ที่เที่ยวรัสเซีย ประเทศรัสเซีย ฟุตบอลโลก ฟุตบอลโลกปี 2018 เที่ยวต่างประเทศ เที่ยวรัสเซีย

เที่ยวรัสเซีย เชียร์บอลโลก กับ 11 เมืองเจ้าภาพ ฟุตบอลโลกปี 2018

Home / ท่องเที่ยวรอบโลก / เที่ยวรัสเซีย เชียร์บอลโลก กับ 11 เมืองเจ้าภาพ ฟุตบอลโลกปี 2018

เที่ยวรัสเซีย เชียร์บอลโลก กับ
11 เมืองเจ้าภาพ ฟุตบอลโลกปี 2018

อีกไม่กี่อึดใจ แฟนบอลทั่วโลกก็จะได้ร่วมลุ้นร่วมเชียร์ มหกรรม ฟุตบอลโลกปี 2018 หรือ FIFA World Cup ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม 2561 และอย่างที่เรารู้กันดีว่าปีนี้รัสเซียเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โดยใช้สนามแข่งทั้งหมด 12 สนาม กระจายอยู่ใน 11 เมือง

Travel mthai เลยขออาสาพาเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวฮิตๆ ในแต่ละเมือง สัมผัสกลิ่นอายประวัติศาสตร์ ความคลาสสิค ศิลปวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมที่งดงามแตกต่างกันไป ซึ่งเราคนไทยสามารถไปเที่ยวรัสเซียได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าด้วย แค่มีพาสปอร์ตเล่มเดียวก็ขึ้นเครื่องได้เลย เอ้า! ไม่รอช้า ไปเชียร์บอลแล้วเที่ยวฟินๆ รับลมหนาวกันเถอะ

1. มอสโก (Moscow)

เยือนเมืองหลวงของรัสเซีย “กรุงมอสโก” ศูนย์กลางเศรษฐกิจ การเงิน การศึกษา และการเดินทางของประเทศ มีความน่าสนใจทั้งด้านประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรม สถานที่เที่ยวไฮไลท์ เช่น จัตุรัสแดง ลานกิจกรรมของชาวเมือง เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลต่างๆ ทั้งวันขึ้นปีใหม่ วันชาติ วันแรงงาน ฯลฯ

บริเวณโดยรอบจัตุรัสแดง ยังเป็นที่ตั้งของ พระราชวังเครมลิน (Grand Kremlin Palace) หัวใจของรัสเซีย ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บสมบัติล้ำค่าของพระเจ้าแผ่นดินหลายพันชิ้น

ใกล้ๆ กับพระราชวังเครมลิน ขนาบข้างด้วย มหาวิหารเซนต์เบซิล (St. Basil’s Cathedral) โดดเด่นด้วยโดมรูปหัวหอม สีสันสดใส  เป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานเลนิน หรือ สุสานเลนิน ซึ่งเก็บรักษาร่างของวลาดีมีร์ เลนิน ผู้นำคอมมิวนิสต์คนสำคัญ และเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าไปเคารพศพได้

หากมาเที่ยวรัสเซีย แล้วไม่มีรูปถ่ายของทั้งสามแห่งนี้ล่ะก็ เท่ากับมาไม่ถึงรัสเซียเลยนะคะ

***********************************************************************

2. คาซาน (Kazan)

คาซาน เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐตาตาร์สถาน มีอายุเก่าแก่มากกว่า 1,000 ปี เคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาทางน้ำเมื่อปี 2015 และล่าสุดก็คือเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ฟุตบอลโลก ปี 2018 รอบสุดท้าย

สถาปัตยกรรมส่วนใหญ่ที่พบเห็นในเมืองนี้จะเป็นมัสยิด ที่สร้างเคียงข้างไปกับโบสถ์หลายแห่ง และยังมีสถานที่เที่ยวน่าสนใจอีกมาก เช่น มัสยิดคุล ชาริฟ, เครมลินแห่งคาซาน ย่านประวัติศาสตร์ที่ถูกยกให้เป็นมรดกโลก, วัดรวมของทุกศาสนา (The Temple of all Religions) มีสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ และสุเหร่า ดูบอลโลกจบแล้ว ออกมาเดินเตร็ดเตร่ต่อที่  Bauman Street ถนนคนเดินเล็กๆ ที่เรียงรายไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่

