / 13 ที่เที่ยวปราจีนบุรี สนุกครบจบในทริปเดียว

ปราจีนบุรี จังหวัดเล็กๆ ที่มากมายไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ โบราณสถาน วัฒนธรรมประเพณี แอดเวนเจอร์มันส์ๆ และสถานที่สวยๆ น่าไปแชะภาพ เรียกว่าครบเครื่องเลยล่ะ แถมอากาศก็ดี เย็นสบาย … มาดูกันซิว่า 13 ที่เที่ยวปราจีนบุรี ที่เราลิสท์รายชื่อมา จะมีที่ไหนอยู่ในใจเพื่อนๆ บ้าง

13 ที่เที่ยวปราจีนบุรี
สนุกครบจบในทริปเดียว

คำขวัญประจำจังหวัด “ศรีมหาโพธิ์คู่บ้าน ไผ่ตงหวานคู่เมือง ผลไม้ลือเลื่อง เขตเมืองทวารวดี”

1. แก่งหินเพิง

เปิดทริปเที่ยวปราจีนบุรี ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวของคนรักผจญภัย อยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยจะมีกิจกรรมล่องแก่งหินเพิงตลอดช่วงฤดูฝนของทุกปี ประมาณ เดือนกรกฎาคม-ตุลาคม ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องจับกลุ่มกันพายเรือยาง ล่องไปตามลำน้ำใสใหญ่ ฟันฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวกราก ผ่านแก่งหินสำคัญรวม 7 แก่ง คือ แก่งหินเพิง , แก่งผักหนามล้อม , แก่งวังบอน , แก่งลูกเสือ , แก่งวังยาว , แก่งวังไทร และแก่งงูเห่า


2. ดาษดา แกลเลอรี่

ดาษดา แกลเลอรี อาณาจักรแห่งดอกไม้ที่ซ่อนตัวอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ เป็นสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบความงามและความหอมหวนของมวลหมู่ดอกไม้ ที่มีจัดแสดงให้ชมตลอดทั้งปี แต่จะหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนตามเทศกาลและฤดูกาล

อีกทั้งยังมีกิจกรรมเวิร์คช็อปดอกไม้ ที่ทุกคนจะได้ร่วมกันสร้างสรรค์ ตกแต่งดอกไม้นานาชนิด รวมไปถึงมีสวนสัตว์เล็ก ๆ ให้เราสนุกสนานไปกับความแสนรู้ของสัตว์เจ้าถิ่น และอย่าลืมแวะชิมไอศกรีมดอกไม้ที่หอมหวานชื่นใจ ต่อด้วยเลือกซื้อดอกไม้สด ดอกไม้กระถาง เพื่อนำกลับไปเป็นของที่ระลึกสำหรับคนรักหรือคนในครอบครัว


3. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี

Cr. thailovetrip

ค้นหาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี แหล่งรวบรวมโบราณวัตถุที่ส่วนใหญ่ได้จากเมืองโบราณสมัยทวารวดี อาทิ ศิวลึงค์ พระพุทธรูป เทวรูปของฮินดู เครื่องใช้สำริด ตลอดจนจัดแสดงนิทรรศการโบราณคดีใต้นํ้า ที่มีเครื่องสังคโลกที่พบใต้ทะเล บริเวณเกาะคราม จังหวัดชลบุรี


4. โบราณสถานสระแก้วมรกต

Cr. ททท.สำนักงานนครนายก

ชื่อสถานที่เรียกขานกันตามชื่อสระน้ำขนาดใหญ่ในบริเวณนั้น แต่ไฮไลต์จริงๆ แล้วกลับเป็น รอยพระพุทธบาทคู่ ที่สลักลึกบนแผ่นศิลาแลง มีความเก่าแก่และใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ถัดมาไม่ไกลจะพบบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่เคยมีพระพุทธรูปและโบราณวัตถุจำนวนมากอยู่ในบ่อ


