ถ้ำ ถ้ำผานางคอย ถ้ำภูผาเพชร ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ถ้ำเชียงดาว ถ้ำเลเขากอบ เที่ยวถ้ำ

5 ถ้ำสวยเมืองไทย กับเรื่องเล่าขานจากรุ่นสู่รุ่น

Home / นักเที่ยวเชี่ยวทาง / 5 ถ้ำสวยเมืองไทย กับเรื่องเล่าขานจากรุ่นสู่รุ่น

สำหรับคนชอบเที่ยวแนวแอดเวนเจอร์ ไม่ว่าจะเดินป่า ขึ้นเขา ปีนผา ลงน้ำ ก็ไปได้หมดไม่มีหวั่น แล้วยังได้ชื่นชมธรรมชาติรอบตัวที่สวยงามด้วย แต่อย่าลืมว่ายังมี ถ้ำสวยเมืองไทย ซึ่งวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปสำรวจกัน ผนวกกับความเชื่อที่เล่าต่อกันมานั้น ยิ่งถ้ำให้เหล่านี้ ดูลึกลับและน่าค้นหา

5 ถ้ำสวยเมืองไทย
กับเรื่องเล่าขานจากรุ่นสู่รุ่น

ถ้ำเชียงดาว จ.เชียงใหม่

ขอบคุณภาพจาก tourismthailand

ถ้ำเชียงดาว ตั้งอยู่เชิงเขาดอยหลวงเชียงดาว เป็นกลุ่มถ้ำขนาดใหญ่ มีหินงอกหินย้อยสวยงามรูปต่างๆ โดยมีเส้นทางสำรวจถ้ำแยกเป็น 3 เส้นทาง อันได้แก่ ถ้ำพระนอน ถ้ำมืด-ถ้ำม้า และถ้าแก้ว-ถ้ำน้ำ และธารน้ำที่ไหลมาจากในตัวถ้ำออกมายังด้านนอกถ้ำเป็นสระน้ำ มีปลาน้อยใหญ่อาศัยอยู่จำนวนมาก นอกจากนี้ก็มีพันธุ์ไม้ป่าหลากหลายให้ชม และบริเวณหน้าถ้ำยังเป็นที่ตั้งของวัดถ้ำเชียงดาวอีกด้วย

มีเรื่องลึกลับเล่าต่อกันมาถึง เจ้าหลวงคำแดง บุตรชายของเจ้าผู้ครองเมืองพะเยา ซึ่งได้ทิ้งบ้านเมืองเพียงเพื่อตามหาหญิงสาวที่แปลงร่างเป็นกวางทอง แล้วหายลับเข้าไปในถ้ำแห่งนี้ เจ้าหลวงคำแดงจึงตามเข้าไปในถ้ำ แต่ก็ไม่ได้กลับออกมาอีกเลย ชาวบ้านเชื่อว่า เจ้าหลวงคำแดงน่าจะกลายเป็นเทวดาคอยปกปักรักษาถ้ำหลวงเชียงดาว จึงร่วมกันสร้างศาลถวายท่าน และตั้งชื่อว่า “ศาลพ่อหลวงคำแดง”

********************************************************

ถ้ำเลเขากอบ จ.ตรัง

ถ้ำเลเขากอบ เป็นถ้ำใหญ่ที่มีน้ำไหลผ่านตลอดถ้ำ โดยด้านในมีโถงถ้ำมากมายภายใต้ภูเขากอบ  ไฮไลท์คงเป็นช่วงของ ถ้ำลอด หรือ ถ้ำมังกร ที่เราจะต้องนอนราบไปกับท้องเรือ คนขับเรือด้านหน้าจะใช้มือดันเรือให้ลงต่ำพอลอดถ้ำไปได้ ในขณะที่นายท้ายก็จะคอยก้มตัวต่ำพยุงเรือด้วย 2 ฝ่ามือ พาเหล่านักท่องเที่ยวตกตะลึงไปกับความงามของบรรดาหินงอก หินย้อยที่เฉี่ยวแฉลบปลายจมูก ถือเป็นหนึ่งที่เที่ยว Unseen ของไทย

Credit : MThai News

อีกหนึ่งถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงามคือ ถ้ำคนธรรพ์ ซึ่งมีหินอยู่ส่วนหนึ่งที่เมื่อเคาะแล้วจะเกิดเสียงกังวาลคล้ายเสียงเครื่อง ดนตรีไทย ตำนานเล่าว่า ในอดีตมีคนธรรพ์มาเคาะเล่นดนตรีให้นางกินรีฟังขณะที่กำลังเล่นน้ำตกภายในถ้ำ และมีหินส่วนหนึ่งย้อยลงมาคล้ายกับฉากมโนราห์สวยงาม

********************************************************

ถ้ำภูผาเพชร จ.สตูล

ถ้ำภูผาเพชร ถ้ำใหญ่กลางขุนเขา ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ภายในถ้ำมีความวิจิตรตระการตา เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยที่ส่องแสงระยิบระยับสวยงามราวกับเพชร จึงเป็นที่มาของชื่อถ้ำภูผาเพชร และยังแบ่งออกเป็นห้องเล็กห้องน้อยประมาณ 20 ห้อง มีชื่อเรียกต่างกันออกไป หนึ่งในนั้นคือ ห้องแสงมรกต ที่เขาเล่าขานกันว่า ถ้าไปในเวลาที่แสงจากภายนอกทำมุมเข้ามา กระทบกับหินสีเขียวก้อนใหญ่ตรงกลางห้อง จะเกิดเป็นถ้ำแสงมรกตให้เห็น ใครได้มาเห็นสักครั้ง ก็จะเกิดพลังชีวิต

