ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยว “ไต้หวัน” เมืองน่ารัก กันค่ะ พร้อมกับ Sketchbook เที่ยวไปวาดไปในสไตล์ของ บ่มิguide มีภาพการเดินทาง รายละเอียดต่างๆ ถ่ายทอดลงในกระดาษเก็บไว้เป็นความทรงจำแสนพิเศษ ^^ แถมการเดินทางครั้งนี้งบประมาณ 15,000 – 20,000 บาท เดินทาง กิน เที่ยว ที่พัก ครบ!
เที่ยวไปวาดไปที่ “ไต้หวัน” เมืองน่ารัก กับ My Sketchbook
ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่เพื่อนทั้งหมด 11 คน จะสามารถพร้อมใจกันลางานในวันเดียวกันได้ นี่เราวางแผนกันล่วงหน้ากันร่วม 6 เดือนเลยทีเดียว เพื่อไปเที่ยวไต้หวัน 5 วัน แบบลั้ลลาสุดๆ ไปเลย




งบเที่ยวครั้งนี้เตรียมไว้ประมาณ 15,000 – 20,000 บาท ต่อคน (ค่าเครื่องบินไปกลับ ที่พักแบบโฮสเทล ค่าเดินทาง อาหาร ถ้าช้อปเยอะๆก็คงทะลุ 2หมื่น แต่ถ้าไม่ช้อป กินปกติ เดินเยอะๆ เที่ยวทั่วไป 15,000 นี่เอาอยู่แน่ๆ อาจเหลือกลับบ้านด้วยซ้ำ…เราเหลือแหละ)
ที่พัก
เราเลือกพักแบบที่ Holo Hostel เพราะทำเลที่ตั้งสะดวกมาก ใกล้อาหาร เซเว่น และใกล้รถไฟใต้ดิน และมีที่พักเพียงพอสำหรับ 11 คนhttp://www.holo-family-hostel.com/
ห้องพัก เป็นเหมือนเขาเช่าห้องอื่นๆ ในตึกไว้สำหรับนักท่องเที่ยว ตัวออฟฟิศของ Holo อยู่ที่ชั้น 22 ส่วนเรา 5 คนแยกมาอยู่ที่ชั้น 18
ห้องพักมีพื้นที่พอประมาณ ไม่ได้สะอาดมาก อยู่ในระดับกลางๆ มีล๊อคเกอร์สไตล์ไฮสคูลที่พาให้รำลึกถึงโรงเรียนประจำสมัยมัธยม ส่วนห้องน้ำ มีห้องน้ำส่วนตัวไว้ในห้องของเรา แต่ไม่ได้สะอาดมาก แต่ก็นะ เราก็ไม่ได้อยู่ห้องพักนาน มีไว้ซุกหัวนอนก็พอ แค่มีแม่บ้านมาทำความสะอาดทุกวัน ก็น่าจะโอแล้วแหละ ส่วนอาหารเช้า บริการตั้งแต่ 7.30 ขึ้นไป เป็นแบบข้าวต้มและมีขนมปังปิ้ง
Sun Moon Lake
การเดินทางไป Sun Moon Lake เราเดินทางโดยเหมารถมินิบัสขนาด 20 ที่นั่งพร้อมคนขับรถ และให้เค้ามารับที่สนามบินตั้งแต่วันที่เดินทางมาถึง แล้วก็หอบสัมภาระขึ้นรถมินิบัสไปเลย
รถมินิบัสของเราน่ารักมากๆ ภายในรถมีพื้นที่เก็บสัมภาระและนั่ง นอน กลิ้ง เม้า สบายๆ นั่งรถไป 3 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึง Sun Moon Lake และเริ่มปั่นจักรยานกันตอนบ่ายโมงกว่าๆ อากาศกำลังดีไม่ร้อน
ไม่หนาว มีลมเย็นๆ
กลับมาคืนจักรยานประมาณ 5 โมงเย็นก็ต้องขึ้นรถกลับแล้ว เพราะไม่งั้นจะถึงที่พักดึกเกินไป และก็อาจต้องเสียค่าตัวพี่คนขับรถเพิ่มอีกด้วย
Jimmy Liao Park, Yilan Station
ใครเป็นแฟนภาพประกอบของจิมมี่เหลียวต้องคาดหวังและอยากมาที่นี่แน่นอน ที่นี่เป็นเมืองเกิดของจิมมี่ สถานีรถไฟก็เลยน่ารักสวยงามตามแบบฉบับตามหนังสือของจิมมี่เหลียว