5. ต้นศรีมหาโพธิ์

Cr. thai.tourismthailand

ต้นศรีมหาโพธิ์ อยู่ในเขตวัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ์ เป็นต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ สูงตระหง่านถึง 30 เมตร และมีอายุกว่าแก่กว่า 2,000 ปี ว่ากันว่าเป็นกิ่งโพธิ์จากต้นโพธิ์ต้นเดียวกับที่พระพุทธเจ้าทรงประทับบำเพ็ญธรรมจนสำเร็จตรัสรู้เป็นสัมมาสัมพุทธเจ้า

ปัจจุบันต้นโพธิ์ต้นนี้ กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของ จ.ปราจีนบุรี บริเวณใต้ต้นโพธิ์ และรอบๆ ระเบียงคต ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ ไว้ให้ผู้คนกราบไหว้บูชา เมื่อถึงวันสำคัญทางพุทธศาสนา จะมีงานนมัสการต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นประจำทุกปี


6. วัดแก้วพิจิตร

Cr. prachindaily

วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยเศรษฐีชาวปราจีนบุรี ต่อมาเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (พระอภัยวงศ์) ได้สร้างและบูรณะวัดแห่งนี้ สร้างพระอุโบสถหลังใหม่ด้วยการก่ออิฐถือปูน ตัววัดเด่นชัดด้วยสถาปัตยกรรม ที่ผสมผสานทั้งศิลปะไทย จีน ยุโรป และเขมร

ยิ่งเมื่อย่างก้าวเข้าไปในพระอุโบสถแล้ว ไม่เพียงแต่จะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับภาพวาดบนแผ่นผ้า ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ซึ่งวาดโดยช่างหลวงในสมัยรัชกาลที่ 6 เท่านั้น ยังได้สนุกกับการถอดปริศนาธรรมต่างๆ ที่เจ้าพระยาอภัยภูเบศรทำไว้เพื่อเตือนใจมนุษย์อีกด้วย


7. พิพิธภัณฑ์เจ้าพระยาอภัยภูเบศร

Cr. museumthailand

ตั้งอยู่ภายในอาคารสถาปัตยกรรมแบบบาโรกอันงดงามทรงเสน่ห์ โดยเป็นศูนย์รวมตำรับตำราความรู้ทางการแพทย์แผนไทย สมุนไพรไทย และการแพทย์พื้นบ้านของจังหวัดปราจีนบุรี ทั้งยังเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าวิจัย และเผยแพร่ ความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตพื้นถิ่นอีกด้วย


 8. พิพิธภัณฑ์อยู่ศุขสุวรรณ

Cr. YusuksuwanMuseum

พิพิธภัณฑ์อยู่ศุขสุวรรณ จัดตั้งขึ้นโดยคุณณรงค์-วิภาวรรณ์ อยู่สุขสุวรรณ์ ด้วยแนวคิดที่มุ่งเน้นให้เป็นแหล่งเรียนรู้ จากความเป็นนักสะสม สนใจและมีความหลงใหลในวัตถุโบราณ จนภายในบ้านพักอาศัยกลายเป็นแหล่งรวมของเก่าไว้มากมาย เช่น  เตารีดโบราณ เครื่องทองเหลือง ตู้เย็นใช้น้ำมันก๊าด ตะเกียงหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตะเกียงเจ้าพายุนับร้อยดวง ที่ปัจจุบันหาดูได้ยาก ซึ่งแขวนเรียงไว้บนเพดานของทุกอาคาร อัดแน่นจนแทบไม่เหลือพื้นที่ว่าง


9. อุทยานแห่งชาติทับลาน

อุทยานแห่งชาติทับลาน มีพื้นที่ครอบคลุมจังหวัดปราจีนบุรี และนครราชสีมา สภาพป่ามีความอุดมสมบูรณ์ เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำหลายสาย เนื่องจากมียอดเขาสูงสุดอย่าง “ยอดเขาละมั่ง” สูงที่ระดับ 992 เมตร

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ป่าลาน ป่าลานผืนสุดท้ายที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ จะออกดอกเหลืองสวยงามช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน , เขามะค่า จุดชมวิวทิวทัศน์บนภูเขา มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติและลานกางเต็นท์, น้ำตกบ่อทอง สายน้ำตกไหลลดหลั่นกันลงมา 3 ชั้น น้ำจะมีมากช่วงหน้าฝน และ ผาเก็บตะวัน ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าในยามเย็น