********************************************************

ถ้ำผานางคอย จ.แพร่

ขอบคุณภาพจาก Tat Phrae

ถ้ำผานางคอย อยู่บนหน้าผาสูง 50 เมตร เป็นอุโมงค์ลึกยาว 150 เมตร กว้าง10 เมตร ลักษณะของถ้ำโค้งงอเป็นข้อศอกไปทางซ้าย และทางขวาเป็น 3 ตอนด้วยกัน ภายในถ้ำมีหินงอก หินย้อยลักษณะต่างๆ ทั้งที่เป็นเกล็ดหินประกายระยิบระยับ หรือเป็นชะง่อนหินยาวถึงพื้นถ้ำ สุดทางของถ้ำมีก้อนหินรูปร่างคล้ายหญิงสาวนั่งอุ้มลูกน้อยรอคอยคนรัก ชาวบ้านเรียกหินก้อนนี้ว่า หินนางคอย ตามตำนานพื้นบ้านของถ้ำแห่งนี้ เบื้องหน้าของหินนางคอยมีหินย้อย ลักษณะคล้ายรูปหัวใจดูแปลกตาสวยงาม นอกจากนี้ภายในถ้ำยังมีพระพุทธรูปองค์หนึ่ง เป็นที่เคารพสักการะของชาวแพร่

ตามตำนานนั้นเป็นเรื่องความรักยิ่งใหญ่ระหว่างทหารต่ำศักดิ์ กับ เจ้าหญิงสูงศักดิ์คู่หนึ่ง มีอยู่ว่า เมื่อ 800 ปีมาแล้วสมัยอาณาจักรแสนหวี เจ้าแม่อรัญญาณีได้เสด็จโดยชลมารคแล้วเรือล่ม หัวหน้าฝีพายได้ช่วยเหลือเจ้าหญิงไว้ได้ ทั้งสองจึงเกิดรักกัน จนเจ้าหญิงตั้งครรภ์  พระราชบิดาทราบเรื่องก็ทรงพิโรธ จึงได้ขังเจ้าหญิงไว้ แต่ฝ่ายชายก็หาโอกาสช่วยพาหนีลงมาทางใต้  จนถึงกลางป่าถูกทหารตามล่ามาอย่างกระชั้นชิด ทหารยิงคะนองเดชแต่พลาด ถูกกลางอุระ (อก) ของเจ้าหญิง ทั้งสองจึงพากันไปหลบซ่อนในถ้ำ และประสูติพระโอรส เจ้าหญิงได้ให้ชายที่รักหนีไป พร้อมตั้งจิตอธิฐานว่าจะรอคอยฝ่ายชายอยู่ในถ้ำนี้ตลอดไป ด้วยอนุภาพสัจจะนางจึงกลายเป็นหิน มือโอบพระโอรสไว้บนตัก เป็นที่มาของชื่อถ้ำผานางคอยนั่นเอง

********************************************************

ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ. เชียงราย

วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตั้งอยู่บนเทือกเขาดอยนางนอน ซึ่งมีลักษณะเป็นภูเขาขนาดใหญ่หลายลูกเรียงตัวสลับซับซ้อน มองดูคล้ายผู้หญิงนอนเหยียดยาว มีส่วนหัว จมูก หน้าอก และลำตัวชัดเจน

สำหรับ ถ้ำหลวง เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ มีความยาว 10,316 เมตร หรือประมาณ 7 กิโลเมตร โดยนักธรณีวิทยาจัดอันดับให้ถ้ำหลวงยาวเป็นอันดับ 4 ของไทย ภายในถ้ำจะพบกับความงามของ เกล็ดหินสะท้อนแสง หินงอก หินย้อย ธารน้ำและถ้ำลอด ด้วยอุปสรรคมากมายภายในถ้ำ ทำให้นักท่องเที่ยวที่เข้าไปสำรวจ ยังไม่ถึงจุดหมายที่ลึกสุดก็ต้องล่าถอยแทบทุกราย

มีตำนานเกี่ยวกับดอยนางนอนเรื่องหนึ่งเล่าว่า เจ้าหญิงแห่งเมืองเชียงรุ้ง สิบสองปันนา หนีตามชายเลี้ยงม้าในวังไปจนถึงที่ราบใกล้แม่น้ำโขง ขณะนั้นเจ้าหญิงก็ทรงครรภ์ได้หลายเดือนแล้ว เดินทางต่อไม่ไหว จึงขอรออยู่ที่นี่ ส่วนสามีก็อาสาออกไปหาอาหารมาให้ แต่หายไปไม่กลับมาอีกเลย ทราบข่าวอีกทีว่าสามีถูกฆ่าโดยทหารของพระราชบิดา นางเสียใจมาก เลยเอาปิ่นปักผม แทงพระเศียรตนเอง จนเลือดไหลออกมาเป็นสาย กลายเป็นแม่น้ำแม่สาย ร่างที่นอนเหยียดยาวจากทิศใต้จรดทิศเหนือ ก็กลายเป็น ดอยนางนอน และตรงท้องที่นูนขึ้นมาก็เป็นดอยตุง อย่างที่เราเห็นทุกวันนี้

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก : phraeThe Teak Resort At ChiangdaoPhrae.in แพร่อิน