ที่เที่ยวปารีส พระราชวัง พระราชวังแวร์ซาย เที่ยวต่างประเทศ เที่ยวฝรั่งเศส

ที่สุดของความวิจิตร ‘พระราชวังแวร์ซาย’ มรดกโลกแห่งกรุงปารีส

Home / ท่องเที่ยวรอบโลก / ที่สุดของความวิจิตร ‘พระราชวังแวร์ซาย’ มรดกโลกแห่งกรุงปารีส

‘พระราชวังแวร์ซาย’
ตามรอยคณะทูตในบุพเพสันนิวาส

ตามรอย ขุนศรีวิสารวาจา และคณะราชทูตแห่งกรุงสยาม เข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยที่ 14 ณ พระราชวังแวร์ซาย ประเทศฝรั่งเศส ชมความยิ่งใหญ่อลังการ งดงามเกินจะบรรยาย ของพระราชวังที่ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่

หากใครติดตามละครเรื่องบุพเพสันนิวาส คงจะทราบกันดีว่า พระราชวังแวร์ซาย ครั้งหนึ่งเคยใช้เป็นสถานที่ต้อนรับคณะราชทูตจากกรุงศรีอยุธยา ที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงแต่งตั้ง ให้เดินทางไปผูกสัมพันธไมตรีกับประเทศฝรั่งเศส  เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2229 (ค.ศ. 1686) นำโดย ออกพระวิสุทธสุนทร (โกษาปาน) เป็นราชทูต ออกหลวงกัลยาราชไมตรี เป็นอุปทูต และ ออกขุนศรีวิสารวาจา เป็นตรีทูต

พระราชวังแห่งนี้ ปัจจุบันตั้งอยู่ที่เมืองแวร์ซาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกรุงปารีส อยู่ห่างจากใจกลางเมืองปารีสประมาณ 17 กิโลเมตร ตัวอาคารทุกส่วนสร้างด้วยหินอ่อนละเมียดสีขาว มีสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบบาโรค และรอคโคโค ตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา ผสานกับลวดลายอันอ่อนช้อยบรรจง

ความโอ่อ่ากว้างขวางวัดได้จากขนาดพื้นที่ของพระราชวัง ทั้งหมด 800 เฮกการ์ (5,000 ไร่) โดยแบ่งออกเป็น 5 ส่วนใหญ่ๆ ด้วยกัน ได้แก่ The Palace, The Gardens, The Estate of Trianon, แและ The Park

The Palace

ในส่วนของ The Palace หรือด้านในของพระราชวัง มีห้องมากมายถึง 700 ห้อง ไม่ว่าจะเป็น ห้องบรรทม, ห้องเสวย, ห้องสำราญ และห้องพำนักอื่นๆ จัดแสดงภาพวาด 6,123 ภาพ กับงานแกะสลักอีก 15,034 ชิ้น เรื่องน่าแปลกก็คือ มีการติดตั้งหน้าต่าง 2,153 บาน บันได 67 อัน และเตาผิงกว่า 1,315 เตา แต่กล้บไม่มีห้องน้ำสักห้องเดียว

อีกจุดเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ การประดับตกแต่งด้วย โคมไฟระย้า หรือ แชนเดอเรีย ในทุกๆ จุด หรูหราควรค่าแก่การยกย่องให้เป็นพระราชวังที่งดงามล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลกจริงๆ

  • The Hall of Mirrors 

ห้องกระจก หรือ The Hall of Mirrors เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดในพระราชวัง และมีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุด ถูกก่อสร้างด้วยกระจกบานยักษ์ใหญ่เจียรไนสุดวิบวับทั้งหมด 17 บาน เมื่อเปิดออกมาจะพบเห็นมุมที่สวยที่สุดของสวนแวร์ซาย ได้ยินมาว่า พระเจ้าหลุยที่ 14 ทรงควบคุมการก่อสร้างเองทั้งหมด

ทั้งนี้ ห้องดังกล่าว เคยใช้เป็นห้องลงนามในสัญญาสงบศึกระหว่างสัมพันธมิตรกับจักรวรรดิเยอรมัน ในสงครามโลกครั้งที่ 1 (สนธิสัญญาแวร์ซาย) และใช้เป็นที่ลงนามเมื่อครั้งเยอรมนีบุกตีชนะฝรั่งเศสในสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมถึงใช้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง อย่างคณะทูตของ ออกพระวิสุทธสุนทร อีกด้วย