มีประมาณนี้ไม่ได้เยอะมากอย่างที่คาดหวังไว้ แต่เห็นมีคนมาบอกทีหลังว่าถ้าเดินไปอีกซักหน่อยจะเจออีกเรื่อยๆเลยพลาดซะแล้ว เราพลาดซะแล้ว นึกว่ามีแค่ Jimmy Liao ตรงนี้ที่เดียวเสียอีก ฮือๆ กลับไปไม่ทันแล้วสินะ
Jiufen old street
จากอี๋หลานนั่งรถไฟมาที่สถานี Ruifang และขึ้นรถเมล์มาไม่นานก็ถึงจิ่วเฟิ่นเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่กลมกลืนไปกับเนินภูเขา แต่คนก็เยอะนะดูน่าจะเป็นสถานที่ที่ทัวร์จีนและทัวร์ไทยนิยมมากินมาเที่ยวที่นี้กัน มันคึกคักจนหามุมที่ภาพวาดของหนังการ์ตูนเรื่อง Spirited Away ไม่ออกเลย
ระหว่างข้างทางมีของขายเรื่อยๆ มีคนเดินสวนไปมาเบียดๆเหมือนจตุจักรบ้านเรา แต่อากาศเย็นสบายกว่า เดินไปเรื่อยๆจนเจอจุดไฮไลท์ที่ใครๆก็ต้องถ่ายรูป
เดินเที่ยวเสร็จแล้วถ้าไม่อยากเดินกลับทางเดิม ลองเดินเลยมาเรื่อยๆนะ จะมีร้านเล็กๆข้างทางขายของแฮนเมดน่ารักๆ คนก็ไม่เยอะมากเดินสบายๆเรื่อยๆจะเจอบันไดด้านขวามือ ขึ้นไปโผล่เซเว่นได้เลย ตรงทางที่เราเข้ามาตอนแรกพอดี
Songshan Culture and Creative Park
โรงงานยาสูบเก่าถูกโมดิฟายด์มาเป็นแหล่งรวมExhibition Design เก๋ๆ เดินเล่นเพลินๆ เสียตังค่าเข้าชมแค่ 150 NTW (ตารางงานแสดงhttp://www.songshanculturalpark.org/en/)
ตัวตึกมี shop ขายสินค้าของไต้หวันชนิดเน้นดีไซน์ดีๆราคาสูงหน่อยแต่ถ้าจะไปเดินเล่นก็เพลินมากๆทีเดียว ส่วนชั้นใต้ดินจะมี Food Court ราคาอยู่ที่ประมาณ 100-300 ต่อหัว มีอาหารไทยขายด้วยนะ(แต่แอบแพง)
Creative Park, Huashan
ย่านนี้โด่งดังอยู่แล้ว เต็มไปด้วยเด็กวัยรุ่นและร้านขายของน่ารัก
และที่อดไม่ได้เลยก็คือNever Ending Story ร้านกาแฟที่ตกแต่งในแบบฉบับของจิมมี่เหลียว ข้างในขายของที่ระลึกที่เป็นผลงานของเขาด้วย ราคาของแทบช๊อค
สุดท้ายได้หมอน When the Moon Forgot ราคา 690 และสมุด Kiss and goodbye เอามากอดให้ชื่นใจ
When the Moon Forgot
รถบัสหน้าตาน่ารักแบบนี้ก็เป็นผลงานของจิมมี่เหลียวไงเรื่อง When the Moon Forgot ขึ้นรถไฟใต้ดินสถานี Taipei 101 World Trade Center , ทางออกที่ 3
Sound of Colors ในใจ…ไกลกว่าสายตา
เรื่องราวของเด็กสาวที่ตาบอดแต่สามารถมองอะไรได้ละเอียดอ่อนกว่าคนสายตาอย่างเราๆ เรื่องนี้เรื่องที่ชอบเลย เลยต้องไปดูให้อินสะหน่อย เดินทางมาสถานีรถไฟใต้ดิน Nangang Station มาถ่ายรูปเล่นและเดินเล่นแล้วก็กลับ ลักษณะก็เหมือนงานที่ปริ้นเป็นภาพขนาดใหญ่ลงบนกำแพงไม่มีอะไรมากหรอก แต่แค่ทำให้นึกถึงหนังสือเท่านั้นเอง