***********************************************************************

3. ซามารา (Samara)

เมืองซามารา ศูนย์กลางการคมนาคมและอุตสาหกรรมในรัสเซีย ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งแม่น้ำวอลก้า ที่มีแม่น้ำซามาราไหลมาบรรจบ ในเมืองมีสถาบันนวิศวกรรม ที่มีส่วนช่วยบุกเบิกโครงการด้านอวกาศของประเทศ และเป็นที่ตั้งของทั้งโบสถ์ มหาวิหาร และหนึ่งในมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซียเลยทีเดียว

อย่าพลาดไปสัมผัสธรรมชาติสวยๆ รอบอุทยาน Samarskaya Luka พิชิตยอดเขา  Zhiguli หรือนั่งชมพระอาทิตย์ตกริมแม่น้ำโวลก้า ก็โรแมนติกไม่เบา

***********************************************************************

4. เยคาเตรินเบิร์ก (Yekaterinburg)

เยคาเติรนเบิร์ก เมืองใหญ่อันดับ 4 ของรัสเซีย ตั้งอยู่ตรงเส้นแบ่งเขตระหว่างยุโรปกับเอเชีย และยังเป็นสถานีรถไฟสำคัญในเส้นทางรถไฟสาย ทรานส์ไซบีเรีย ด้วย

ภายในเมืองเต็มไปด้วย ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ รวมถึงอนุสาววรีย์ที่แสนจะพิสดาร สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงบุคคลและสิ่งของต่างๆ เช่น ไมเคิล แจ็คสัน, มนุษย์ล่องหน, คีย์บอร์ด ฯลฯ นอกจากนี้ยังมี โรงละครของคณะบัลเลต์และโอเปร่า โรงละครสัตว์ ซึ่งมีลักษณะเป็นโดม ประดับประดาด้วยลวดลายวิจิตรบรรจง สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คือ โบสถ์อนุสรณ์สถานเลือดของนักบุญ

***********************************************************************

5. เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (St. Petersburg)

เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก เป็นนครที่ใครหลายคนเคยมาแล้วต้องตกหลุมรัก ภายในเมืองมีคลองที่สวยงามไหลผ่านมากมาย จนได้รับการขนานนามว่า Venice of the North  นอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศที่ดีต่างจากเมืองอื่นๆ ในรัสเซียแล้ว ยังมีความลึกลับจากสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นยิ่งกว่า ไม่ว่าจะเป็น มหาวิหารเซนต์ไอแซค, โบสถ์สโมนี่ย์คอนแวนส์, พระราชวังฤดูหนาว, พระราชวังฤดูร้อน, พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจ และสถาปัตยกรรมสุดทึ่งแต่แฝงด้วยประวัติศาสตร์แห่งความเศร้าอย่าง โบสถ์แห่งหยดเลือด

***********************************************************************

6. โซชิ (Sochi)

เมืองโซชิ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย ติดกับทะเลดำ ถือเป็นเมืองตากอากาศที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีความสวยงามทางธรรมชาติ และได้บรรยากาศของเมืองยุคใหม่ ขณะเดียวกันก็ยังเหลือร่อยรอยประวัติศาสตร์ให้เห็น

นอกจากเป็นเมืองแห่งการพักผ่อนแล้ว เรื่องกีฬาก็โด่งดังไม่แพ้กัน เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองสกีรีสอร์ทชั้นนำของประเทศ แถมเคยเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกฤดูหนาวเมื่อปี 2014 ด้วย

อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์โซชิ ด้านในจัดแสดงวัตถุสิ่งของ บอกเล่าประวัติของเมือง รวมถึงเรื่องราวของยูริเอกาการิน ชาวเมืองโซชิ ที่เป็นนักบินอวกาศคนแรกของโลก หรือเดินชิลล์ริมทะเล  เยือน “Port of Sochi” ท่าเรือขนาดใหญ่ ที่เราจะเห็นเรือยอร์ชหรูหลายลำจอดเรียงราย คอยต้อนรับนักท่องเที่ยว

***********************************************************************

7. คาลินินกราด (Kaliningrad)