  • ห้อง Venus

สถาปัตยกรรมที่บอกเล่าเรื่องราวความรักและความงามตามชื่อเทพนิยายวีนัส ตกแต่งด้วยรูปปั้นชุนทรงศึกอันภูมิฐาน แบบโรมัน จากหลักฐานทางประวัติระบุว่า ราชทูตของสมเด็จพระนารายณ์ ได้เข้ามาพักที่ห้องนี้ก่อนเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยที่ 14

อุทยานแวร์ซาย (The Gardens)

อาณาบริเวณกว้างขวางสุดลูกหูลูกตาของพระราชวังแวร์ซาย รายล้อมด้วยสวนสวยที่ตกแต่งให้มีลวดลายวกวนราวกับเขาวงกต ประดับประดาด้วยต้นไม้ สวนดอกไม้แบบเรขาคณิต มีประติมากรรมสัมฤทธิ์และหินอ่อนปั้นโดยได้รับแรงบันดาลใจจากเทพนิยายกรีกโรมัน โดดเด่นด้วย น้ำพุจากเทพนิยายกรีก Fountain of Latona  สิ่งต่างๆ เหล่านี้ยิ่งทำให้รอบพื้นที่ดูขลัง ทรงพลัง ดึงดูดเราให้เข้าไปอยู่ในยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ได้อย่างไม่ยาก แต่รู้หรือไม่คะว่า? ความงามของที่แห่งนี้เคยเป็นต้นเหตุของสงครามกลางเมือง นำมาสู่การปฎิวัติฝรั่งเศสในเวลาต่อมา

The Estate of Trianon และ Marie-Antoinette’s Estate

พระตำหนักเล็กๆ ของพระนางพระนางมารี อองตัวเนต และสวนดอกไม้ส่วนตัว ท่ามกลางหมู่บ้านชนบทที่เงียบสงบ ซึ่งพระนางทรงโปรดที่จะมาพักผ่อนคลายเครียด และใช้ชีวิตเรียบง่ายแบบคนธรรมดาทั่วไป

อื้อหือออ งดงามเลอค่าไหมล่ะเจ้าคะ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของใครหลายคนเลยก็ว่าได้ ซึ่งครั้งหนึ่งในชีวิตเนี่ยต้องมาเห็นความอลังการนี้ด้วยตาตัวเอง แม้จะเสียค่าตั๋วเข้าชม แต่มันก็คุ้มค่าแล้วล่ะ ^^

เวลาทำการ

– พระราชวัง : เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 9:00 – 17:30 น. (เฉพาะช่วงเดือนเมษายน – ตุลาคม ตั้งแต่เวลา 9:00 – 18:30 น.)
สวนแวร์ซายส์ : เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 9:00 – 18:00 น. (เฉพาะช่วงเดือนเมษายน – ตุลาคม ตั้งแต่เวลา 9:00 – 18:30 น.)

วันปิดทำการ : ทุกวันจันทร์, 1 มกราคม, 1 พฤษภาคม และ 25 ธันวาคม

ค่าเข้าชม

– พระราชวัง : 15 ยูโรต่อคน
– สวนแวร์ซายส์ :
10 ยูโรต่อคน
– ตำหนักตริอานอง :
10 ยูโรต่อคน

การเดินทาง

– รถไฟ สามารถไปได้ด้วยรถไฟ RER สาย C เลือกลงที่สถานี Versailles Château – Rive Gauche เดินเท้าต่อไปประมาณ 10 นาที

– รถโดยสาร Versailles Express เป็นรถบริการรับ-ส่งจากหอไอเฟลไปพระราชวังแวร์ซาย เปิดให้บริการวันอังคาร-วันอาทิตย์ มีรถ 2 รอบต่อวัน คือ 8 โมงเช้า (ขากลับตอนเที่ยง) และบ่าย 2 โมง (ขากลับตอน 6 โมงเย็น) หรือ นั่งรถบัสสาย 171 ป้าย Pont de Sèvres เมืองปารีส จนถึง Chateau de Versailles

Source : mushroomtravel, 1000milestravellptraveller.meithailandpentorexchangechateauversaillesChâteau de Versaillesabc.net.aucometoparis, pinterest, flickr