10. เดอะ เวโรน่า ทับลาน

เดอะ เวโรน่า ทับลาน แหล่งช้อปปิ้ง กิน เที่ยว ท่ามกลางขุนเขา อบอวลไปด้วยบรรยากาศโรแมนติก โดยสถาปัตยกรรมและการตกแต่ง ได้แรงบันดาลใจมาจาก เมืองเวโรน่า (Verona) ประเทศอิตาลี ไม่ว่าจะเป็นการจำลองสะพาน Castelvecchio ทะเลสาป Garda หอคอย Lamberti ลานกลางแจ้งแบบ Arena หอนาฬิกา หอระฆัง จัตุรัสเออร์เบ ไปจนถึงบ้านจูเลียต

นอกจากได้แวะมาทานอาหารอร่อยๆ เลือกซื้อเสื้อผ้า ของที่ระลึก กันแล้ว ยังสนุกไปกับกิจกรรมแอดเวนเจอร์และสันทนาการต่างๆ เช่น ล่องเรือกอนโดลา พายเรือคายัค โหนสลิง โรยตัวจากหน้าผาจำลอง นั่งรถม้า หรือขับรถเอทีวี ก็มีเช่นกัน


11. อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์

Cr. pracinburi

แวะไปนั่งๆ นอนๆ ชิลๆ ริมอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ ชื่นชมทัศนียภาพเหนืออ่างเก็บน้ำบริเวณเชิงเขาอีโต้ แหล่งต้นน้ำสำคัญ จากปากทางเข้าอ่างเก็บน้ำให้เลี้ยวซ้ายจะมีถนนขึ้นไปจนถึงยอดเขาเพื่อชมทัศนียภาพโดยรอบ ระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร และช่วงกิโลเมตรที่ 6 จะเป็น เนินพิศวง ยาวประมาณ 150 เมตร หากจอดรถแล้วปล่อยเกียร์ว่างไว้ รถจะไหลขึ้นเนินเองได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งความจริงแล้วเกิดจากภาพลวงตา เพราะสภาพภูมิประเทศเป็นป่าโปร่ง มีเนินสูงต่ำสลับกันไป

กิจกรรมท่องเที่ยวบริเวณอ่างเก็บน้ำมีทั้ง ปั่นจักรยาน เดินเล่น หรือชมวิวตามแนวสันเขื่อน แนะนำให้ไปตอนเช้าตรู่หรือตอนเย็น เพราะแสงอาทิตย์กำลังสวยและอากาศไม่ร้อน ส่วนในฤดูหนาว อากาศเย็นสบาย มีโอกาสเจอสายหมอกขาวลอยเหนือผิวน้ำ เป็นภาพสวยงามเหมือนความฝัน


12. ดินแดนหิ่งห้อย ค่ายพรหมโยธี

ภายในค่ายพรมโยธี มีผืนป่าอุดมสมบูรณ์ แวดล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ บรรยากาศเงียบสงบ ซึ่งล้วนดึงดูดให้หิ่งห้อยนับแสนดวงมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ส่องแสงสีเหลืองทองระยิบระยับยามค่ำคืน เป็นความงามทางธรรมชาติที่พบได้เฉพาะหน้าฝนเท่านั้น โดยจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชมประมาณเดือนมิถุนายน ถึง กรกฎาคม ของทุกปี


13. ทุ่งดอกหงอนนาค

ใครอยากชมทุ่งดอกหงอนนาค ไม่ต้องเหนื่อยแรงไปถึงภูสอยดาว แค่มาที่นี่ ศักดิ์สุภา รีสอร์ท ก็มีทุ่งดอกหงอนนาค สีม่วงนับหมื่นๆ ต้น บานสะพรั่ง บนพื้นที่กว่า 6 ไร่ รอให้ทุกคนมาชมความงามกัน โดยจะบานตั้งแต่เดือน พ.ย. ไปจนถึงต้น ธ.ค.ของทุกปี เสียค่าเข้าชมเบาๆ คนละ 20 บาท เท่านั้นเอง