Sun Yat-Sen Memorial Hall
มาเที่ยวแนวประวัติศาสตร์กันสักนิด ที่นี่เป็นอนุสรณ์สถานที่ตั้งขึ้นเพื่อรำลึกถึง ดร. ซุน ยัดเซ็น ผู้ที่มีบทบาทในการปฏิวัติราชวงศ์ชิงและก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน รู้แค่นี้แหละ ใครเก่งประวัติศาสตร์มาเพิ่มเติมให้ที…
บรรยากาศรอบๆมีคนมาออกกำลังกาย ส่วนเด็กวัยรุ่นก็มารวมตัวซ้อมเต้นโคเวอร์รอบๆอนุสรณ์สถาน ยืนดูสนุกดี ดูการแสดงเต้นโคเวอร์ของเด็กไต้หวันเสร็จก็มารอดูการผลัดเปลี่ยนเวรของทหารเฝ้าเวรบริเวณหน้ารูปปั้นทองเหลืองตอน 11 โมง คนเยอะเหมือนกัน ส่วนมากจะเป็นทัวร์มาลง เลยหามุมยากนิดนุงงงง
ตลาดปลา TAIPEI FISH MARKET (ไถเป่ยหวี่ซื่อ)
ที่นี่น่าจะเป็นที่ปลาบปลื้มของคนชอบกินซาชิมิสด และที่สำคัญราคาไม่แพง อีกทั้งน่าตาของตลาดและอาหารยังดูดีมาก ห้องน้ำก็สะอาดเริด นั่งรถไฟใต้ดินขึ้น Zhongshan Junior High School จากนั้นนั่งรถเมล์มาอีกเล็กน้อย แนะนำว่ามาเร็วๆนะ มาเที่ยงๆนี่ คิวยาว หาที่นั่งลำบาก
อาหารประหลาด –-อะไรเอ่ยไม่เข้าพวก– อาหารว่างชิ้นนี้คือการ Combination ระหว่าง แฮม ชีส และ แยมสตอเบอรี่ ในแป้งคล้ายซาลาเปาทอด กัดปุ๊ปปป อืมมมมทายซิ อะไรเอ่ยไม่เข้าพวก
ม๋าล่าชาบู
จองมานานเนิ่นนานได้ทานสะที อะไรคือม๋าล่า เดาว่าน่าจะเป็นชื่อของเครื่องปรุงสมุนไพรในน้ำซุปหรือเปล่า ที่มีสีแดงๆ และรสชาติแบบเผ็ดร้อน น่าจะถูกปากคนไทยอย่างเราๆ ส่วนเนื้อส่วนต่างๆนั้น มีความอร่อยระดับสูงทีเดียว เนื้อบางๆ จุ่มลงน้ำชาบูม๋าล่า จิ้มน้ำจิ้มแบบฉบับตัวเองแล้วละลายในปาก ถือว่าดีงาม แต่พวกลูกชิ้นและอาหารทะเลเฉยๆนะ ส่วนเครื่องดื่มมีให้เลือกทั้งเบียร์ คาลพิสแลคโตะ ชาเขียว ประมาณนี้ โดยรวมก็พอใช้ แต่คนเยอะมาก ต้องจองก่อนนะ
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเส้นราเมง
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อดูจะเป็นจีน แต่เส้นราเมงนี่ญี่ปุ่นนะ เนื้อแป้งแน่นมาก อัดลงในชามแบบเต็มๆ ชามนี้ราคา 140 กินได้สองคนเลยทีเดียว ให้แบบไม่อั้นทั้งเส้นและเนื้อ อันนี้งานดีค่ะ อยากให้ลอง ถูกแถวๆ Taipei Main Station
นมในเซเว่น และแฟมมิลี่
I love milk แนะนำโดยอดีตนักเรียนไต้หวัน ลองเข้าไปเท่านั้นแหละติดใจกันทุกคน นมรสมอลต์หอมหวานจริงๆ
เยลลี่น้ำกบ ไม่แน่ใจว่าน้ำกบทำมาจากอะไร รู้สึกว่าจะได้มาจากผลมะเดื่ออะไรนี่ (แต่ไม่ใช้กบอ๊บอ๊บแน่นอน) รสชาติสดชื่นดี ตัวน้ำเปรี้ยวๆ และวุ้นจืดๆ กินง่าย
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : facebook.com บ่ มิ guide