คาลินินกราด เมืองเล็กๆ นี้ เดิมเคยเป็นดินแดนของเยอรมนี อยู่ตรงกลางระหว่าง โปแลนด์กับลิทัวเนีย โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าสลับกับหนองน้ำ ถือเป็นเมืองที่มีธรรมชาติสมบูรณ์ที่สุดในรัสเซีย

สถานที่เที่ยวเด่นๆ เช่น อาสนวิหารเคอนิจส์แบร์ก (Konigsberg Cathedral) อาคารอิฐสีแดงส้ม สร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรมโกธิค, จัตุรัสกลางเมือง (Victory Square) สร้างขึ้นสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อแสดงถึงชัยชนะของรัสเซีย แวดล้อมด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ธนาคาร แหล่งช้อปปิ้ง และยังเป็นที่ตั้งของ Cathedral of Christ the Saviour มหาวิหารที่มีหลังคาโดมสีทอง แวววับสะดุดตา

***********************************************************************

8. นิจนีนอฟโกรอด (Nizhny Novgorod)

หนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของรัสเซีย ตั้งอยู่ระหว่างมอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ทางตอนใต้ของแม่น้ำวอลกา ในอดีตเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและการปกครองที่สำคัญ ปัจจุบันได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลก พลาดไม่ได้กับการไปชมความงามของโบสถ์เก่า วิหารเซนต์โซเฟีย (St. Sophia) ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 เขตใจกลางเมืองเครมลิน เขตการค้าเก่ายาโรสลาฟ  พิพิธภัณฑ์ศิลปะรัสเซีย (Fine Arts Museum) ป้อมปราการเก่าแก่ ตลอดจนอนุสรณ์ทางประวัติศาสตร์อีกหลายร้อยแห่ง

***********************************************************************

9. รอสตอฟ ออนดอน (Rostov-on-Don)

เมืองท่าและเมืองท่องเที่ยว ที่มีชื่อเสียงของแคว้นรอสตอฟ (Rostov) เหมาะกับการมาเที่ยวชิลล์ๆ ริมแม่น้ำ หรือนั่งเรือเสพบรรยากาศก็ฟินอยู่ แล้วไปเดินเล่นชิลล์ๆ ที่ Theathre Square แสควร์หลักของเมืองที่คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวหลายพันคน และไปเยี่ยมชม Virgin’s Nativity Cathedral วิหารสีขาว ที่ถือเป็นสถานที่เที่ยวหลักอีกแห่งของเมือง

***********************************************************************

10. ซารันสค์ (Saransk)

เมืองหลวงของสาธารณรัฐมอร์ดวีเนีย เป็นศูนย์กลางการค้าและธุรกิจ เต็มไปด้วยมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม มีทั้งมัสยิด โบสถ์ มหาวิหารที่ได้รับอิทธิพลมาจากฝรั่งเศส สุเหร่า สำนักสงฆ์ โรงละคร เรียกว่าเหมือนย้อนยุคสู่รัสเซียในอดีตกันเลยทีเดียว ที่น่าสนใจก็คือ วิหารของนักรบศักดิ์สิทธิ์ F. Ushakov และ โบสถ์เซนต์จอห์นเทวี ซึ่งเป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุด ส่วนใครชอบเรื่องราวประวัติศาสตร์ ที่นี่ก็มีพิพิธณฑ์ดีๆ กระจายอยู่ทั่วเมือง

***********************************************************************

11. วอลโกกราด (Volgograd)

เมืองโวลโกกราด ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสายใหญ่ คือ แม่น้ำโวลก้า บรรยากาศดี อากาศดี การเดินทางในเมืองสะดวก มีรถไฟให้บริการในเมือง แลนด์มาร์คของเมืองนี้ก็คือ อนุสาวรีย์ The Motherland Calls หนึ่งในรูปปั้นที่โด่งดั่งไปทั่วโลก เป็นรูปปั้นสตรีกำดาบชูขึ้นบนฟ้า แสดงถึงชัยชนะของสหภาพโซเวียตหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลบางส่วนจาก : rakyimtourtripzillaเที่ยวรัสเซียskyscannertravel.thaizanapiratravelstylistworldatlasthoughtco